แม่สุดทน! โร่ขึ้น สน. แจ้งจับ รุ่นพี่มหาวิทยาลัยดัง รับน้องสุดถ่อย สั่งธำรงวินัย ‘ต่อยจนม้ามแตก!!’ เหตุเพราะคุมน้องอยู่ในระเบียบไม่ได้ เผยนาทีสุดทรมาน ก่อนไปโรงพยาบาล เข้ารับการผ่าตัดที่ห้องไอซียู!

จากกรณี มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กRungroj Khwunkomol โพสต์ข้อความแฉมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง รับน้องสุดพิสดาร โดยมีการ “ต่อยจนม้ามแตก” โดยให้เหตุผลว่า ดูแลรุ่นน้องไม่ดี โดยมีเพื่อนหลานประมาณ 20 คน ก็โดนต่อยเช่นกัน โดยขณะนี้ต้องตัดม้ามทิ้ง และยังอยู่ในห้อง ICU และใส่เครื่องช่วยหายใจ

– สุดทน รับน้องโหด โร่แจ้งความ! / ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ก.ค. น.ส.ประสบสุข เชียงเชาว์ไว อายุ 37 ปี พร้อมน.ส.รุ่งโรจน์ ขวัญโกมล อายุ 36 ปี น้องสาวได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท ณรงค์ ยิ้มปั่น รองผกก (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ ว่านาย ปวริศ หรือเปา รังสิต อายุ 19 ปี บุตรชายซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ย่านทุ่งมหาเมฆ ถูกรุ่นพี่นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเดียวกันสั่งทำโทษและทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยจนมีอาการม้ามแตก อาการสาหัส ต้องเข้ารับการผ่าตัดและนอนพักรักษาตัวในห้องไอซียู รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา

น.ส.ประสบสุข ให้การว่า ปกตินายปวริศ บุตรชาย พักอาศัยอยู่กับ น.ส.รุ่งโรจน์ ขวัญโกมล อายุ 36 ปี น้องสาวของตนเอง ในย่านถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งสะดวกต่อการไปกลับระหว่างเรียนหนังสือ กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา น้องสาวโทรศัพท์มาบอกตนว่า ได้พานายปวริศ เข้าทำการผ่าตัดจากอาการม้ามแตกที่ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยด่วนตนรู้สึกตกใจมากจึงรีบเดินทางมาที่โรงพยาบาล

น.ส.ประสบสุข ให้การรต่อว่า จากการสอบถามเจ้าตัวและเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันทีแรกทุกคนไม่มีใครกล้าบอก ต้องคาดคั้นความจริงอยู่นานกว่าจะยอมพูดความจริงว่าโดนรุ่นพี่ปี 3 คณะเดียวกัน 3 คนสั่งทำโทษและร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตลอดทั้งวันที่บุตรชายตนเข้ารับการผ่าตัดจนออกมานอนพักฟื้นรอดูอาการที่ห้องไอซียูนั้นตนได้พยายามติดต่อไปสอบถามครูอาจารย์ที่สถาบันเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นพี่ที่ทำร้ายบุตรชายตนเองก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงไม่ให้ความร่วมมือ วันนี้จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งมหาเมฆ

พ.ต.ท.ณรงค์ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งและสอบสวนผู้เสียหายแล้วจะเรียกพยานซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ถูกทำร้ายร่างกาย และเป็นผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกันมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งประสานกับทางมหาลัยให้นำตัวผู้ก่อเหตุซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีทั้งหมด3 คน ให้มามอบตัวหากไม่มามอบตัวก็จะดำเนินการออกหมายเรียกหากยังไม่มาตามหมายเรียกก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไปในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

น.ส.รุ่งโรจน์ ขวัญโกมล อายุ 36 ปี น้าสาว นายปวริศ ซึ่งเป็นผู้พาตัวหลานเข้าพบแพทย์ เล่าว่า ดูแลหลานมาตั้งแต่ยังเล็ก นายปวริศ เป็นเด็กมีความรับผิดชอบสูง เรียนเก่งและชอบทำกิจกรรม เจ้าตัวศึกษาวิชาทหารจนจบชั้นปีที่ 5 สมัยเรียน ม.ปลาย ที่โรงเรียนวัดราชโอรส ก็เป็นกรรมการนักเรียน เมื่อสอบติดมหาวิทยาลัยก็ยังร่วมทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์กับเพื่อนๆ อยู่เสมอไม่เคยขาด ช่วงกลางดึกวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา นายปวริศ กลับจากมหาวิทยาลัยด้วยอาการอิดโรย หน้าซีด และบ่นให้ตนฟังว่า รู้สึกเจ็บปวดกล้ามเนื้อตามร่างกายหลายแห่งเนื่องจากไปเล่นฟุตบอลและเพิ่งออกกำลังกายกลับมา ตนจึงได้ให้ทานยาแก้ปวดและยาคลายกล้ามเนื้อก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อน

น.ส.รุ่งโรจน์ เปิดเผยต่ออีกว่า ต่อมาเวลา 04.00 น.วันที่ 19 ก.ค. นายปวริศ มาเคาะห้องบอกตนว่าให้ช่วยพามาหาหมอเนื่องจากมีอาการอาเจียนและถ่ายท้องไม่หยุด ตนจึงพาหลานมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการกระทั่งหลานยอมพูดความจริงว่าถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย โดยผลตรวจเบื้องต้นแพทย์แจ้งว่ามีเลือดออกในช่องท้องเพราะม้ามแตก และต้องเข้ารับการผ่าตัดเอาม้ามออก ขณะนี้ นายปวริศ ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและนอนดูอาการในห้องไอซียู

น.ส.รุ่งโรจน์ เปิดเผยต่ออีกว่า จากการสอบถามเพื่อนๆร่วมสถาบันของ นายปวริศ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่พวกตนซึ่งเป็นนักศึกษาชาย จำนวน 6 คน รวมถึงนายปวริศ กำลังเดินทางออกจากสถาบันหลังเลิกเรียน มีรุ่นพี่ปี 3 จำนวน 3 คน ทราบเพียงชื่อเล่น 2 คน คือ นายเต๋า และ นายกาย ส่วนอีกคนไม่ทราบชื่อมาแจ้งให้พวกตนทราบว่า พวกตนมีพฤติกรรมไม่เหมาะกับการเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 เนื่องจากพวกตนไม่สามารถทำให้รุ่นน้องปี 1 อยู่ในระเบียบวินัยและให้การเคารพเชื่อฟังบรรดานักศึกษารุ่นพี่ๆ ได้ ดังนั้นพวกตนซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ต้องรับโทษร่วมกัน ต่อจากนั้นพวกตนจึงถูกรุ่นพี่ทั้ง 3 คนนั้นสั่งให้ลุกนั่ง วิดพื้น และออกกำลังตามคำสั่ง ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00-20.00 น.ของวันดังกล่าว โดยระหว่างที่พวกตนปฏิบัติตามคำสั่งนั้น นายเต๋า และ นายกาย ได้ใช้กำปั้นชกเข้าที่หน้าท้องพวกตนเป็นระยะๆ จน นายปวริศ ทนไม่ไหวฟุบลงกับพื้นการสั่งทำโทษจึงยุติ จากนั้นพวกตนก็ได้ช่วยกันพา นายปวริศ ไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นทีแรกคิดว่าแค่จุกและเกิดอาการเป็นลมธรรมดา ก็แยกย้ายกันกลับบ้านไป จนช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ค.ทราบข่าวอีกทีว่า นายปวริศ ม้ามแตกต้องเข้ารับการผ่าตัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน