ช.การช่างมั่นใจ เขื่อนไซยะบุรี ในสปป.ลาว แข็งแรง ไม่ซ้ำรอย เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย
เขื่อนไซยะบุรี – วันที่ 26 ก.ค. จากสถานการณ์ ที่มีน้ำท่วม ทางใต้ของ สปป.ลาว เนื่องจากเขื่อนกักเก็บน้ำแตก จนหลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์เขื่อนที่มีการสร้างอยู่ในสปป.ลาว หลายจุด เช่นเดียวกันกับ เขื่อนไซยะบุรี ที่มีการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ ว่าจะมีผลกระทบด้านลบเกิดขึ้นหรือไม่
- ลาวเขื่อนแตก! มวลน้ำ 5 พันล้าน ลบ.ม.ทะลักท่วมบ้าน ตาย-สูญหายนับร้อย
- ด่วน! 21 องค์กรเรียกร้องทุนไทยรับผิดชอบต่อความสูญเสียเหตุเขื่อนลาวแตก
- ลาวเจอแล้ว 19 ศพ เซ่นเขื่อนแตก คาดยังสูญหายอีก 300 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา นายธรรมนูญ สุรรัตน์ ผู้จัดการโครงการเขื่อนไซยะบุรี บริษัท ช.การช่าง กล่าวหลังจากพาชมโครงการว่า โครงการไซยะบุรี มีลักษณะเป็นฝาย น้ำไหลมาจากภาคเหนือ คือ หลวงพระบาง โครงการนี้ไม่ได้เก็บกักน้ำไว้ แต่จะถูกปล่อยไปด้านท้ายทั้งหมด เพราะฉะนั้นปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง เช่น ที่อ.เชียงคาน จ.เลย โครงการเขื่อนไซยะบุรี จะไม่ส่งผลต่อปริมาณน้ำที่ อ.เชียงคาน
ปริมาณน้ำโขงที่ไหลอยู่ในปัจจุบันนี้ทั้งหมดจะไหลมากหรือไหลน้อย ขึ้นอยู่กับปริมาณฝนตก และการเดินเครื่องของเขื่อนจีน สำหรับเขื่อนจีนเป็นเขื่อนเก็บกัก คือจะกักน้ำในช่วงฤดูฝน ส่งผลให้น้ำในฤดูฝนไหลน้อยลง และลดความรุนแรงของอุทกภัยได้ ในช่วงฤดูแล้งเขื่อนจีนก็ปล่อยน้ำเดินเครื่องลงมา ทำให้มีน้ำไหลในแม่น้ำโขงไป จนถึงอ.เชียงคาน
นายธรรมนูญ กล่าวว่า หากปริมาณน้ำไหลมามากขึ้น ผลกระทบคือ ปริมาณน้ำที่อ.เชียงคานเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมระดับน้ำในช่วงฤดูแล้งจะไหลประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ช่วงฤดูฝนจะมีมากถึง 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผลก็คือ แก่งคุดคู้ จะถูกน้ำไหลท่วม ทำให้ตัวแก่ง โผล่พ้นน้ำมาเล็กน้อยเท่านั้น หากฤดูฝนมา ระดับน้ำก็จะสูงขึ้นไปอีก แก่งคุดคู้ก็จะถูกน้ำท่วมไปหมด ผลกระทบที่เห็นได้ชัดก็คือ ความสวยงามของแก่งคุดคู้จะลดลง แต่ปริมาณน้ำโดยรวมจะดีขึ้น