ตร.บุกรวบคาบ้านพัก “น้องชายกานต์” อดีตเมียเสก ขยายผลจากล่อซื้อยาไอซ์แล้วถูกซัดทอด สอบยอมรับเป็นแค่เพียงผู้เสพ ไม่ได้ค้า อีกทั้งพี่สาวและเสกก็ไม่เกี่ยว พบโยงแก๊ง ‘เน็ตไอดอล’ ด้าน รองผบ.ตร. นำทีมแถลงผลปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี กวาดล้างแก๊ง “มันทุกเม็ด” ค้ายาเสพติดผ่านเฟซบุ๊กในลักษณะขายตรง

น็ตไอดอล / เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวาชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท. สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ร่วมแถลงผลปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี เพื่อกวาดล้าง ปราบปราม จับกุม และทำลายเส้นทางการเงินของนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้หมดสิ้น ในช่วงวันที่ 12 ก.ค. ถึงวันที่ 31 ส.ค.

โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 15 หน่วยงาน 1,533 นาย ผลจับกุม 206 คดี ผู้ต้องหา 243 ราย ของกลางยาบ้า 16,253,076 เม็ด ยาไอซ์ 467 ก.ก. กัญชา 499 ก.ก. พืชใบกระท่อม 1,230 ก.ก. เฮโรอีน 800 กรัม อาวุธปืน 16 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 177 นัด วัตถุระเบิด 1 ลูก ตรวจยึดทรัพย์สินรถยนต์ 52 คัน รถจักรยานยนต์ 10 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 22 หลัง โฉนดที่ดิน 15 แปลง ทองคำรูปพรรณ เงินสด และทรัพย์สิน อื่นๆ รวมมูลค่าทั้งหมด 338,851,343 บาท

โดยมี 3 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายมันทุกเม็ด ค้ายาเสพติดโดยใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางติดต่อกับลูกค้า ในลักษณะเป็นการขายตรง โดยให้ลูกค้าสมัครเข้ามาเพื่อรับยาเสพติดไปจำหน่ายก่อน แล้วให้ชำระค่ายาเสพติดผ่านบัญชีธนาคาร กรณีลูกค้าไม่ชำระค่ายาเสพติดจะส่งบุคคลในเครือข่ายไปทวงหนี้ ทำร้ายร่างกายแล้วถ่ายเป็นคลิปวิดีโอ และโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อข่มขู่กลุ่มลูกค้าที่ค้างค่ายาเสพติดให้เกิดความหวาดกลัว จนทำให้กลุ่มเครือข่ายขยายฐานลูกค้ายาเสพติดได้อย่างรวดเร็ว

จากการสอบสวนทราบว่า นายปัณณวิชญ์ หรือหนุ่ม ประทุม และใช้ชื่อว่าโก๋ หรือแก่ ในวงการยาเสพติด ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก ก.โก๋ มันทุกเม็ด มีภูมิลำเนาอยู่ จ.พิจิตร เป็นหัวหน้าขบวนการ ควบคุมการขายยาเสพติดในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ต่อมานายปัณณวิชญ์ร่วมมือกับผู้ค้ายาเสพติดใน จ.พิษณุโลก จนกลายเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ เป็นที่รู้จักของนักค้ารายย่อย นักเสพยา นักเที่ยวกลางคืน เมื่อทราบว่าถูกออกหมายจับกุมนายปัญญวิชญ์และพวกหลบหนีไป จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

โดยเมื่อเช้าวันที่ 27 ส.ค. พล.ต.ท.สมหมาย พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.สมุทรสาคร นำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมนายรุ่งโรจน์ จิรัฐิติกาลพันธุ์ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานฟอกเงินเกี่ยวกับยาเสพติดและอั้งยี่ ภายในบริษัท ป.รุ่งโรจน์ สยามยางยนต์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 99/78 หมู่ 3 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เป็นโรงงานจำหน่ายยางรถยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ก่อนยึดทรัพย์ทั้งตัวโรงงาน และทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานทั้งหมดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า สืบทราบว่านายรุ่งโรจน์ได้รับโอนเงินจากเครือข่ายยาเสพติดมันทุกเม็ด ก่อนนำเงินมาฟอกผ่านธุรกิจซื้อขายยางรถยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เครือข่ายมันทุกเม็ดเป็นเครือข่ายยาเสพติดขนาดใหญ่ ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดผ่านโซเชี่ยลมีเดีย ในช่วงระยะเวลา 1 ปี ขยายเครือข่ายไปกว่า 30 จังหวัด มีสมาชิกกว่า 9,000 คน และมีบัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องอีกหลายหมื่นบัญชี

สำหรับเครือข่ายที่ 2 แฝดนรกคิสเนอร์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ตำรวจ บก.ปส.2 บก.สส.บช.ภาค 1 และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 1 ร่วมกันระดมปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 60 เป้าหมาย จับกุมนายพงศกร นายภูวิศ นายวิทย์ถะมน น.ส. ศิริลักษณ์ ได้ตามหมายจับ สำหรับนายศุภชัย หรือมิก ถึงแก่ความตายไปก่อนหน้านี้ ส่วนนาย ชัยวุฒิ หรือแม็ก และนายธงชัย หลบหนี

จากการสืบสวนติดตามเชื่อว่าหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ต่อมาพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวน บก.ปส.2 ขยายผลทราบว่าเครือข่ายนี้ใช้วิธีให้นอมินีเปิดบัญชีแทน และใช้บุคคลในเครือข่ายตีสนิทบุคคลใกล้ชิดทั้งสิ้น โดยอำพรางใส่ชื่อคนอื่นปิดบังกรรมสิทธิ์เจ้าของที่แท้จริง ซึ่งการกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นความผิดตามพ.ร.บ. ฟอกเงิน จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับนายธงชัย หรือธง ผณินทร พร้อมพวกทั้งหมด 8 ราย

เครือข่ายที่ 3 จูน บ่อดิน เป็นกลุ่มเครือข่ายที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะโครงข่ายการโอนเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2560 ตำรวจ บก.ปส.4 จับกุมน.ส.ดิสรัตน์ หรือดรีม โชคกิจ ผู้ต้องหาที่ 1 และน.ส. พัทธมน หรือนุก ดีอ้น ผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมของกลางยาบ้า 120,000 เม็ด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท. สมหมาย ผบช.ปส. และพล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบช.ปส. แถลงจับนายเดชอุดม แสงสายทิม ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาจำหน่ายยาเสพติด โดยจับกุมได้ที่บ้านพักใน จ.นนทบุรี ซึ่งนายเดชอุดมเป็นน้องชาย น.ส.วิภากร หรือกานต์ แสงสายทิม อดีตภรรยานายเสกสรร ศุขพิมาย หรือเสก โลโซ นักดนตรีนักร้องชื่อดัง

พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ตำรวจล่อซื้อยาไอซ์จากนายไพทูรย์ หรือหนึ่ง กล่อมเกลี้ยง อายุ 35 ปี ที่ย่านซอยนวลจันทร์ กทม. ขณะนัดส่งยาเสพติดพบว่านายเดชอุดมเป็นคนขับรถ แต่เมื่อตำรวจแสดงตัวนายเดชอุดมหลบหนีไป ส่วนนายไพทูรย์ถูกจับกุมพร้อมยาไอซ์ 1.2 กรัม และยาเสพติด 5 เม็ด สอบสวนนายไพทูรย์ให้การซัดทอดนายเดชอุดม และทราบว่านายเดชอุดมพักอาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง เพราะมีหนี้สินเยอะ

ผบช.ปส.กล่าวว่า ต่อมาเมื่อเช้ามืดวันที่ 27 ส.ค. ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักนายเดชอุดมที่ย่าน จ.นนทบุรี พบพ่อแม่นายเดชอุดม ซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และตรวจค้นห้องนอนชั้น 2 ของนายเดชอุดม เจ้าหน้าที่เรียกให้ออกมา แต่นายเดชอุดมไม่ยอมเปิดประตู เจ้าหน้าที่จึงทำลายสิ่งกีดกัน และพบนายเดชอุดมเดินออกมาจากห้องน้ำ โดยพบภายในห้องน้ำมีถุงซองพลาสติกลอยขึ้นมาจากโถชักโครก แต่ไม่พบยาเสพติด จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจพิสูจน์ทราบ และยังพบตาชั่ง พร้อมอุปกรณ์การเสพด้วย จากการสืบสวนทราบว่านายเดชอุดมเป็นผู้ค้ารายย่อย เกี่ยวพันกับหลายแก๊ง อาทิ แก๊งลายพราง

ขณะที่พล.ต.ต.ทนัยกล่าวว่า จากการสอบปากคำนายเดชอุดมให้การเป็นประโยชน์ ยอมรับว่าเป็นเพียงผู้เสพยาเท่านั้น แต่ปฏิเสธเป็นผู้จำหน่าย ไม่เกี่ยวกับพี่สาวและเสกอดีตพี่เขย

ต่อมา “กานต์ วิภากร” พี่สาวนายเดชอุดม โพสต์ภาพ 3 คนพี่น้องผ่านอินสตาแกรม พร้อมข้อความระบุว่ามีแต่เรื่อง คนนอนป่วยอยู่ แผ่นดินไหวตลอด อย่าลืมนะว่าน้องชายคนเล็กหนีตำรวจอยู่ เสพจนบ้า ไปซ่อนตัวที่ไหน จะให้แจ้งเบาะแสไหม เล่นมากๆ จะแฉหมด จะดีจะชั่วก็น้อง ใครผิดว่าตามผิด รับได้ทุกอย่าง หนักกว่านี้เจอมาหมดแล้ว อย่าเพิ่งเฮกันเลย วันๆ มีแต่ไร้สาระ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน