ชาวกุยบุรี สุดกลั้นน้ำตากราบขบวนรถบรรทุกไม้จันทน์หอม สู่พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานการเคลื่อนขบวนไม้จันทน์หอมออกจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปยังสำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม โดยมีรถตำรวจทางหลวงนำขบวนจำนวน 3 คัน ถัดมาเป็นรถติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนรถบรรทุกไม้ขนาดใหญ่ จำนวน 3 คัน เปิดข้างประดับผ้าขาวดำปูพรมรองรับไม้จันทน์หอม โดยเรียงลำดับรถบรรทุกไม้จันทน์หอม คันที่1 หมายเลขทะเบียน 80–8075 ประจวบคีรีขันธ์ คันที่ 2 ทะเบียน 81–3390ประจวบคีรีขันธ์ และคันที่3 ทะเบียน 81–0434 ประจวบคีรีขันธ์ ตามลำดับ จากนั้นเป็นรถตามขบวนอีกประมาณ 20-30 คัน

โดยตลอดเส้นทางจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ถึงถนนเพชรเกษม ขบวนเคลื่อนอย่างช้าๆ เนื่องจากมีประชาชนชาวกุยบุรี โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กมานั่งพับเพียบกับพื้นดิน เพื่อรอส่งขบวนไม้จันทน์หอมตลอดเส้นทางโดยได้นำรูปของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ติดอยู่ที่บ้านของตัวเอง พระบรมสาทิสลักษณ์จากปฎิทิน หรือธนบัตรมาร่วมในพิธีและเมื่อขบวนผ่านต่างก้มลงกราบกับพื้นดิน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม อ.กุยบุรี กล่าวว่าตนรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้ร่วมในพิธีสำคัญยิ่ง ถือเป็นการทำงานถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยความจงรักและภักดี และถือเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตที่ตนได้มีโอกาสรับหน้าที่สำคัญในการขับรถบรรทุกไม้จันทน์หอม ร่วมกับชาวบ้านกุยบุรีไปส่งยังสำนักช่างสิบหมู่

สำหรับผืนป่ากุยบุรีถือเป็นผืนป่าที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะเรื่องของไม้จันทน์หอมซึ่งถูกนำไปใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สำคัญๆหลายครั้ง ตั้งแต่ครั้งสมเด็จย่า, สมเด็จพระพี่นาง และสมเด็จพระสังฆราช และสำคัญยิ่งในครั้งนี้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ด้านนางเตือน ช้างแก้ว อายุ 57 ปี ชาวบ้านกุยบุรี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ยังคงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของในหลวง รัชกาลที่ 9 เมื่อนึกถึงความดีและสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทำให้กับประชาชนแล้ว ก็รู้สึกน้ำตาไหลและพูดไม่ออก โดยในวันนี้ได้นำรูปของพระองค์ท่านที่ติดอยู่ที่ข้างฝาบ้านมาร่วมส่งขบวนไม้จันทน์หอม เพื่อนำไปส่งมอบให้กับสำนักช่างสิบหมู่ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ