แม่น.ร.วัย 6 ขวบ โวยอนามัยแห่งหนึ่งในจ.สมุทรปราการ หลังลูกสาว ปวดท้อง และอาเจียนจนสลบคาห้องเรียน ครูพาส่งรักษา แต่ปล่อยให้นอนทรมานนานกว่า 4 ชั่วโมง จนเสียชีวิต ข้องใจไม่ยอมส่งรักษาต่อทั้งที่อาการหนัก แพทย์เผยผลชันสูตรศพเบื้องต้นแล้ว ส่วนผลการตรวจอย่างละเอียดต้องรออีก 45 วัน

ปวดท้อง / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ร.ต.อ.อนันต์ ทองเหลือ รองสว.(สอบสวน) สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เชิญน.ส.นงเยาว์ แดนเมืองแทน อายุ 42 ปี มารดาด.ญ.น้ำเพชร หรือน้ำ อุดมกัน วัย 6 ขวบ ที่เสียชีวิตหลังนำตัวส่งรักษาที่ร.พ.สต.บางโฉลง เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากครอบครัวติดใจคือเรื่องของการไม่นำส่งเด็กไปรักษาต่อ หลังจากนี้จะนัดครู, เจ้าหน้าที่อนามัย และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มา สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

น.ส.นงเยาว์เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ช่วงเช้าวันเกิดเหตุลูกบ่นปวดท้อง แต่ไปเรียนไหวจึงให้ไปโรงเรียนตามปกติ หลังจากส่งลูกไปเรียนจึงไปทำงานเป็นแคดดี้ของสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งระหว่างทำงานต้องปิดโทรศัพท์มือถือตามระเบียบ กระทั่งเลิกงานเวลา 16.00 น. เมื่อเปิดโทรศัพท์พบข้อความไลน์จากกลุ่มเพื่อนว่า ลูกสาวอาการแย่ปวดท้องอย่างหนักนอนพักรักษาตัวอยู่ที่อนามัยแห่งหนึ่งใกล้โรงเรียน

เมื่อไปถึงโรงพยาบาลดังกล่าว พบลูกสาวนอนหมดสติ ตัวซีด ปากเขียว อยู่บนเตียงคนไข้ และมีเจ้าหน้าที่อนามัยมาถามว่าจะให้พาส่งต่อไปรักษาเลยหรือไม่ ขณะนั้นยังงงอยู่เพราะไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องถามคำถามแบบนั้น เพราะลูกสาวอาการหนักมากจึงตัดสินใจอุ้มลูกออกจากโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อพาไปรักษาที่ร.พ.บางพลี ระหว่างนั้นมีคนขับรถเก๋งมาจอดพร้อมบอกว่าจะไปส่งหน้าปากซอย เพื่อให้ต่อรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลเอง เมื่อไปถึงร.พ.บางพลี ลูกสาวเริ่มมีอาการชัก แพทย์พาเข้าห้องฉุกเฉินรีบปั๊มหัวใจ แต่เสียชีวิตในที่สุด

น.ส.นงเยาว์กล่าวอีกว่า สอบถามครูประจำชั้นทราบว่า ลูกสาวมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงจนฟุบล้มกองกับพื้น ครูประจำชั้นรีบพาเข้าอนามัยทันทีเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. จากนั้นอนามัยรักษาเบื้องต้น แต่ไม่ยอมส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง มีเพื่อนที่เป็น ผู้ปกครองคนหนึ่งพยายามขอตัวส่งร.พ. บางพลี แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธอ้างว่าต้องเป็นมารดาหรือบิดามาเซ็นเอกสารเสียก่อนจึงจะส่งตัวได้ ทำให้ลูกสาวนอนรอตั้งแต่เวลา 12.30-16.30 น.

“สุดท้ายน้องเสียชีวิตอย่างที่ไม่ควรจะเสียชีวิต ขอตั้งคำถามว่าทำไมเหตุใดไม่ส่งตัวน้องน้ำเพชรไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล เมื่อเห็นว่าอาการหนักทำไมต้องปล่อยให้น้องนอนเจ็บปวดนานกว่า 4 ชั่วโมง จนน้องทนไม่ไหวและเสียชีวิต อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกสาวและทวงถามความรับผิดชอบไปยังเจ้าหน้าที่อนามัยแห่งดังกล่าว” น.ส.นงเยาว์กล่าว

วันเดียวกัน นายวีระ อุดมกัน อายุ 43 ปี บิดาของด.ญ.น้ำเพชรขอรับศพลูกสาวนำไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดบางโฉลงใน ต.บางโฉลง พร้อมเผยว่า เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่า ลูกสาวเสียชีวิตจากอาการขาดเกลือแร่ เพราะปากแห้งและมีอาการติดเชื้อในลำไส้ แต่สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ลูกสาวเสียชีวิตนั้นต้องรอผลที่แน่นอนอีก 45 วัน

ช่วงเย็นวันเดียวกัน นพ.นนท์ จินดาเวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปรา การ พร้อมนายธงชัย วิเศษบุปผา สาธารณสุขอำเภอบางพลี และเจ้าหน้าที่จากร.พ.บางพลี และร.พ.สต.บางโฉลง นำพวงหรีดมาแสดงความเสียใจพร้อมพูดคุยกับน.ส.นงเยาว์ ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า รายงานเบื้องต้นตามบันทึกการรักษาของเจ้าหน้าที่ ร.พ.สต.บางโฉลง ทราบว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวเข้ามารับการรักษาด้วยอาการปวดท้องและอาเจียน เมื่อเวลา 13.58 น. พยาบาลผู้ดูแลให้การรักษาตามอาการ คือให้เกลือแร่และให้ยาแก้ปวดท้อง จากนั้นให้โรงเรียนพยายามติดต่อผู้ปกครอง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงติดต่อผ่านไปทางเพื่อนของมารดาแทน

กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. มารดาไปถึงที่ร.พ.สต.เจ้าหน้าที่จึงทำเอกสารส่งตัวให้ เนื่องจากประเมินเบื้องต้นพบว่า เด็กยังรู้สึกตัวและพูดคุยได้ ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้พูดคุยกับมารดาของเด็ก ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ได้เรียกรถฉุกเฉินในระบบมารับตัว แต่ให้มารดาเป็นคนนำตัวเด็กส่งร.พ.บางพลีเอง โดยมีเจ้าหน้าที่อนามัยขับรถไปส่งยังถนนเทพารักษ์เพื่อให้ต่อแท็กซี่ไปโรงพยาบาล และเมื่อไปถึงที่ห้องฉุกเฉินร.พ.บางพลีแล้ว อาการเด็กเริ่มฉุกเฉิน ทางแพทย์และพยาบาลจึงนำเข้าห้องฉุกเฉินรักษาโดยเร่งด่วน แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้

“หลังจากนี้ทาง สสจ.สมุทรปราการ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาข้อเท็จจริง ว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นจริงหรือไม่อย่างไร คาดว่าประมาณ 3 สัปดาห์จึงจะทราบผล และหลังจากนี้ทางสาธารณสุขจะดำเนินการยื่นเรื่องขอการเยียวยาตามมาตรา 41 ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ใช้บัตรทองให้กับครอบครัวของด.ญ.น้ำเพชร ต่อไป” นพ.นนท์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน