แจ้งข้อหาเพิ่ม สามทหารรุ่นพี่ ร่วมกันฆ่า พลฯคชา หลัง เหยื่อตื้บสิ้นใจ พ่อ-แม่รุดส่งศพให้นิติเวชผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย พ่อเผยเมื่อวานเพิ่งเป็นวันเกิดลูก หวังปาฏิหาริย์แต่ไม่เกิด ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ เตรียมนำศพกลับไปทำพิธีที่บุรีรัมย์

จากกรณี พลทหารคชา หรือเข้ม พะชะ อายุ 22 ปี ที่ถูกพลทหารรุ่นพี่ 3 นาย รุมซ้อมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง ร.พ. อานันทมหิดล เมื่อคืนวันที่ 21 ส.ค. 61 โดยเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ทีมแพทย์ออกมาแถลงอาการกับญาติพี่น้องว่า พลฯคชาอาการทรุดหนัก ไม่ตอบสนองต่อการรักษา

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 05.45 น. วันที่ 14 ก.ย. พลฯคชาได้เสียชีวิตลงด้วยอาการสงบ รวมระยะในการเข้ารับการรักษาจำนวน 25 วัน โดยพ่อแม่ ญาติๆ รวมทั้งน.ส.วรรณิสา หรือน้องฝ้าย ภรรยา ได้รวมกันอยู่ที่หน้าห้องชันสูตรศพด้วยความเศร้าสลด เพื่อรอนำร่างพลฯคชาส่งสถาบันนิติวิทยา ร.พ.ตำรวจ เพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใดแน่ ซึ่งทางญาติบางรายติดใจสาเหตุการเสียชีวิตที่ทางพลทหารรุ่นพี่ที่ทำร้ายว่าเพียงแค่เตะและต่อย ซึ่งไม่น่าจะถึงขั้นเสียชีวิต

ด้านร.ต.อ.วิชัย แสนบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางไปยังอัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 13 และเรือนจำ มทบ.13 สถานที่คุมขังพลทหารทั้ง 3 นาย ถึงการแจ้งข้อหาจากร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นตามคดีอาญาที่ 922/ 2561 ป.จ.ว.ข้อ 3 ลงวันที่ 24 ส.ค. 61 เป็นร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นายคมฉันและน.ส.รุ่งฤดี สิหะวงศ์ พ่อแม่พลฯคชา ได้นำร่างของลูกชายมาชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นายคมฉัน พะชะ พ่อของพลฯคชา กล่าวว่าเสียใจที่ลูกจากไป แต่ก็ได้ทำใจไว้แล้วว่าสักวันคงถึงวันนี้ เนื่องจากลูกสาหัสมาก ขอบคุณทีมแพทย์ ร.พ.อานันทมหิดลที่ดูแลเยียวยารักษาลูกของตนจนสุดความสามารถ ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ส่งแรงใจ กำลังใจให้กับครอบครัวของตน ขอบคุณหน่วยงานทหารในสังกัดของลูกที่ดูแลในระหว่างเฝ้าลูกเป็นอย่างดี รวมถึงผู้บังคับบัญชาชั้นสูงที่ไม่ทอดทิ้งครอบครัวของตน ถือว่าเป็นการชดเชย ลูกไปในภพที่ดีแล้ว ก่อนที่ลูกจะจากไป เมื่อวานซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของเข้ม ครอบครัวได้เดินสายทำบุญ ถวายผ้าไตร ห่มผ้าพระองค์ใหญ่ ซึ่งก็ยังคงรอให้เกิดปาฏิหาริย์ แต่ลูกก็ไม่สามารถทนกับอาการที่สาหัสมากได้ แต่ก็ยังได้ดูแลรักษาลูกจนนาทีสุดท้ายก่อนที่ลูกจะจากไป

นายคมฉันกล่าวว่า เมื่อช่วงประมาณ เช้ามืด แพทย์ที่ดูแลอาการได้เรียกตนและน.ส.รุ่งฤดีเข้าไปหาลูกชาย เนื่องจากอาการทรุดหนัก เมื่อเข้าไปก็พบว่าแพทย์เปิดธรรมะให้ฟังแล้ว จึงได้กระซิบที่ข้างหูลูกว่า “ถ้าหากทนไม่ไหว สู้ไม่ไหวแล้ว ให้ไปอย่างสงบ อย่าได้ทรมาน ส่วนบุญส่วนกุศลที่พ่อกับแม่ทำให้ลูก ขอให้ลูกไปด้วยดี” จากนั้นขณะที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ ตนก็เห็นว่าความดันลดลงเรื่อยๆ และค่อยๆหมดลมหายใจไป ตนอยู่ในห้องประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินออกมาเนื่องจากไม่สามารถทนดูได้

นายคมฉันกล่าวอีกว่า วันนี้ได้นำร่างของพลทหารคชา มาตรวจชันสูตรเพื่อให้โปร่งใสมากที่สุด ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอะไร ซึ่งทางกองทัพเองก็อยากให้ทุกอย่างชัดเจนมากที่สุด คาดว่าจะผ่าพิสูจน์แล้วเสร็จภายในช่วงบ่ายของวันที่ 15 ก.ย. และนอกจากนี้หากผลชันสูตรออกมาแล้วพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตคืออะไร ก็จะเป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

นายคมฉันกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของคดี ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งขณะนี้ก็ได้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ตั้งแต่ลูกเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทางครอบครัวของพลทหารรุ่นพี่ทั้ง 3 คน ก็ยังไม่ได้ติดต่อมาพูดคุยใดๆ ซึ่งทางครอบครัวก็อยากให้พลทหารรุ่นพี่มากราบขอขมาศพ เพื่อไม่ให้เป็นเวรกรรมต่อกันและทางครอบครัวของตนก็ได้อโหสิกรรมให้

“ผมห่วงหลานทั้ง 2 คนมาก แต่ทางกองทัพก็ได้เตรียมการดูแลไว้หมดแล้ว ขอบคุณทีมแพทย์และกองทัพที่คอยดูแลครอบครัวของเราเหมือนเป็นญาติพี่น้อง เมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ ขอเพียงแค่ให้ลูกชายถูกกระทำเป็นรายสุดท้ายก็พอ จากนี้ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อ สำหรับสภาพจิตใจทางครอบครัวได้ทำใจไว้ตลอด” นายคมฉัน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติจะนำร่างพลฯคชา ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเวฬุวนาราม (วัดหนองบัวลี) จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 15 ก.ย.

ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพลฯคชา ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องทางหน่วยก็เข้าไปดูแลในทุกๆด้าน โดยเฉพาะการประสานกับครอบครัว อำนวยความสะดวกการรักษาพยาบาล และเมื่อเสียชีวิตก็จะเข้าไปดูแลการเยียวยาสิทธิต่างๆ และช่วยเหลือให้ครอบครัวพลฯคชาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาไปดูรายละเอียดแล้ว ส่วนการจัดพิธีศพ ตนเน้นย้ำให้ทำให้ดีที่สุด ส่วนคดีความให้ดำเนินการแจ้งความกับ 3 พลทหารที่ก่อเหตุ จากข้อหาพยายามฆ่า ก็ปรับเป็นฆ่าคนตาย อย่างไรก็ตามทางญาติพยายามที่จะพูดคุยในประเด็นเหล่านี้อยู่

ที่ วัดเวฬุวนาราม อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ญาติพี่น้องและชาวบ้านในหมู่บ้าน ต่างช่วยกันทำความสะอาดทั้งบริเวณศาลา เมรุ รวมถึงจุดต่างๆ ภายในวัด เพื่อเตรียมรับศพพลฯ คชา โดยคาดว่าจะมาถึงช่วงบ่ายวันที่ 15 ก.ย. เบื้องต้นทางญาติตั้งใจว่าจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นจนถึงวันที่ 21 ก.ย. และจะประกอบพิธีฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 22 ก.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน