“เอิร์ก” เปิดแถลงโต้วุ่น ปม เก๋ เลเดอเรอร์ นางแบบดังฆ่าตัวตาย ยันไม่ได้โกงเงิน อ้างต้องใช้หนี้14 ล้านบาทด้วยซ้ำ เพราะรับเป็นหนี้แทนเก๋ ส่วนรถลัมโบร์กินีก็เป็นเจ้าของเอง ไม่ใช่เก๋ ยืนยันบริสุทธิ์ ทุกอย่างมีหลักฐานหมด เผยได้อ่านจดหมายลาตายแล้ว แต่สงสัยอาจถูกบังคับกดดัน อีกทั้งป่วยซึมเศร้า

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่อาคารมาลีนนท์ ถนนพระรามสี่ กทม. นายองอาจ หรือ เอิร์ก เลเดอเรอร์ เพื่อนชายคนสนิท น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ หรือ เก๋ เลเดอเรอร์ นางแบบสาวที่ฆ่าตัวตาย เปิดแถลงกรณีถูกโยงเกี่ยวกับเงิน 14 ล้านบาท จนเป็นสาเหตุทำให้เก๋คิดมากจนเครียดและตัดสินใจฆ่าตัวตาย

เอิร์ก กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มานั่งแก้ตัว แต่เอาหลักฐานทุกเรื่องทุกอย่างมาให้ดูกัน เพราะหลักฐานนี้ไม่สามารถทำขึ้นมาเองได้ และตรวจสอบได้ทั้งหมด เอิร์กกับเก๋รักกันมาก เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เก๋ทำลงไปมีเหตุผลของเขา และเหตุผลของเขาก็ทำเพราะว่ารักเอิร์กเหมือนกัน คนสองคนที่อยู่บ้านหลังเดียวกันมาเป็น 10 ปี เรารู้กัน แต่คนอื่นไม่ได้รู้กับเราด้วย ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าเอิร์กทะเลาะกับเก๋จริงไหม ไม่จริง เพราะไม่เคยทะเลาะกับเก๋เลย เรารักกันจนถึงวินาทีสุดท้าย

เอิร์ก กล่าวต่อว่า เงิน 14 ล้านบาท มาจากการทำธุรกิจร่วมกัน ตอนแรกมี 2 สาขา ชื่อเหมือนกันคือเลเดอเรอร์ คลินิก ไทยแลนด์ ซึ่งเลเดอเรอร์คือนามสกุลของเอิร์ก แต่มีเหตุผลหลายอย่างที่เก๋บอกว่าหุ้นส่วนอยากแยก ฉะนั้นแยกกัน เพราะเอิร์กเหนื่อยมามากพอแล้ว หาเงินเยอะแล้ว เก๋ต้องการที่จะให้บ้านที่เป็นบ้านใหม่ของเก๋เข้ามาดูแลคลินิกจะได้ไม่เหนื่อย เก๋หวังดีกับเอิร์ก แล้วตอนนั้นเอิร์กก็โดนถอดหุ้นใหญ่ออกมาทั้งหมด จากตอนแรกเป็นซีอีโอทั้ง 2 สาขา ตอนหลังจึงออกมาอยู่ที่บางนาที่เดียว คือคาริสมา เมดิคัล คลินิก

“พอแยกปุ๊บก็มีเรื่องของเงิน 14 ล้านบาทเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว หลังจากที่แยกก็มีคนที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วนใหม่แทนเอิร์ก คือทางครอบ ครัวของคู่หมั้นเก๋ ทางนั้นก็ติดต่อเอิร์กมาบอกว่าตอนนี้เงินที่รามอินทราหายไป 14 ล้านบาท เอิร์กกับเก๋ต้องรับผิดชอบกัน ตอนนั้นก็บอกกลับไปว่าเราไม่ได้ผิด ทั้ง 2 สาขาแยกกันเพราะคุณเป็นคนจับแยก โอเคในส่วนนี้เราอาจจะผิด เพราะเอกสารไม่แน่น เก๋ก็พิมพ์มาหาเอิร์กเองว่าเก๋พลาดเองในเรื่องของเอกสาร คือไม่ได้บอกว่าเอาเงินมาใช้ร่วมกันอีกสาขาหนึ่ง เจตนาของเราคือไม่ได้คิดจะโกงใคร เจตนาเราไม่ได้ไม่ดี เพราะตั้งใจอยากจะให้ทั้ง 2 สาขาสร้างเสร็จทั้งคู่” เพื่อนคนสนิทเก๋กล่าว

หนุ่มคนสนิท กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้ต้องเป็นหนี้ 14 ล้านบาท สาเหตุที่รับเซ็นเป็นหนี้แทน เพราะเก๋หาเงินไม่ได้อีกแล้ว เอิร์กอยากให้ทุกอย่างง่าย ไม่อยากให้ใครทะเลาะกัน วันนี้หลายกระแสบอกว่าเอิร์กให้เก๋เป็นทุกอย่าง ประมาณว่าเก๋ต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเอิร์กจะมาเซ็นเป็นหนี้แทนเก๋ตั้ง 14 ล้านบาทเพื่ออะไร นอกจากจะไม่ได้โกงเงินเก๋แล้ว ยังยอมเซ็นเป็นหนี้แทนด้วยตามหลักฐานที่ทุกคนได้เห็นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า สนิทกับแฟนเก๋หรือไม่ เอิร์กกล่าวว่าไม่จริง เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหน้าที่จะเป็นแฟนเก๋ ไม่เคยแนะนำให้เก๋รู้จัก และไม่ได้เป็นอะไรกับแฟนเก๋ ไม่เคยติดต่อเป็นการส่วนตัวนอกจากรถเสีย เวลารถเราเสีย เขาเป็นคนดูแลให้ แต่ไม่เคยเจอตัว จะฝากกุญแจกัน เอิร์กเจอแฟนเก๋ 2-3 ครั้งในงานหมั้น และตอนเซ็นเอกสารกัน

ต่อข้อถามว่า ตอนเก๋หมั้นกับแฟน สินสอดต่างๆ อยู่กับเอิร์ก โดยเพื่อนชายคนสนิทกล่าวว่าเราไม่สามารถเอาเงินสินสอดใครมาได้ถ้าเขาไม่ยินยอม แต่เราและเก๋ใช้กระเป๋าเดียวกัน บัญชีเดียวกัน เก๋ถือบัญชีของเอิร์ก

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสคุยกับครอบครัวแท้ๆ ของเก๋หรือไม่ เอิร์กกล่าวว่าคุยไลน์กันตลอด วันเผาเก๋ก็ดีต่อกัน ไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ส่วนวันที่เราเข้าไปกอดพ่อแม่เก๋ ก็บอกว่าเอิร์กไม่ผิดนะ เอิร์กไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันซับซ้อนมาก จนเรางงเหมือนกัน เอิร์กยังเข้าข้างตัวเองว่าเก๋รักเอิร์ก ที่ต้องทำเป็นทะเลาะเพราะอาจจะโดนบังคับหรือเปล่า หรือมีเหตุจำเป็นหรือเปล่า เพราะมันเชื่อมโยงกับคำที่เก๋เคยพูดว่าเราต้องทำเป็นทะเลาะกัน เพราะทางนั้นเขาไม่อยากให้เราอยู่ด้วยกันแล้ว ต้องแยกกัน ทางนั้นจะได้มาซัพพอร์ตเก๋ในเรื่องของคลินิกรามอินทรา

ต่อข้อถามว่า เจอเก๋ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เอิร์กกล่าวว่าเก๋แวะหาเอิร์กตลอด 2 อาทิตย์ก่อนตายยังเจอกัน เราคือคู่ชีวิตที่สร้างทุกอย่างมาด้วยกัน เรายอมทุกอย่างเพื่อทำให้เขาสบายใจ เพราะเขาบอกจะฆ่าตัวตายอยู่ตลอดเวลา เป็นโรคซึมเศร้า เพิ่งมาเป็นช่วงหลัง เมื่อก่อนเป็น แต่ไม่หนักขนาดนี้ อาจจะแค่งงๆ เขาทะเลาะกับที่บ้านก็เก็บข้าวของมาอยู่กับเอิร์กเลย จะเปลี่ยนนามสกุลเป็นนามสกุลเรา แต่เปลี่ยนไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบเรื่องจดหมายลาตายหรือไม่ เอิร์กกล่าวว่า ทราบก่อนคนอื่นเลย แต่ตอนนี้มันยังไม่หลุดออกมา ถามว่ามีจดหมายจริงๆ ใช่ไหม จริง แต่ไม่รู้โดนบังคับให้เขียนหรือเปล่า หรือเขามีเหตุผลจำเป็นที่จะต้องสร้างสตอรี่หรือเปล่า แล้วคิดว่าจริงๆ เก๋ไม่ได้อยากฆ่าตัวตาย เพราะวันนั้นเก๋ยังพูดเลยที่โรงพยาบาล บอกว่าฉันไม่อยากตายแล้ว คือจริงๆ เอิร์กว่าเก๋ไม่ได้อยากตายหรอก แต่เก๋คงจะงง เพราะเป็นคนงงอยู่แล้ว

ต่อข้อถามว่า ได้อ่านจดหมายแล้วหรือยัง เอิร์กกล่าวว่าอ่านแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยข้อมูล เพราะไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ถึงจะจริงเอิร์กก็เสียหายไปหมดแล้ว แล้วในจดหมายไม่ได้เสียหายเท่าในข่าวด้วยซ้ำ ในข่าวมีทั้งเอิร์กเป็นหนี้เก๋ โกงเก๋ ในจดหมายเขียนแค่ว่า เอิร์ก เจ๊จะไม่โทษเอิร์กคนเดียวนะ ในสิ่งที่มันเป็นแบบนี้ แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่ลบๆ นิดหน่อย จะไม่พูดแล้วกัน ซึ่งตอนนี้จดหมายอยู่กับใครก็ไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจเรียกไปพบหรือยัง เอิร์กกล่าวว่า ยัง แต่อยากให้เรียกมาก เพราะเอิร์กจะได้ปลอดภัยด้วย เมื่อถามว่าปลอดภัยจากอะไร เแล้วที่บอกว่าโดนขู่ทำร้ายจริงหรือไม่ เอิร์กกล่าวว่าจริง จากคนที่เอิร์กต้องใช้หนี้ เดือนที่แล้วก็จ่าย 3 ล้านบาท จะให้ตามกำหนด แต่จะไม่ยอมใช้ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นสัญญาก็ไม่มีความหมาย

“ที่พูดคือเรื่องจริงทั้งหมด และให้ทุกคนขุดด้วย มีหลักฐานทั้งหมด โทร.ไปเลยไม่ว่าจะเป็นกรมที่ดิน หรือบริษัท บ้าน หรือบริษัททนายก็ได้ หรือแม้กระทั่งรถลัมโบร์กินี ก็โทร.ไปเลย เก๋เป็นคนค้ำเอิร์ก เก๋จะไม่รู้ได้ยังไงว่ารถคันนี้ซื้อผ่อนตั้งแต่แรก แล้วรถเบนซ์ เอิร์กไม่สามารถที่จะเอาไปขายแล้วเอาเงิน 2 ล้านออกมาได้ เพราะรถเบนซ์คันนี้ เอิร์กดาวน์ และผ่อนให้เก๋ เพิ่งมาให้เก๋ผ่อนตอนหลังจากที่แยกกันแล้ว เพราะเขาต้องรับผิดชอบเองได้แล้ว แล้วเก๋ก็อยากรับผิดชอบเองด้วย แล้วมันจะได้ 2 ล้านมาได้ยังไง ในเมื่อขายยังขายไม่ได้เลย ต้องยกรถให้ไป เพราะมันยังติดดอกเบี้ยอยู่ รถคันนี้ยังจ่ายเงินไม่ครบ โทร.ถามไฟแนนซ์ได้เลย” เอิร์กกล่าว

ต่อข้อถามว่าเรื่องคดีจะเป็นอย่างไรต่อ เอิร์ก กล่าวว่าของเก๋ก็ให้ตำรวจจัดการไปแล้วกัน เอิร์กยินดีให้ปากคำ และยินดีให้ตรวจสอบเอกสาร ขุดคุ้ยทุกเรื่องของเอิร์กได้หมด ไม่เป็นไร เราบริสุทธิ์ใจ ส่วนเรื่องหนี้ที่เอิร์กใช้แทนเก๋ ก็ให้ทางนั้นติดต่อมาแล้วกัน แล้วเอิร์กจะให้ทนายติดต่อไปเหมือนกัน จะไม่คุยเองแล้ว ถ้าสุดท้ายจะต้องใช้หนี้แทนก็จะใช้ แต่จะไม่คุยเอง เพราะเก๋ก็เสียไปแล้ว ยังไงเอิร์กก็ต้องใช้แทน ต่อให้เก๋ไม่เสีย ก็ใช้แทนอยู่แล้ว เพราะเซ็นไปตั้งแต่แรก

“เงิน 14 ล้าน เป็นเงินทำธุรกิจที่เอิร์กและเก๋เอาไปทำ เก๋ถือเอทีเอ็มเอิร์กทุกใบ เอาง่ายๆ คือตอนแรกคลินิกทั้ง 2 สาขา เป็นคลินิกที่ใช้ชื่อเดียวกัน และต่อมาเขามาจับแยก พอแยกเขาก็ขอเงินตรงนี้คืน โดยที่เขาพูดว่าเงินไม่ได้ระบุว่าต้องใช้ร่วมกัน และเอิร์กก็พลาดเองที่ไม่ได้เขียนรายละเอียดนี้จริงๆ เลยยอมรับสภาพใช้หนี้แทน” เอิร์ก กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปคือ 14 ล้านบาทคือเงินอะไร เอิร์กกล่าวว่า ตอนแรกคลินิกชื่อเลเดอเรอร์ คลินิก ไทยแลนด์ มี 2 สาขา สมมติว่าคลินิกรามอินทราได้เงิน 10 ล้าน บางนาได้ 5 ล้าน พอสร้างไปสร้างมา คลินิกรามอินทราเงินเริ่มหมด เอิร์กต้องหาเงินเพิ่ม เก๋เห็นว่าเอิร์กเหนื่อย เก๋เลยบอกว่าไม่ต้องเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวเก๋ให้ทางบ้านมาเป็นหุ้นส่วนแทน และเธอก็ไปทำที่เดียว นั่นคือที่มา ปรากฏว่าบางนาเงินก็ไม่พออีก เก๋ก็บอกว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ไปทำบางนา เพราะว่าเราคิดกันเองว่า 2 สาขานี้สามารถซัพพอร์ตกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ทำเอกสาร และลืมบอกหุ้นส่วนว่าจะใช้จ่ายร่วมกัน

เอิร์ก กล่าวต่อว่า พอวันนึงเขามาขอแยก เขาบอกว่าเงินมันหายไป 14 ล้านบาท ก็บอกว่าเอิร์กกับเก๋เอามาใช้จ่ายในเรื่องการก่อสร้างรามอินทรา แต่เขาไม่สนเพราะ 2 สาขานี้แยกกันแล้ว ดังนั้นต้องเอาเงินมาใช้เขา ช็อกเลยนะ เพราะตอนแรกเราสร้างทุกอย่างมาด้วยตัวเอง จริงๆ เงินตรงนั้นไม่ได้หาย แต่พอเก๋โอนมา เราก็เอาไปใช้จ่ายในการสร้างคลินิก เก๋เป็นคนไปซื้อกับเอิร์กด้วยซ้ำ ใบเสร็จก็มี แต่อยู่ที่เขา เราก็ยอมรับผิดว่า เราไม่ได้ทำเอกสาร เลยยอมเป็นหนี้ เก๋ก็บอกว่าเก๋อยากตาย เพราะบ้านหลังนั้นมองเก๋ไม่ดี มองว่าเก๋รวมหัวกับเอิร์กโกง

“เอิร์กเพิ่งรู้ว่าเก๋พยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 3 ครั้ง หลังจากแยกกับผมไปอยู่ที่โน่น แต่ที่เก๋พูดในรายการว่าผมให้เก๋รับหน้าตลอด คือถ้าผมพูดไปจะหาว่าผมใส่ร้ายคนตาย แต่เก๋พูดจริงๆ ว่าเธอเดี๋ยวฉันรับผิดชอบแทนเอง มีอะไรเกิดขึ้น เธอจะได้ไม่ตาย เพราะฉันไม่ได้เก่งเท่าเธอ ถ้าเธอตายแม่ฉันแม่เธอก็ตาย ใครจะเลี้ยง ไปถามแม่เก๋เลยว่าเก๋พูดยังไงกับผม สั่งเสียอะไร วันที่ผมไปเจอแม่วันเผา ผมพูดกับแม่ว่าเอิร์กไม่ผิด ต่อจากนี้เอิร์กจะดูแลแม่ น้อง และพ่อเอง แค่นั้นเลย ผมจะส่งเสียเอง ผมก็อยากให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการฟังและตัดสินว่ายังไง ท้ายที่สุดในชีวิตนี้เอิร์กไม่มีวันทำร้ายเก๋ ไม่มีทางทำร้ายเก๋เพราะ เอิร์กรักเก๋” เอิร์ก กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน