ผู้ใช้รถตู้ต่างเห็นด้วย หลังมีคำสั่งหยุดวิ่ง กว่า 1,800 คัน ชี้บางคันก็ไร้มาตรฐาน!

รถตู้หยุดวิ่ง / 06.30 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายพีระพล ถาวรสุขเจริญ อธิบดีกรมขนส่งทางบก ร่วมกับ นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก , พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน รอง ผบ.พล.ม.2 รอ. และ เจ้าหน้าที่ ขสมก. ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกประชาชน ในการใช้บริการรถตู้โดยสารประจำทาง ตามแผนการรองรับเพื่อการติดตามและแก้ไขปัญหาการเดินรถตู้โดยสารประจำทาง พร้อมประเมินสถานการณ์การเดินรถอย่างต่อเนื่อง จำนวนรถเพียงพอ และ ส่งผลกระทบแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ หรือไม่ หลังจาก กรมการขนส่งทางบก ไม่อนุมัติการขยายอายุใช้งานรถตู้ จึงได้ประกาศ หยุดวิ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป

นายพีระพล กล่าวว่า ในวันนี้มาลงพื้นที่ตรวจสอบความสะดวกของประชาชน หลังจาก ทางกรมการขนส่งทางบกไม่อนุมัติการขยายอายุใช้งานรถตู้ จึงได้ประกาศหยุดวิ่ง โดยวันนี้เริ่มเป็นวันแรก โดยสาเหตุที่รถตู้หยุดวิ่ง เนื่องจาก อายุการใช้งานของรถตู้เกิน 10 ปี ตามข้อกำหนดความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบก หากวิ่งต่อจะถูกจับ เพราะเป็นรถผิดกฎหมาย

และนอกจากนี้ บริษัทประกันภัย ของรถ ก็ไม่สามารถทำประกันภัยได้ หากอายุการใช้งานของรถ เกิน 10 ปี ทางกรมทางหลวง และ ขสมก. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เล็งเห็นปัญหาสำคัญ ว่า หากปล่อยปะละเลยให้นำรถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปีมาวิ่ง อาจจะเกิดอุบัติเหตุ รถเสีย ส่งผลทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัด ประชาชนเดือดร้อนได้ จึงได้ประกาศให้รถตู้หยุดวิ่ง

นายพีระพล ถาวรสุขเจริญ อธิบดีกรมขนส่งทางบก ร่วมกับ นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก , พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน รอง ผบ.พล.ม.2 รอ.

นายพีระพล กล่าวอีกว่า โดยจำนวนที่รถตู้ที่หยุดวิ่งนั้น มีประมาณ 800 คัน ที่บริเวณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประมาณ 400 คัน จากหลายๆพื้นที่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า รถตู้ทุกคันจะหยุดวิ่ง ยังคงมีรถตู้ที่มีอายุงานไม่เกิน 10 ปี ยังให้บริการประชาชนอยู่ และเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ทางกรมทางหลวง และ ขสมก. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีมาตราการแก้ไขปัญหา

โดยสำหรับรถตู้ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี ก็จะมีการเพิ่มรอบและ หมุนเวียนรอบวิ่ง หากยังไม่เพียงพอ ก็จะมีรถมินิบัส ติดแอร์ จอดแสตนบายตามจุดที่มีรถตู้บริการ โดยค่าใช้จ่าย และ เวลาในการวิ่ง จะเหมือนกับรถตู้ทุกอย่าง จอดแสตนบายจุดละ 3-4 คัน และจะมีเจ้าหน้าที่จาก ขสมก. คอยสังเกตุและประเมิณผลตลอด 24 ชั่วโมง

รถ ขสมก. ที่มาทดแทนรถตู้ที่ถูกหยุดวิ่ง

รถ ขสมก. ที่มาทดแทนรถตู้ที่ถูกหยุดวิ่ง

ประชาชนผู้รอรถตู้

ด้าน พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน กล่าวว่า คำสั่งนี้ ไม่ได้มีแบบกระทันหัน ผู้ประกอบการรถตู้ จะทราบดีอยู่แล้วว่า หากรถตู้ที่มีอายุเกิน 10 ปี ไม่สามารถนำมาวิ่งได้ นอกจากนี้ รถตู้ จะต้องมีการตรวจสภาพรถ ทุกๆ 6 เดือนอีกด้วย สำหรับปัญหานี้ จะแก้ไขได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการรถตู้ ว่าจะนำรถกลับมาใช้ได้เมื่อไหร่ ซึ่งตามกฎหมาย มีเวลา 180 วัน ผู้ประกอบการสามารถนำรถใหม่มาเปลี่ยนได้

แต่หากเกิน 180 วันแล้วไม่สามารถ นำรถใหม่มาเปลี่ยนได้ ทางกรมการขนส่งทางบกจะใช้ มาตรา 41 ตาม พ.ร.บ.ขนส่งของปี พ.ศ. 2522 คือ จัดรถมินิบัส ที่มีเส้นทางใกล้เคียงกันมาวิ่งแทน และจะนำผู้ประกอบการรายใหม่ เข้ามาร่วมวิ่งด้วย

ด้าน นายกมล บูรณพงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้เริ่มจัดตั้งศูนย์อำนวยการที่กรมการขนส่งทางบกแล้ว ผู้ประกอบการใดที่มีปัญหาเรื่องการเงินหรือไม่สะดวกในการหารถใช้งานซึ่งทางเราพร้อมให้บริการในเรื่องต่างๆ โดยจะจัดหาหน่วยงานที่ทำสินเชื่อไว้ โดยจะมี บริษัทจาก MOU ,ธนาคารกรุงไท และ บสย. เข้ามาแนะนำและทำเอกสารต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการรถตู้จะต้องใช้

ด้าน นางธีรนุช ผู้โดยสารรถตู้สาธารณะท่านหนึ่ง กล่าวว่า วันนี้รอรถตู้นานเป็นพิเศษเนื่องจากทราบข่าวจะหยุดให้บริการ แต่ก็รู้สึกเห็นด้วยกับการแก้ปัญหากับการแก้ปัญหาของกรมการขนส่ง เนื่องรถตู้บางคันก็ไม่ได้มาตรฐาน และบางคันแอร์ก็ไม่เย็น ซึ่งทุกอย่างที่ทางกรมขนส่งทำนั้นก็เพราะความปลอดภัยของประชาชน อาจจะได้รับผลกระทบและเดือดร้อนบ้าง แต่หากเพื่อความปลอดภัยของชีวิต ก็ต้องยอมรับ ในอนาคตก็อยากให้ผู้ประกอบการรถตู้มีรถวิ่งถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อประชาชนจะได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน