งานงอกถึงคราวซวย! หน่วยซีลแจ้งจับรปภ.แต่งซีลเก๊จีบสาว อ้างช่วย13หมูป่า
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ชุดเฉพาะกิจ-ต่อต้านทหารปลอม & ตำรวจปลอม” ออกมาเผยข้อมูลเตือนภัย หลังพบมีชายหนุ่มแอบอ้างเป็นทหารเรือ และหน่วยซีล ผ่านภารกิจการช่วยเหลือ 13 หมู่ป่าอะคาเดมี ที่ขุนน้ำนางนอน รวมทั้งตัดต่อรูปตนเองในเครื่องแบบราชการทหารมากมาย แล้วเอาไปใช้หลอกล่อลวงหญิงสาว
ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 1 ต.ค. พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล มอบหมายให้ น.อ.อนันท์ สุราวรรณ์ เสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนหน่วย เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ คำกอง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายกิตติศักดิ์ นาเมืองรักษ์ อายุ 24 ปี ชาวจ.ศรีสะเกษ เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ “ราชนาวีไทย หมวดต้น” และ “ขุนศึก ทะลวงฟัน”
โดยนำหลักฐาน ที่นายกิตติศักดิ์ แอบอ้างตนว่า เป็นข้าราชการทหารเรือ และเป็นนักทำลายใต้น้ำจู่โจม สังกัด หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือ หน่วยซีล ด้วยการตัดต่อรูปอยู่ในเครื่องแบบข้าราชการกองทัพเรือ และมีการโพสข้อความในสื่อโซเชียล จนเกิดความเสียหายสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อหน่วย และกองทัพเรือ มาเป็นหลักฐาน
น.อ.อนันท์ กล่าวว่า ภายหลังสื่อและโซเชียลตีแผ่เรื่องของนายกิตติศักดิ์ ที่ได้ใช้เฟซบุ๊กตัดต่อรูปอยู่ในเครื่องแบบทหารเรือ สังกัด หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ พร้อมโพสต์ข้อความ อ้างเคยผ่านภารกิจช่วยเหลือ 13 หมูป่าอะคาเดมี ที่ติดถ้ำขุนน้ำนางนอน รวมถึงนำไปแสดงตนใช้แอบอ้างในการจีบสาวทางโลกออนไลน์ จนมีคำถามมากมายถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่านายกิตติศักดิ์ ไม่ได้เป็นข้าราชการทหารเรือ
“จากประวัติพบว่าเคยเป็นอดีตทหารเกณฑ์ในสังกัด หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เมื่อปี 2558 ปัจจุบันทำอาชีพ พนักงานรักษาความปลอดภัย เบื้องต้น พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยซีล ได้รายงานเรื่องนี้ให้หน่วยเหนือรับทราบ พร้อมมอบหมายให้ตน เป็นผู้แทนหน่วยแจ้งความดำเนินคดีกับ นายกิตติศักดิ์ ให้กฎหมายลงโทษอย่างถึงที่สุด อันส่งผลต่อความเสื่อมเสียชื่อเสียงหน่วย และเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างต่อผู้อื่น”
ด้าน ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้ได้ให้ผู้เสียหายแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว เบื้องต้นได้เตรียมออกหมายเรียกนายกิตติศักดิ์ มาสอบปากคำถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่า มีการตัดต่อรูปจริง และแอบอ้าง ก็จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าว “ผบ.หน่วยซีล” ยันตรวจแล้ว ซีลเก๊ เปิดเฟซบุ๊กล่อลวงสาว ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ
อ่านข่าว ซีลเก๊ซวยแล้ว ทร.ฮึ่มเอาผิด หนุ่มมั่วเป็นซีล ล่อลวงสาว อ้างเคยช่วย13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง
อ่านข่าว ซีลเก๊ โดนแหก เป็นแค่อดีตพลทหาร เคยทำงานรปภ.แบงก์ แต่ใช้ชีวิตติดหรู
