จี้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจรบุรี ไล่ออกปลัดอำเภอด่านมะขายเตี้ย หลังเข้าไปล่าหมีขอ ในเขตป่าไทรโยค!

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนออกแถลงการณ์ในนามสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เรื่อง ขอเรียกร้องให้ผู้ว่าฯกาญจนบุรี ไล่ออกปลัดอำเภอ กับพวก ฆ่าหมีขอ กลางป่าไทรโยค โดยระบุว่า

ตามที่ปรากฏในเฟซบุ๊ค “ทีมพญาเสือ” เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2561 รายงานว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เข้าตรวจสอบบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ ทย.6 (เขาพูล) พบกลุ่มรถออฟโร้ดจำนวน 6 คัน มีชายหญิงรวม 12 คน ลักลอบเข้าอุทยานฯ หลังตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่ามีอาวุธปืนยาวไรเฟิล .22 CZ ติดกล้องและอุปกรณ์เก็บเสียง พร้อมเครื่องกระสุน 30 นัด พบอาวุธปืนพก 9 มม. จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 40 นัด เครื่องกระสุนขนาด 5.56 (เครื่องกระสุนใช้กับ M 16) จำนวน 20 นัด

และยังพบซากสัตว์ป่า (หมีขอ) ทั้ง 4 เท้าซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 2 ตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 เป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ในบัญชีไซเตส นอกจากนั้นยังมีดอีโต้อีก 2 และมีดทำครัวอีก 3 เล่มพร้อมเขียงด้วย โดยกลุ่มออฟโรดดังกล่าวนำทีมโดยปลัดอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมทีม อส. นั้น

การกระทำดังกล่าวของปลัดอำเภอและ อส. ในฐานะที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของรัฐ ย่อมมีสำนึกรู้ว่าการพกพาอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติและฆ่าหมีขอหรือมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองฯ เป็นการจำนนด้วยหลักฐาน แม้จะพยายามปฏิเสธก็ฟังไม่ขึ้น ย่อมต้องมีความผิดตามกฎหมายหลายกระทง อาทิ

1)ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง พรบ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 ต้องระวางโทษตามมาตรา 72 ทวิ วรรคสอง จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

2)ร่วมกันทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ตามมาตรา 16(3) พรบ.อุทยานแห่งชาติ 2504 มีความผิดตามมาตรา 24 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3)ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา 16 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ต้องระวางโทษตามมาตรา 47 จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4)ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ต้องระวางโทษตามมาตรา 47 จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พฤติกรรมดังกล่าวของปลัดอำเภอและ อส.ถือได้ว่าไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะเป็นถึงเจ้าพนักงานของรัฐกลับปฏิบัติโดยมิชอบ เข้าข่ายฐานความผิด “ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง” อันถือได้ว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 85 (7) ประกอบมาตรา 82(10)

สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจึงขอเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีควรสั่งลงโทษโดยการไล่ออกจากราชการ ตามมาตรา 88 (5) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมและต่อข้าราชการอื่น ๆ ต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายจะไม่ใช้ความเป็นข้าราชการด้วยกันในการช่วยเหลือเกื้อกูลกันจนทำให้น้ำหนักคดีอ่อนลงจนทำให้ผู้ต้องหาหลุดไปได้ในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน