เป็นเรื่องกรรเชียงปู650! รองผู้ว่าฯบุกร้านซีฟู๊ดพิสูจน์ เจ้าของร้านตัดปัญหาเลิกขายเมนูนี้

จากกรณีมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความ ว่าได้ไปรับประทาน ปู ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่เมื่อเช็กบิลมาถึงกับอึ้ง เนื่องจากปูในจาน 6 ชิ้น และผักกาดหอม 1 ชิ้นใหญ่ตกแต่งจาน มีราคาถึง 650 บาท โดยระบุข้อความว่า “อยากถามและบอกต่อ ในรูปนี้คือบิลอาหารร้านหนึ่งพิกัดถนนเพรชเกษม สั่งกรรเชียงปูได้จานนี้มา มีหกชิ้น ราคา 650 หึหึ” “ว่าละทำไมทุกโต๊ะเช็กบิลแล้วมีปัญหา อยากแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบหน่อย ปูม้าตัวเท่าปูนา ขายราคานี้ แล้วคือสั่งกรรเขียงปู ไม่ได้สั่งปูซีก เข้าไปชมหน่อย”

โดยล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 16 ต.ค. นายภิรมย์ นิลทยา รองผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมด้วย ทหารชุดรักษาความสงบที่ 2 พื้นที่หัวหิน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตำรวจ ตม. ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน ตำรวจ สภ.หัวหิน ปลัดอำเภอหัวหิน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากนั้นร่วมเดินทางเข้ารวจสอบ ร้านไข่มุกซีฟู้ด 2 ริมถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เบื้องต้นพบว่า มีการปิดป้ายแสดงราคาปรับใหม่ จากเดิม ราคา 450 บาท เป็น 650 บาท ช่วงวันหยุดเทศกาลที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่ลูกค้าสั่งกรรเชียงปู แต่กลับได้รับเป็นปูขนาดเล็กผ่าครึ่งซีกนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง โดยร้านได้จัดเมนูกรรเชียงปูที่เป็นข่าวมาให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบด้วย

นายภิรมย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดปัญหาขึ้นผู้ว่าฯ ได้มอบหมายตนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลทันที พื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกและอยากให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้าย หลังจากนี้จะออกคำสั่งจังหวัดเพื่อให้ทุกร้านอาหารทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากนักท่องเที่ยวไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้ตรวจสอบได้

“กรณีนี้ลูกค้าสั่งกรรเชียงปู แต่กลับได้ปูขนาดเล็กนั้น ผู้บริโภคยอมรับว่าไม่ได้ดูราคา และไม่ได้ติดใจเอาความ ส่วนราคาที่ทางร้านติดราคาไว้ ราคาสูงหรือไม่นั้น จะตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ผู้บริโภครายนี้รู้สึกเสียใจ เพราะเป็นคนหัวหินแต่กลับเจอเรื่องแบบนี้ เบื้องต้นทางร้านได้ยอมรับผิดและจะดำเนินการปรับปรุงตามคำแนะนำ ส่วนกรณีเรื่องการขอใบอนุญาตที่เบื้องต้นพบว่า ร้านยังไม่มีใบอนุญาต เพราะคิดว่าขออนุญาตแล้วในสาขาที่ 1 นั้นหากพบว่าไม่ถูกต้องก็จะไม่อนุญาตให้ค้าขายต่อ ประเด็นนี้จะให้เทศบาลเมืองหัวหินเข้ามาตรวจสอบต่อไป

ด้านนางสมลักษณ์ เจ้าของร้านไข่มุกซีฟู้ด 2 กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แล้วบอกว่า กรรเชียงปูนั้นไม่ถูกต้อง ร้านก็จะแก้ไขแต่อาจจะไม่ขายเมนูนี้แล้ว แต่จะเปลี่ยนเป็นปูนึ่งไปเลยเพื่อตัดปัญหา ส่วนราคาอาหารแต่ละเมนูนั้นโดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีราคาแพง ทางร้านยืนยันวันปรับเป็นบางเมนูเท่านั้น ถ้าซื้อมาแพงก็จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นตามความจริง ไม่เช่นนั้นก็ขายไม่ได้ ขาดทุน แต่ยืนยันว่าได้ติดป้ายราคาปรับใหม่ไว้ในเมนูอาหารแล้ว และในเมนูแต่ละหน้าได้ลงรายละเอียดว่าตรวจสอบราคาก่อนสั่งไว้ แต่ก็ยังมาเกิดเรื่องขึ้น

“ปัญหาที่ขึ้นเป็นข่าวดังในโลกออนไลน์ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า เราไม่สามารถไปห้ามใจคนที่แสดงความคิดเห็นได้ จะให้ไปตามแก้ทุกอย่างก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีเวลาและจะกลายเป็นว่าเราแก้ตัว เราก็มั่นใจว่าได้ทำถูกต้องหมดทุกอย่าง รอให้ส่วนราชการมาตรวจสอบเพื่อต้องการจะบอกความในใจและพูดตามความเป็นจริงทุกอย่าง ซึ่งตัวกรรเชียงปูที่ทางร้านขายไม่ตรงกับที่ลูกค้ารับประทาน ทางร้านจะแก้ไข ส่วนราคาจะถูกหรือแพงต้องขึ้นอยู่กับราคาสินค้าที่ซื้อมาเช่นกัน เมื่อชี้แจงแล้วก็รู้สึกสบายใจ เพราะค้าขายอยู่จึงอยากโปร่งใส”

ส่วนลูกค้าที่โพสต์ภาพกรรเชียงปู ระบุว่า หลังทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่าเสียความรู้สึก เพราะอยู่อาศัยที่หัวหินมานานกว่า 6 ปีแล้ว เข้าร้านอาหารชื่อดังมาหมด กุ้งตัวละ 2,000 บาท ก็กิน ไปกินร้านอาหารชื่อดังริมทะเล เช็คบิลจ่าย 7,000-8,000 บาท ไม่เคยมีปัญหา เพราะอาหารที่ได้มันคุ้มราคา หรือว่ามีคุณภาพ เป็นของสด ตัวใหญ่

“แต่กรณีที่เกิดขึ้นมองว่าถูกเอาเปรียบ ราคาแพงไม่ว่า แต่ของต้องมีคุณภาพ ในอดีตก็เคยทำร้านอาหาร รู้ดีว่าราคาอาหารต้นทุนซื้อราคาเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ถูกต้อง แพงไม่ว่าแต่ของต้องมีคุณภาพ ไม่ได้อยากได้ค่าชดเชยหรืออะไรทั้งสิ้น แต่ร้านควรยอมรับและปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ควรจะให้เกิดกับนักท่องเที่ยว สิ่งที่เกิดขึ้นหากมองในแง่ดี คือ ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในสังคม ให้ช่วยกันตรวจสอบสิ่งที่ไม่ถูกต้องและควรแก้ไขให้ดีขึ้น”

อ่านข่าว ดราม่า! สั่งกรรเชียงปูร้านอาหารดัง ไม่ได้ตามเมนูที่บอก แถมราคาโหด 650 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน