ปีติลายพระหัตถ์ในหลวง “ขอเป็นกำลังใจ” ชาวใต้ฝ่าภัย น้ำท่วม บิ๊กตู่เผยทรงรับสั่ง “ถ้าทุกข์ก็ทุกข์ไปด้วยกัน สุขก็สุขไปด้วยกัน” ถ้ามีอะไรที่จะทรงพระราชทานความช่วยเหลือได้จะช่วย ทั้งทรงให้นำแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ทั่วประเทศรวมใจระดมสิ่งของช่วยเหลือ “พี่เบิร์ด”ก็ควักกระเป๋าสมทบทุนด้วย

pastedGraphic.png

ทรงห่วงใย– พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โชว์พระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว พระราชทานให้กับพสกนิกรที่ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ ด้วยความห่วงพระราชหฤทัย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.

เหลือ 8 จว.ยังอ่วมท่วม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ม.ค. นาย วันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องฝนตกหนักบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 1 ระบุว่าในวันที่ 15 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และในพื้นที่เสี่ยงขอให้เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาในระยะนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. เผยว่า จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย 8 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรม ราช ชุมพร กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ รวม 76 อำเภอ 455 ตำบล 3,672 หมู่บ้าน แต่ภาพรวมระดับน้ำลดลงแล้วทุกจังหวัด

สำหรับในช่วงวันที่ 14-19 ม.ค. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้น และคลื่นลมมีกำลังแรง จึงประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมรับมืออุทกภัยและดินถล่ม ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ในหลวงทรงห่วงท่วมใต้

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ที่กองทัพภาค 1 ว่า เมื่อค่ำวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้ตนพร้อมพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และองคมนตรี เข้าเฝ้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ ถวายรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงรับสั่งด้วยความห่วงใยหลายเรื่อง โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ ไม่ว่าเกษตรกร ชาวประมง ปศุสัตว์ ทรงรับสั่งให้ทำให้ดีที่สุด มีการบูรณาการ ลดความซ้ำซ้อน ดูแลให้ทั่วถึง ขณะเดียวกันให้ดำเนินการคู่ขนานกับการ เตรียมแผนงานระยะยาวในการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนในภาคใต้ นอกจากนี้ยังทรงรับสั่งถึงแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่รับสั่งไว้หลายประการ โดยขอให้นำมาทบทวนด้วย ซึ่งรายละเอียดต่างๆ รมว.มหาดไทยจะชี้แจงอีกครั้ง ในวันนี้จะมีการประชุมศูนย์ส่วนกลาง ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามพระกระแสรับสั่งทั้งหมด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานลายพระหัตถ์ถึงประชาชนทุกคน ความว่า “ด้วยความรักและห่วงใย ขอเป็นกำลังใจในการร่วมกันฟื้นฟูและพัฒนาเพื่อขวัญที่ดี จิตใจและร่างกายที่เข้มแข็งนำมาซึ่งความสุขและมั่นคงของชาติ” และทรงลงพระปรมาภิไธยลงมา แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงห่วงใยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกภาคส่วนที่ลงไปช่วยกัน และพระราชทานกำลังใจให้ทุกคนด้วย ให้อดทนและเข้าใจว่าเราจะต้องอยู่กับน้ำอย่างไร โดยส่วนตัวแล้วตีความหมายได้ว่า เราจะต้องเรียนรู้เพราะสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง พระองค์ท่านทรงรับสั่งมา เพราะฉะนั้นเราจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ในวันข้างหน้าอีก ดังนั้นเราจะต้องเตรียมการ ให้พร้อม

“พระองค์ท่านทรงรับสั่งด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ท่านพระราชทานแนวทางไว้หลายอย่าง ในช่วง 70 ปีครองราชย์ จึงอยากให้นำมาใช้และปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านได้ศึกษาค้นคว้าและทดลองมาหมดแล้ว รัฐบาลนี้จะน้อมนำ รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมในการดำเนินการต่อไป ให้เป็นไปตามกระแสรับสั่งที่รับสั่งลงมา ในวันเดียวกันนี้จะมีขบวนคาราวานช่วยเหลือน้ำท่วมโดยกรมอาชีว ศึกษา ซึ่งผมจะบอกว่าทุกคนถือเป็นทูตปรองดองก็แล้วกัน ถือเป็นตัวอย่างการปรองดองที่ทุกคน ไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน ทุกคนมีน้ำใจเผื่อแผ่แบ่งปันซึ่งกันและกัน ทุกข์สุขไปด้วยกัน” นายกฯ กล่าว

เผยรับสั่งทรงทุกข์สุขด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างสถานการณ์ในปี 2554 พระราชทานไว้ว่า ถ้าทุกข์ก็ทุกข์ไปด้วยกัน สุขก็สุขไปด้วยกัน ในปี 2554 พระองค์ก็ทรงอดทนกับน้ำท่วมเหมือนกัน ทรงช่วยเหลือประชาชนและพระองค์ก็ไปไหนมาไหนไม่ได้เช่นกัน และทรงเล่าพระราชทานให้ฟังว่าลำบากไปด้วย ซึ่งวันนี้เราน่าจะแก้ปัญหาไปได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจ ซึ่งทุกภาคส่วนและสถาบันพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในทุกกรณี โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชน นอกจากนั้นยังพระราช ทานให้หน่วยบัญชาการถวายรักษาความปลอดภัย ลงไปช่วยเหลือร่วมกับทหารของรัฐบาลด้วย ส่วนการช่วยเหลือดูแลผู้บาดเจ็บและสูญเสีย พระองค์ท่านทรงรับสั่งว่า ถ้ามีอะไรที่จะพระราชทานความช่วยเหลือได้จะช่วยควบคู่ไปกับการช่วยเหลือของรัฐบาล

ต่อมาเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ ทรงห่วงใยประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ อัญเชิญถุงยังชีพพระราชทานสิ่งของพระราชทาน และชุดธารน้ำใจสภากาชาดสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งทรงห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะที่ความช่วยเหลือของทางราชการเป็นไปด้วยความยากลำบาก เข้าไปยังไม่ถึง หรือเข้าถึงช้า ซึ่งแต่ละพื้นที่นั้นมีความยากง่ายแตกต่างกัน ตามที่คณะองคมนตรีอัญเชิญพระกระแสรับสั่ง ในเรื่องอุทกภัยภาคใต้ มาหารือกับตนที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลรับแนวทางพระราชทานใส่เกล้าใส่กระหม่อม เพื่อดำเนินการต่อไป

“เพื่อให้การดูแลทุกข์สุข พี่น้องผู้ประสบภัยในครั้งนี้ มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้ขยายวงเงินทดรองราชการ ในอำนาจอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพิ่มอีก 50 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 150 ล้านบาท และในอำนาจผู้ว่าฯ พื้นที่ภาคใต้ ที่ประสบอุทกภัยอีก 50 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 100 ล้านบาทต่อจังหวัด เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องและขยายวงกว้าง สำหรับใช้จ่าย ซื้อวัสดุ อุปกรณ์ หรือยานพาหนะพิเศษ ซึ่งจำเป็นต่อการช่วยเหลือด้านต่างๆ รวมถึงความจำเป็นในการจัดส่งเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงอย่างรุนแรง มีน้ำป่าไหลเชี่ยวกราก ดินโคลนถล่ม” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า หากประสงค์จะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในครั้งนี้สามารถบริจาคเงินเข้า “กองทุนช่วยเหลือ ผู้ประสบสาธารณภัย” สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือภาคีเครือข่ายอีก 3 แห่ง ได้แก่ กองทัพเรือ, การยางแห่งประเทศไทย และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย รายละเอียดตามที่ปรากฏคือ บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 ทั้งนี้ ผู้ที่ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าว นำใบเสร็จรับเงินการบริจาคฯ ณ ศูนย์แห่งนี้ ของรัฐบาล และช่องทางอื่นๆ เป็นเอกสารสำหรับการขอลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่าของยอดเงินบริจาคอีกด้วย กรณีที่มีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ที่โทร.สายด่วน 1111

pastedGraphic_1.png

คุณพระช่วย– พระครูโกวิทย์ปัญญารัตน์ เจ้าอาวาสวัดสีหยัง และเจ้าคณะตำบลวัดสน อ.ระโนด จ.สงขลา นำพระสงฆ์ลุยน้ำนำถุงยังชีพแจกช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงนานนับสิบวันแล้ว เมื่อวันที่ 13 ม.ค.

“พี่เบิร์ด”ร่วมสมทบทุน

ด้าน นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ยอดเงินบริจาคใน “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย” ขณะนี้มียอดกว่า 311 ล้านบาทแล้ว รัฐบาลจะนำไปช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เบื้องต้นจะนำไปมอบให้กับญาติของผู้เสียชีวิตก่อน จากนั้นจะนำไปช่วยประชาชนในพื้นที่ขาดเเคลนที่หน่วยงานทั่วไปเข้าไม่ถึง และหลังจากน้ำลดกลับสู่ภาวะปกติเงินบริจาคจะนำไปใช้ซ่อมแซมบ้านเรือนและเครื่องมือประกอบอาชีพที่ได้รับความเสียหาย

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงข่าวจัดงาน “ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้” ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ว่า รัฐบาลจัดงานดังกล่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ให้รู้ว่าคนไทยไม่ได้ทอดทิ้งและจะดูแลอย่างเป็นระบบอย่างยั่งยืน โดย นายกฯ ถือเป็นวาระแห่งชาติ จึงสั่งการให้ทุกภาคส่วนระดมความช่วยเหลือในรูปแบบประชารัฐ โดยงานวันดังกล่าวนายกฯ และครม. นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย นักแบดมินตันทีมชาติ ดารา นักร้อง จะมาร่วมรับสายบริจาคจากประชาชนในทุกภาคส่วน ซึ่งงานดังกล่าวจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจในเวลา 18.00 น. เป็นเวลา 30 นาที จากนั้นสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีจะถ่ายทอดสัญญาณต่อเนื่อง ล่าสุดนายธงไชย แมคอินไตย์ นักร้องชื่อดัง แสดงความประสงค์ร่วมบริจาคเป็นเงิน 200,000 บาท

วันเดียวกัน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตรวจเยี่ยมและติดตามแผนการฟื้นฟู ร.พ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังกลับมาเปิดให้บริการอาคารผู้ป่วยนอกได้ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่มีประชาชนจำนวนมากเข้ารับบริการรักษาผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยฉุกเฉิน พบว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสามารถให้บริการประชาชนได้ในส่วนของอาคารผู้ป่วยนอก แต่ในส่วนของอาคารผู้ป่วยใน ต้องรอการฟื้นฟูอีกระยะ รวมถึงห้องผ่าตัดและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่เร่งประเมินจัดสรรงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซม พร้อมกันนี้ยังส่งทีมสุขภาพจิต ออกตรวจสอบเยียวยาสภาพจิตใจประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว

รฟท.คาดต้องซ่อมรางอีก 7 วัน

ส่วนที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ตรวจสอบความพร้อมของรันเวย์อีกครั้ง หลังระดับน้ำที่ท่วมพื้นรันเวย์ลดลงจนเปิดให้บริการได้ตามปกติตั้งแต่เวลา 18.00 น. และตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. จะมีสายการบินทั้ง 26 เที่ยวบิน รองรับผู้โดยสารได้เต็มที่ ซึ่งทางท่าอากาศยานฯ แจ้งไปยังสายการบินทุกสายแล้ว ขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบได้กับทุกสายการบิน

ด้านพ.ต.อ.พยุหะ บุษบงค์ รอง ผบก.ตชด.ภาค 4 จ.สงขลา บินสำรวจร่องน้ำทะเลสาบสงขลาพื้นที่รอยต่อ จ.สงขลา และจ.พัทลุง พบว่า ยังคงมีน้ำทะเลหนุนเข้าท่วมพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาของทั้งสองจังหวัดอย่างหนัก มาจากน้ำระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทยช้า เนื่องจากจุดที่เป็นเส้นทางระบายน้ำสายหลักจากทะเลสาบสงขลาออกสู่อ่าวไทยมีสิ่งกีดขวางทางน้ำทั้งสภาพป่ารกและเป็นเนินสันดินตื้นเขิน

ส่วนบรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา แทบกลายเป็นสถานีร้าง โดยเฉพาะตั้งแต่เวลา 14.00 น.ของทุกวัน ที่ขบวนรถด่วนและรถเร็วเริ่มออกจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ขึ้นกรุงเทพฯ สาเหตุมาจากเส้นทางรถไฟสายใต้กลายเป็นอัมพาตตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. จากเหตุน้ำท่วมรางรถไฟเสียหายหลายจุด ขบวนรถไฟสายใต้เส้นทางขึ้นล่องกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องหยุดยาวมาแล้ว 9 วัน

นายบรรหาร โกบยาหยัง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถภาค 4 การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมรางรถไฟสายใต้ที่ถูกน้ำกัดเซาะรางเสียหายกว่า 70 จุด ความเสียหายครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบ 29 ปี นับตั้งแต่เหตุภัยพิบัติครั้งรุนแรงที่สุดของภาคใต้เมื่อปี 2531 คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมแซมแล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ม.ค.นี้ และเปิดทางเดินรถได้ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.

ทั่วปท.ส่งของช่วยบรรเทาท่วม

ขณะเดียวกันหน่วยงานราชการ และภาคเอกชนในภูมิภาคอื่นๆ ต่างระดมความช่วยเหลือส่งให้พื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ที่ลานพระราชวังดุสิต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้นายพลากร สุวรรณรัฐ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา และพล.อ. กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ร่วมพิธีปล่อยคาราวาน “รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการช่วยเหลือประชาชน” มีพล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน ขบวนรถทั้งหมดกว่า 900 คัน พร้อมทีมจิตอาสานักเรียน นักศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา 300 ทีม ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ ซ่อมแซมอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การเกษตร ตั้งเป้าบริการประชาชนได้มากกว่า 150,000 ครัวเรือน ซ่อมอุปกรณ์ 500,000 ชิ้น

ส่วนที่ จ.พะเยา พระราชปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดพะเยา จัดทำโครงการร่วมใจช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ร่วมใจสร้างความดีน้อมถวายเป็นพระราชกุศลฯ ระดมทุน ข้าวสาร อาหารแห้ง และเวชภัณฑ์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ โดยจะนำไปมอบในวันที่ 17 ม.ค.นี้

ที่โรงสีสหกรณ์การเกษตรเมืองศรีสะเกษ จำกัด ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ แพ็กถุงบรรจุข้าวสารหอมมะลิ จากเครือข่ายสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 16 แห่ง ที่ได้ร่วมใจกันบริจาคช่วยผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดภาคใต้ จำนวนกว่า 16 ตัน คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 500,000 บาท ที่โรงเรียนวัดเทพมงคลเหนือ 1 อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ นักเรียนชั้น ป.1-6 กว่า 100 คน ช่วยกันบรรจุข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า น้ำดื่ม ห่อใส่ถุง พร้อมด้วยเงินจำนวนหนึ่ง นำไปบริจาคให้กับพี่น้องชาวใต้ที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วม เนื่องในโอกาสที่ใกล้จะถึงวันเด็ก

ที่สำนักงานเจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง พระมหาสุวรรณ วิชฺชาธโร เจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง และเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนใต้ ร่วมกับวัดพระงาม ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง โดย พระครูโสภณพุทธารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระงาม เปิดโรงครัวทำอาหารกล่องแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่ พร้อมเปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของต่างๆ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ไก่ น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน

ส่วนที่ จ.สงขลา พระครูโกวิทย์ปัญญารัตน์ เจ้าอาวาสวัดสีหยัง เจ้าคณะตำบลวัดสน อ.ระโนด นำพระสงฆ์ลุยน้ำและล่องเรือ นำถุงยังชีพเข้าไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่บ้านทอนสำโรง ปากบาง ต.ระโนด บ้านมาบเตย ม.3 ต.แดนสงวน ที่ยังมีน้ำท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร บางครอบครัวยังมีผู้ป่วยติดเตียงซึ่งเป็นผู้สูงอายุอยู่ด้วยความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก

ที่มัสยิดอัลฟุรกอน บ้านเพชรสุภา ต.จะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี มีองค์กรจากประเทศมาเลเซีย 44 องค์กร จำนวน 100 คน รถยนต์ 20 คัน พร้อมบิ๊กไบก์ 20 คัน ร่วมกับชาวปัตตานีชาวชุมชนมัสยิดอัลฟุรกอน นำสิ่งของข้าวสารอาหารแห้งและยาเวชภัณฑ์ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ จ.นครศรี ธรรมราช หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศมาเลเซียประสบอุทกภัยหนัก คณะเจ้าหน้าที่ ข้าราชการและประชาชนชาวไทยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในประเทศมาเลเซียอย่างถ้วนหน้ากัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน