สาวโต้ ไม่ได้ หลอกโอนเงิน ครึ่งล้าน ใช้รูปปลอมในแอพหาคู่ แต่เจอหน้า…รักกันจริง เผยเคยเป็นฝ่ายให้ผู้ชายยืมเงิน

จากกรณี นัทโอนไวภาค 2 ที่มีหนุ่มอีกคนหนึ่ง อ้างว่าถูกสาว หลอกโอนเงิน ในลักษณะเดียวกัน สูญเงินไปกว่า ครึ่งล้าน กระทั่ง นายเติร์ก (นามสมมติ) หนุ่มที่ถูกสาวปลอมตัว ใช้โปรไฟล์ปลอมเป็นนางแบบไต้หวัน พร้อมอ้างว่าทางครอบครัว มีฐานะร่ำรวย มีญาติเป็นนายตำรวจชั้นสูง เพื่อหลอกให้โอนเงิน กว่า 500,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 พ.ย. น.ส.หมวย(นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ได้เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์” ว่า ตนมีอาชีพเป็นเป็นฟรีแลนซ์ เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน หลังจากที่นายเติร์ก ได้ให้ข่าวไปนั้น ทำให้ส่งผลกระทบต่องานอย่างมาก ทางญาติพี่น้องต่างก็โทรมาหาตน ว่าเรื่องราวที่เกิดขี้นมันจริงหรือไม่ ตนคงพูดได้เพียงว่ามันไม่เป็นความจริง

น.ส.หมวย กล่าวว่า ตนกับนายเติร์กมีความสนิทสนมกันพอสมควร ตนรู้จักนายเติร์กผ่าน แอพพลิเคชั่น สเกาต์ (skout) ในขณะนั้นตนใช้รูปคนอื่นจริง โดยใช้นามสมมุติชื่อ “ฟ้า” และได้ใช้รูปโปรไฟล์นั้นจริง เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ผ่านทาง แอพฯ ดังกล่าว ตนยอมรับว่า ตนเหงาเพราะสังคมทุกวันนี้มองกันที่หน้าตา

แล้วนายเติร์กได้แอดมา คุยกันผ่านแอพนี้ได้ประมาณ 1 เดือนก็มีการแลกไลน์กัน ก่อนศึกษาดูใจกันมาซักระยะหนึ่ง ก่อนที่จะนัดเจอกันกระทั่ง นายเติร์กมาพบว่า ตนไม่ใช่คนในรูป ก่อนที่ตนจะตัดสินใจบอกนายเติร์กไป ว่าตนไม่ใช่คนเดียวกับคนในรูป แต่นายเติร์กได้ตัดสินใจคุยกันก่อนจนกระทั่งมีความสนิทสนมกัน และมาเช่าหออยู่ด้วยกัน แต่เช่าคนล่ะห้อง ไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด

ระหว่างคบหากันนั้น ก็มีการใช้จ่ายเงินร่วมกัน ทั้งกิน เที่ยว ทุกอย่าง แต่ส่วนใหญ่นั้นตนจะเป็นคนจ่ายเงินมากกว่าเสมอเงินเก็บที่ตนมีอยู่เริ่มหมดลง เพราะตนไม่มีงานทำยอมรับว่ามียืมนายเติร์กบ้าง ส่วนใหญ่ก็มาใช้กินใช้จ่ายกัน ยอมรับว่ามีการยืมเงินนายเติร์กก่อนหน้านี้

น.ส.หมวย กล่าวอีกว่า ส่วนเงินจำนวน 5 แสน ที่นายเติร์กอ้างว่าตนโกงมานั้นไม่เป็นความจริง ในขณะที่ตนคบอยู่กับนายเติร์กนั้น ตนได้ออกเงินให้ก่อนในหลายครั้ง เช่น การใช้เงินกลับบ้านบ้างหรือแม้กระทั่งการที่นายเติร์กต้องเอาเงินให้แม่เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งตนกับเติร์กก็คบกันจริงๆ คบกันแบบลับๆ ตนก็เลยยอมจ่ายให้ก่อนเสมอ








Advertisement

แล้วถึงช่วงที่ตนไม่มีเงิน ตนก็ทวงเงินไป แต่เติร์กก็โอนมาให้ตน แต่ไม่ถึง 5 แสน ส่วนเงินอีกส่วนที่ว่าตนจะเอาเงินให้เติร์กยืมจำนวนกว่า 10 ล้านบาทนั้น เงินนั้นมาจากค่าที่ที่ตนกำลังขายที่ได้ซึ่งเป็นที่มรดกของแม่ตน แต่ทางนายเติร์กก็ได้มีมากดดันตน ตนจึงตัดสินใจไม่ขายที่ดินตรงนั้นไป

“ตนยืนยันว่าตนได้คุยกับนายเติร์กจริง เคยเกือบจะได้ใช้ชีวิตคู่กับนายเติร์กจริง แต่ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนอยู่ในสถานะอะไร แต่เวลาที่ตนไปบ้านนายเติร์ก ทางบ้านก็จะคิดว่าเราเป็นแฟน กันเสมอ”

น.ส.หมวย กล่าวอีกว่า โปรไฟล์ดังกล่าวไม่ใช่ตน และตนไม่ได้ตั้งใจที่จะทำ ถ้าตนตั้งใจตนจะไปบอกนายเติร์กทำไมว่า นั้นไม่ใช่รูปตน ตนก็มีสามัญสำนึกของตน จึงบอกเขาไป ส่วนเรื่องโปรไฟล์ที่ตนบอกว่าตนเป็นเลขาคุณฟ้านั้น มันก็คือโปรไฟล์อันเก่า ที่ติดอยู่แบบนั้น

ตนก็อยากจะบอกว่าตนเคยผิดพลาดมาแล้ว ตนเป็นคนมีปมด้อยที่หน้าตา แต่คนหน้าตาไม่ดีก็ไม่มีใครเขาอยากคุยด้วยแล้ว ตนเหงา ตนไม่ได้ผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ตนผิดเพียงครึ่งหนึ่ง นายเติร์กก็ผิดครึ่งหนึ่งเขาก็มีส่วนที่หลอกลวง

การทำงานล่าช้าของตำรวจนั้นไม่เป็นความจริง ตนยอมรับว่าผิดจริงที่เอารูปคนอื่นมา และต้องโดนข้อหาพรบ.คอมพิวเตอร์ อย่างแน่นอนซึ่งตนก็ยอมรับผิดในเรื่องนี้

ในส่วนที่มีการอ้างในเรื่องของ พันตำรวจโท และมีเงินกว่า 300 ล้าน นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนไม่มีเงินถึงขนาดนั้น ในตอนนั้นที่พูดคุยกันกับนายเติร์กในเรื่องเงิน 300 ล้านนั้นเป็นเพราะตนไปติดต่อเป็นนายหน้าขายที่ให้กับลูกค้าได้เพียงเท่านั้น ตนแค่ได้ส่วนแบ่งมาบ้างส่วนเท่านั้น

ส่วนเรื่องรู้จักผู้ใหญ่ที่เป็นตำรวจนั้นไม่เป็นความจริง ตนเพียงมีผู้ใหญ่ที่เป็นนายทหารที่เคารพกันเท่านั้นซึ่ง ท่านก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวเลย ส่วนที่ถูกตรวจสอบเรื่องเงินนั้นเป็นเรื่องจริงเพราะตนทำงาน ฟรีแลนซ์เงินได้มากจากค่านายหน้าเยอะก็ต้องถูกตรวจสอบเป็นธรรมดา

ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนสน. ลาดพร้าว ได้ติดต่อให้ตนไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำแล้ว ในวันที่ 3 ธ.ค. นี้ ซึ่งตนก็ยินดีที่จะไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน