หนุ่มขึ้นป้าย กราบโจร เปิดใจสุดเจ็บปวด อ้างตร.ไม่ช่วยแถมทำหลักฐานหาย

กราบโจร / โหนกระแสวันที่ 11 ธ.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์- เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “ธวัชชัย แก้วสว่าง” ผู้เสียหายซึ่งถูกโจรขึ้นบ้าน 4 ครั้ง ขนของเกลี้ยง ตำรวจทำเฉย จนต้องสืบเอง หาหลักฐานเองยื่นให้ตำรวจ สุดท้ายตำรวจทำหลักฐานหาย คดีไม่คืบ โจรลอยนวล

คุณรู้สึกเจ็บปวด?
ธวัชชัย : “เจ็บปวดครับ ที่ขึ้นป้ายเพราะอัดอั้นมาก โมโหไม่รู้จะระบายทางไหน ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตร.ด้วย”

เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?
ธวัชชัย : “บ้านหลังนี้ปลูกได้ 9 ปีเหตุการณ์แรกเกิดตอน 5 ปีหลัง มาขโมยของในครัวก่อน มาขโมยถังแก๊ส ขโมยพวกเครื่องครัวไปขายก่อน น่าจะเป็นเด็กติดยาแถวนั้น โอเค ไม่เป็นไร มันไม่ได้หนักหนา ซื้อใหม่ได้ ครั้งแรกไม่ได้แจ้งความ พอครั้งที่สอง เขาใช้วิธีปีนทางหน้าต่างห้องน้ำ เอาพวกนาฬิกาข้อมือไปสามเรือน เอากระเป๋าตังค์แฟนไปใบนึง

เราไปเที่ยวต่างจังหวัด ปีใหม่ ไม่ได้แจ้งความอีก รับได้อยู่ จากนั้นผ่านไปวันที่ 29 พ.ย. 2559 ผมกับแฟนออกบ้านไปทำงาน พอตอนเย็นกลับมา แฟนบอกว่ามันแปลกๆ ผ้าม่านปิดหมดเลย ผมก็บอกว่าแฟนอย่าเพิ่งเข้าบ้านนะให้เข้าไปพร้อมกัน พอเข้าไปถึงปุ๊บ บ้านมีการถูกงัดแงะ แต่วันนั้นครั้งที่ 3 อุปกรณ์อาจยังไม่พร้อม เขางัดเข้าในบ้านได้แต่เข้าห้องนอนไม่ได้ เป็นบ้านเดี่ยวปลูกเอง อยู่ในสวน”

ตอนนั้นติดเหล็กดัดหรือยัง?
ธวัชชัย : “พอสองครั้งขึ้น ผมติดเหล็กดัดแล้ว ผมเลี้ยงหมาเล็ก เอาหมาเล็กไว้ในกรง แฟนก็กลัวหมาหายใจไม่ออก ก็เปิดหน้าต่างไว้ คนร้ายใช้วิธีการผลักมุ้งลวดออก เอามือล้วงเข้ามา ไขเหล็กดัดออก ตอนนั้นอุปกรณ์ที่เขาเอามาน่าจะไม่พร้อมงัดเข้าไปในห้องได้ เพราะใช้ตัวเซฟตี้สองชั้น

ตอนแรกผมไม่รู้ว่าบัตรเครดิตผมถูกเอาไป ผมก็ไปแจ้งความทั่วไป ทีนี้ตรงบัตรเครดิตไม่ได้แจ้ง พอผ่านไปปุ๊บ หลังจากนั้น 1 เดือน เราก็ทำใจว่าจับใครดมไม่ได้ กองพิสูจน์หลักฐานมาที่บ้าน ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว สภ.ปลายบาง พอวันที่ 30 ธ.ค. มีจดหมายใบแจ้งหนี้มา ผมก็เปิดดูแล้วผงะเลย”

ธนาคารกรุงเทพ เป็นเงินทั้งหมด 85,805 บาท คุณไม่ได้รูด?
ธวัชชัย : “ไม่ได้รูด บัตรนี้ไม่ได้มีการใช้ พอดีผมเก็บไว้ในกระป๋องที่บ้านนั่นแหละ แล้วมารู้ตัวว่าคนร้ายเอาไป ตอนใบแจ้งหนี้มานี่แหละ มีร้านโทรศัพท์ ร้านนาฬิกา และร้านทอง ยังไม่จบแค่นั้น พอผมรู้ แต่หลังโจรขึ้นวันที่ 29 โจรคนนี้แวะมาหาผมหน้าบ้าน แต่ใบแจ้งหนี้ตรงนี้ยังไม่มา เราก็ไม่รู้ตัวคนร้าย

โจรคนนี้ชื่อนุ๊ก มาหาผมหน้าบ้าน บอกว่าผมจะขายรถเหรอ มาขอเบอร์โทรศัพท์ผมไป ทีนี้ผมก็ไม่ได้คิดอะไรตรงนั้น พอใบแจ้งหนี้มาปุ๊บรู้ว่าเขาเป็นเขา ผมก็มานั่งคิดว่าเขามาถามทำไม เขาน่าจะไปขอเปิดวงเงินเพิ่มเพราะมันเต็มแล้ว ต้องการเอาเบอร์โทรศัพท์ไปโทรหาธนาคาร ขอวงเงินชั่วคราวเพิ่ม”

คุณเริ่มสงสัยว่าเป็นนุ๊กมั้ย?
ธวัชชัย : “ตอนนั้นยังไม่สงสัย เด็กแถวบ้านมาทักทายเราก็ปกติ พอผมรู้ใบแจ้งหนี้ปุ๊บ ผมก็ไปสน. บอกว่าคนร้ายเอาบัตรผมไปรูด ตร.บอกว่าเป็นท้องที่สน.รัตนาธิเบศร์ จะมาแจ้งความที่นี่ไม่ได้ ก็โอเค ผมก็ขับรถไป วันนั้นไปกับคุณแม่ ทางสน.ก็ถามว่าบัตรหายที่ไหน เขาก็บอกว่าเป็นในพื้นที่สภ.ปลายบางก็กลับไปอีก เขาก็ยังไม่รับเรื่องอีก บอกว่ามันไปรูดที่โน่น คุณก็ต้องไปแจ้งที่โน่น ผมก็ทำยังไงได้ก็กลับไปรัตนาธิเบศร์อีก

ทีนี้โชคดีไปเจอท่านรองผู้กำกับ ขอความช่วยเหลือจากท่าน ว่าทางสภ.ปลายบางบอกว่าอยู่ท้องที่ของท่าน ท่านบอกว่ารับแจ้งความไม่ได้ แต่ให้ความอนุเคราะห์ขอดูกล้องวงจรปิดจากห้องเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ให้ ผมก็ถือใบนี้ไปที่ห้างเซ็นทรัลรัตนาฯ ก่อนไปผมทำการบ้านไปหมดแล้ว เพื่อให้ดูกล้องง่ายขึ้น ว่าเขารูดกี่โมง ปรากฏว่าเจอคนร้ายซื้อนาฬิกาจีช็อก เขาใส่หมวก ใส่เสื้อขาว ด้วยความเป็นคนรู้จักกัน ท่าเดินก็รู้แล้วว่าเป็นเขา”

มั่นใจได้ยังไงว่าเป็นนุ๊ก?
ธวัชชัย : “ท่าเดินของเขาเป็นการบ่งบอกว่าเราเคยเตะบอลด้วยกัน แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นี้ พอผมรู้ปุ๊บผมก็ขับรถมาที่สภ.ปลายบางอีก ก็ไม่รับแจ้งความอีก ทีนี้มีน้องที่ทำงานเขาเป็นรองผู้กำกับอยู่สน.มักกะสัน ก็โทรไปขอความช่วยเหลือแก เขาก็โทรมาว่าทำไมไม่รับเรื่องเขา เขาเดือดร้อน มันอยู่ในท้องที่คุณ คุณก็รับเรื่องสิ นั่นแหละครับ เป็นจุดเริ่มต้นทำคดีผม”

เขาไปจัดการเองใช่มั้ย?
ธวัชชัย :”ตอนแรกก็หวังอย่างนั้น แต่เราเป็นประชาชนคนหนึ่ง อะไรทำได้เองก็จะทำ เพราะเราไม่ได้หวังจะพึ่งตร. เขามีคดีเยอะน่าจะทำให้ผมไม่ได้เร็วหรอก ทีนี้ผมก็ไล่ไปตามร้านแต่ละร้าน โชคดีร้านทุกร้านที่ติดต่อ ทางพนักงานร้านค้าให้ความช่วยเหลือทุกคน โชคดีมีร้านโทรศัพท์ร้านนึงที่โลตัสพระราม 5 เขาก็บอกว่าทางร้านมีกิจกรรมอยู่ ถ้าลูกค้าเล่นกิจกรรมจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้ มันเลยเป็นหลักฐานชิ้นนึงที่ทำให้เห็นหน้าชัดขึ้นกว่าเดิม ก็เป็นเขาจริงๆ ครับ

พอรู้ตัวคนร้ายชัดเจนปุ๊บ เราก็รวบรวมหลักฐาน ไปทุกร้าน ร้านทอง ร้านนาฬิกา ร้านโทรศัพท์ ไปเอาหลักฐานเป็นสลิปตัวจริง เพราะต้องเทียบลายเซ็น ในระหว่างที่ผมหาหลักฐานต้นปี 60 ผมตามหาหลักฐาน ผู้ต้องสงสัยคนนี้เขาก็ไปบำบัดยาเสพติดที่อยุธยา ทีนี้วันที่จะออก ผมด้วยความกลัวคนร้ายหลบหนี ผมสืบตลอดเขาจะออกวันไหน ผมก็ลางานไปหาสภอ.ปลายบาง ว่าเขาออกพรุ่งนี้เช้าเอาไงดี ถ้าจะจับไปดักที่ค่ายทหารเลยนะ แต่บอกว่าไม่มีสิทธิ์จับเพราะคนส่งตัวคือสน.รัตนาธิเบศร์ จับไม่ได้อีก ผมก็ไปบอกว่าคนร้ายจะออกพรุ่งนี้ มีกำลังตำรวจที่ไปขอตัวจากทางค่ายทหารได้มั้ย เพื่อเอามาดำเนินคดีกับผมต่อ เขาก็บอกว่าปลายบางทำคดีอยู่ไม่ใช่เหรอ

ผมก็เลยบอกว่าทหารบอกว่าปลายบางทำไม่ได้เพราะต้นเรื่องเป็นรัตนาธิเบศว์ส่งไป ผมก็โอเค ก็ถามว่าช่วยหน่อยได้มั้ยครับ มีตำรวจมาถามผมว่าทำไมประชาชนต้องวิ่งเองขนาดนี้ ผมก็บอกว่าผมทำเท่าที่ประชาชนคนนึงทำได้ ผมทำได้เท่านี้จริงๆ มีตำรวจคนนึงเป็นผู้กอง เสียดายไม่ได้อัดเสียงไว้ พูดกับผมว่าจะให้ไป มีเงินค่าน้ำมันให้ตำรวจหรือเปล่า ผมอึ้งก็เดินหนีเลย เพราะมันไม่ใช่แล้ว ถ้าผมพูดผิด จับผมติดคุกเลย”

หลังจากนั้นคุณเอาตำรวจไปนั่งไล่แต่ละร้านเลย?
ธวัชชัย : “ใช่ครับ ทุกครั้งผมก็ต้องลางาน ขับรถพาตำรวจไปร้านค้าที่คนร้ายเอาไปรูด เราก็อยากเอาคนร้ายติดคุก ไปด้วยกันทุกครั้ง จนเจอสลิป เจอทั้งหมด 9 ใบ ซึ่งวันที่เอาไปวางสภ.ปลายบาง ตร.คนนั้นไม่ได้เข้าเวร ผมก็เอาไว้บนโต๊ะ ผมก็กลับบ้าน ทีนี้เขาบอกว่าจะส่งตรวจสอบลายเซ็นให้ พอหลังจากนั้นเขาเกี่ยงกันไปรับตัวผู้ต้องหาที่ค่ายทหาร ออกมาเสร็จปุ๊บ ไม่มีใครจับเขาได้สักคน ทหารปล่อยตัวเช้า ไม่มีตร.คนไหนไปทัน

ทางญาติผู้ต้องสงสัยก็มีการโทรมาที่สภ.ปลายบาง บอกว่าวันที่ 5 พ.ค. 60 เขาจะมามอบตัวเอง ผมก็สงสัยว่าเขามีสิทธิ์ต่อรองได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ตร.ก็บอกว่าเขาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ก็ไม่ติดใจ รอวันที่ 5 ก็ได้ พอมาถึงปุ๊บก็เอาเอสี่ให้คัดลอกลายมือเขียนประมาณ 5 แผ่นเพื่อเปรียบเทียบกับสลิปที่เขาเอาไปรูด เพื่อส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขาบอกว่าเอาตัวไปฝากขัง ส่งศาล ผมก็โอเค มีการประกันตัวออกไป

ผมก็ตามเอกสารต่อ พอผ่านไปๆ ผมพยายามโทรหาอัยการเจ้าของคดี โทรคุยกับเขา เขาบอกว่าทำไมสลิปมี 9 ใบ ทำไมส่งตรวจแค่ 4 ใบล่ะ ผมก็งง เพราะผมส่งไป 9 ใบ ไม่รู้หายไปไหน 5 ใบ มันเป็นตัวจริง ซึ่งไม่มีทางทำสำเนาออกมาได้ ผมก็ถามว่าผู้กองเก็บไว้ไหน เก็บดีหรือเปล่า เขาบอกว่าเขาค้นจนทั่วแล้วหาไม่เจอ”

คุณมั่นใจหรือเปล่าเอาไปให้ 9 ใบ?
ธวัชชัย : “โห คดีนี้ถ้าจบ ผมอาจจะติดบั้งตำรวจไปแล้วก็ได้ เพื่อนแซวทุกคนว่าจบคดีนี้ก็เป็นตำรวจดีกว่า”

เห็นบอกว่ามีเรื่องตลกเรื่องนึง คือเรื่องสลิป?
ธวัชชัย : “คนร้ายเอาไปปลอมลายเซ็น ชื่อเซ็นเป็นชื่อผม แต่ใส่นามสกุลตัวเอง แล้วมาขีดฆ่าทิ้ง”

แต่ร้านก็ปล่อย?
ธวัชชัย : “ร้านก็ปล่อย ในห้างเซ็นทรัลรัตนาฯ ที่ไปซื้อนาฬิกา”

ทุกวันนี้คนร้ายก็ลอยนวล?
ธวัชชัย : “ลอยนวลปกติครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยความที่ช่วงเวลาเขาออกจากบำบัดยาเสพติด ทางอัยการจ.นนท์ กับทางผู้กอง เขาขอหลักฐานเพิ่มไปเพิ่มมา จนผ่านไปปีครึ่ง หลักฐานไม่ครบ สั่งฟ้องไม่ได้ มันนานเกินไป”

นี่คือที่มาที่ไป โจรขึ้นบ้านครั้งที่ 4?
ธวัชชัย : “เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา กลับบ้านมาผ้าม่านปิดอีกแล้ว เราก็เอาแล้ว ไม่ดีแล้วล่ะ ใจเต้น เปิดประตูบ้าน รอบนี้เข้าทุกห้องนอน งัดทุกวงกบ พังทุกห้องนอน เหล็กดัดงอหมด เอานาฬิกาข้อมือ 5 เรือน ตุ้มหูเพชร 1 คู่ ส่วนบัตรพอถูกเอาไปรูดปุ๊บ ผมไล่อายัดให้หมดเลยที่ไม่ได้อยู่กับผม”

อะไรทำให้คิดว่าเป็นคนเก่า?
ธวัชชัย : “ลักษณะการเข้าบ้าน เข้าตอนกลางวัน ในขณะที่ผมไปทำงาน รู้เวลาเข้าออกผมตลอด วิธีการคือปิดผ้าม่าน เหมือนเดิมตลอด โจรอื่นอาจปิดผ้าม่านก็ได้ แต่ด้วยเวลาที่ผมไปทำงาน ถ้าไม่ใช่คนที่เคยขึ้นแล้วก็อาจจะไม่รู้ว่าผมไปเวลาไหน รอบนี้อุปกรณ์พร้อมกว่าเดิม งัดทุกห้องหมด คราวนี้ทะลุได้หมดทุกห้อง”

ปรักปรำหรือเปล่า?
ธวัชชัย : “ก็ต้องดูที่หลักฐาน ตอนนี้ได้เอาดีเอ็นเอไปตรวจอยู่ หวังพึ่งตร.สภอ.ปลายบาง เอาตัวคนร้ายมาเทียบดีเอ็นเอ ถ้าใช่ก็เข้าล็อกทั้งของเก่าและของใหม่ พอมีข่าวได้รับการชวยเหลือจากท่านผู้กำกับวัชรินทร์ ท่านมาดูที่เกิดเหตุวันนี้เลย ท่านก็รับปากว่าจะรีบเคลียร์คดี เร่งปิดคดีให้เร็วที่สุด เมื่อเช้าประมาณ 7 โมงไปที่บ้าน ก็รับปากว่าไม่เกินสัปดาห์จะเร่งจับตัวคนร้าย ผมก็อยากรู้ว่าระหว่างอัยการกับตำรวจติดขับตรงไหน ทำไมถึงเป็นปีครึ่ง ผมไปกลับๆ จริงๆ มันก็น่าจะเร็วกว่านี้ไม่งั้นคดีสั่งฟ้องไปนานแล้ว”

รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ?
ธวัชชัย : “ท้อครับ หลักฐานขนาดนี้ยังเอาผิดคนร้ายไม่ได้”

สุดท้ายอยากบอกอะไร?
ธวัชชัย : “ขอความช่วยเหลือจากตร. อยากให้ช่วยปิดคดี แล้วก็ฝากถึงอัยการจ.นนท์ด้วยว่า เร่งปิดคดีให้เร็วที่สุด เพราะหลักฐานที่มีน่าจะเพียงพอเอาเข้าคุกแล้ว ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ผมร้อนเพราะครั้งนี้ครั้งที่ 4 ถ้าไม่ใช่ครั้งที่ 4 ผมจะไม่ร้อนขนาดนี้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน