เมื่อเวลา 16.30 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ น้ำตาล ชลิตา ส่วนสเน่ห์ มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2016 เดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 621 จากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าลึกที่สุดในรอบ 28 ปีหลังจากปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลคนที่ 2 ให้ประเทศไทย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่น้องน้ำตาลเดินออกมาทางประตูทางออก มีเสียงเรียกน้ำตาลตลอดทาง โดยน้ำตาล ชลิตา ยกมือไหว้และโบกมือให้กับทุกคนที่มาต้อนรับและให้กำลังใจท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น


โดย น้ำตาล ชลิตา ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งแรกที่อยากทำเป็นสิ่งแรก คือ กินส้มตำ พร้อมหัวเราะ จากนั้น ได้เปิดใจว่า ภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่นี้เป็นอย่างยิ่งที่เกิดมาเป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ขอบคุณแรงโหวตแรงเชียร์จากพี่น้องชาวไทยทุกคนทุกวงการที่ส่งกำลังใจมาตลอด เป็นความซาบซึ้งใจที่สุดในชีวิตและไม่เคยคิดว่าจะได้รับกำลังใจและความเอ็นดูมากขนาดนี้ แผนงานต่อไปของน้ำตาลคือการไปเรียนต่อที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ต่อไป
“น้ำตาล” กล่าวว่า ถือประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมประกวดตั้งแต่วันแรก ก็ได้รับการต้อนรับที่ดี โดยประชาชนชาวฟิลิปปินส์ ให้ความสนใจในนางงามมาก โดยช่วงที่ตื่นเต้นที่สุด คือ ตอนเข้ารอบ 13 คน เพราะตัวเก็งยังไม่เข้ากันเยอะในชั่วโมงนั้น นึกในใจอย่างเดียวว่า ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ ส่วนที่ไปไม่ถึงรอบสุดท้าย ก็แอบเสียดายที่ไม่ได้มงกุฏกลับบ้านเรา แต่ก็ทำเต็มที่ในทุกๆ วันแล้ว

ครอบครัวส่วนสเน่ห์

น้ำตาล ชลิตา กล่าวต่อไปว่า เพิ่งรับทราบว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทย ซาบซึ้งในพระกรุณาอย่างสูงสุดในชีวิต เพราะไม่คิดมาก่อนว่าพระองค์ท่านจะให้ความสนใจและเชียร์ ทั้งขอขอบพระคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้ใหญ่อีกหลายๆ ท่านที่ชื่นชมในตัวน้ำตาล รวมถึงคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจตลอดการไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016

 

เมื่อถามถึง การตอบบนเวที น้ำตาล กล่าวว่า สำหรับความรู้สึกตอนที่ตอบคำถามบนเวทีนั้น เมื่อได้ยินคำถาม ในใจนึกถึงแค่พระองค์ นึกได้ ณ ตอนนั้น ไม่ใช่แค่เพียงตอนตอบคำถาม แต่ทุกกิจกรรมตลอดการประกวด น้ำตาลจะนึกถึงพระองค์เสมอ และไหว้ท่านก่อน ทุกครั้ง ถือว่าพระองค์เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นกำลังใจในการทำกิจกรรมทุกอย่าง

 

เมื่อถามถึงความตั้งใจต่อจากนี้ น้ำตาล กล่าวว่า หลังจากนี้ก็อยากจะเรียนให้จบ ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนอนาคตการทำงานในวงการบันเทิงนั้น ยังไม่แน่นอน หากมีโอกาสก็ขอทำทุกอย่าง เพราะอยากจะช่วยเหลือครอบครัวไปพร้อมๆ กับการทำงาน

 

เมื่อถามว่า พอทราบกระแสที่เมืองไทย หรือ ในโซเชียลหรือไม่ น้ำตาล กล่าวว่า ก็ได้ดูในเฟซบุ๊กบ้าง และก็ดีใจที่มีคนเรียกชื่อเรา ซึ่งขอบคุณแฟนๆ ที่ช่วยโหวตให้ผ่านระบบต่างๆ


เมื่อถามถึงว่า ได้บนไว้ที่ไหนบ้างหรือไม่ น้ำตาล กล่าวว่า จะต้องไปแก้บน น่าจะหลายที่ ไม่รู้แม่บนไว้ที่ไหนบ้าง แต่ส่วนที่น้ำตาล บนไว้ คือ ที่ศาลพระพรหม ว่า ถ้าได้มงกุฏจะรำ 99 คน แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้มงกุฏก็จะไปรำ 9 คน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะให้สัมภาษณ์ น้ำตาล กล่าวขอบคุณทุกคนพร้อมน้ำตาคลอและเสียงสั่นว่า ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนที่ได้ร่วมเชียร์ และโหวตให้น้ำตาล ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีคนเชียร์เรา รักเรามากขนาดนี้ ยอมรับว่าตอนได้ตำแหน่งที่ประเทศไทย รู้สึกกดดันมาก มีกระแสโจมตีมาก แต่กระแสทั้งด้านดีและด้านลบก็เหมือนเป็นแรงผลักดันให้น้ำตาลเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กกะโปโลคนหนึ่ง ที่ไม่เคยทำอะไรในวงการบันเทิงมาก่อน ฝึกฝนตนเองจนมีวันนี้ ทุกวันนี้ถือว่าทำเต็มที่แล้ว ไม่ว่าผลออกมาอย่างไรก็ไม่เสียใจ แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง ที่ไม่สามารถคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนที่ 3 มาฝากคนไทยได้ และรู้สึกดีใจที่มีคนพูดว่า เราเป็นแรงบันดาลใจของการสู้ชีวิต สำหรับคนที่ท้อถอยหมดกำลังใจก็อยากให้สู้ต่อไป อยากให้เห็นคุณค่าของตัวเอง มุ่งมั่นอดทน น้ำตาลเชื่อว่าหากเราพยายามทำทุกอย่างให้ดี จะต้องได้รับสิ่งดีๆ กลับมาเสมอ

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน