ต้อนรับกลับอย่างอบอุ่น แฟนคลับล้นสนามบิน น้ำตาล ชลิตา มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ถึงไทยแล้ว หลังสร้างผลงานปลาบปลื้มแก่ชาวไทยทั้งประเทศ ด้วยการเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปีที่ได้เข้ารอบลึกที่สุด พร้อมเปิดใจขอบคุณทุกกำลังใจจากคนไทย ปีติทูลกระหม่อมหญิงฯ ทรงชื่นชม เผยอาหารที่อยากกินที่สุดหลังกลับเมืองไทยคือส้มตำ หลังจากนี้จะเรียนต่อให้สำเร็จการศึกษาและปฏิบัติหน้าที่ของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อย่างเต็มที่

เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 31 ม.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ น้องน้ำตาล น.ส.ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 เดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 621 จากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าลึกที่สุดในรอบ 28 ปีหลังจากปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลคนที่ 2 ให้ประเทศไทย โดยมี บิดา นายสรนันท์ ส่วนเสน่ห์ และมารดา นางชุติกาญจน์ ส่วนเสน่ห์ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.สมุทรปราการ นางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองผอ.การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 2) นายบุญเทียม โชควิวัฒน์ ผอ.สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมครูอาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม สมุทรปราการ เหล่าแฟนนางงาม มารอต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว โดยนางฉฎาณิศามอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีต่อน้ำตาล ชลิตา ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่น้องน้ำตาลเดินออกมาทางประตูทางออก มีเสียงเรียกน้ำตาลตลอดทาง โดยน้ำตาล ชลิตา ยกมือไหว้และโบกมือให้กับทุกคนที่มาต้อนรับและให้กำลังใจท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น

น้ำตาล ชลิตา ให้สัมภาษณ์ว่า ภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่นี้เป็นอย่างยิ่งที่เกิดมาเป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ขอบคุณแรงโหวตแรงเชียร์จากพี่น้องชาวไทยทุกคนทุกวงการที่ส่งกำลังใจมาตลอด เป็นความซาบซึ้งใจที่สุดในชีวิต ไม่เคยคิดว่าจะได้รับกำลังใจและความเอ็นดูมากขนาดนี้ แผนงานต่อไปของน้ำตาลคือการไปเรียนต่อที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ต่อไป

น้ำตาล ชลิตา กล่าวต่อไปว่า เพิ่งรับทราบว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทย ซาบซึ้งในพระกรุณาอย่างสูงสุดในชีวิต เพราะไม่คิดมาก่อนว่าพระองค์ท่านจะให้ความสนใจและเชียร์ ทั้งขอขอบพระคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้ใหญ่อีกหลายๆ ท่านที่ชื่นชมในตัวน้ำตาล รวมถึง คนไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจตลอดการไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016

น้ำตาล ชลิตา เผยว่า สิ่งแรกที่อยากทำเมื่อมาถึงเมืองไทย คืออยากกินส้มตำ ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยมีสื่อมวลชนมาขอถ่ายรูปที่สนามบินฟิลิปปินส์จำนวนมาก วันนี้กลับมาด้วยกระเป๋า 14 ใบ ส่งกลับมาก่อน 4 ใบ ประสบการณ์ตั้งแต่วันแรกที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส เราได้ไปหลายที่หลายจังหวัดของฟิลิปปินส์ ทุกคนน่ารักมาก คนฟิลิปปินส์จะคลั่งไคล้นางงามมาก เรียกชาลิ่ง ชาลิ่ง ชาลิตา ไทยแลนด์ ตลอดสองข้างทางเยอะมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้ทำหน้าที่สนุกทุกวัน

น้ำตาลเปิดเผยด้วยว่าช่วงที่ตื่นเต้นที่สุดคือช่วงประกาศเข้ารอบ 13 คน แอบลุ้นในใจและเราเป็นชื่อสุดท้าย

ต่อข้อถามถึงรอบตอบคำถามที่พูดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้ได้ใจคนไทยทั้งประเทศ น้ำตาลกล่าวว่า “ความรู้สึกตอนนั้นจากที่ได้ฟังคำถามถึงบุคคลของโลกที่เคารพในใจมีอยู่แค่คนเดียวที่เราคิด ณ ตอนนั้น พระองค์ท่านอยู่กับเราตลอด ทั้งช่วงทำกิจกรรมกับกองประกวด ก่อนขึ้นเวที เข้าสัมภาษณ์ ท่านจะเป็นคนแรกที่นึกถึง ท่านเป็นกำลังใจให้เราตอนที่เราอยู่ต่างบ้านต่างเมือง”

น้ำตาลเผยอีกว่า หลังจากนี้จะไปแก้บนที่ศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ด้วยการรำถวาย แต่ต้องดูเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง

สำหรับ น้ำตาล น.ส.ชลิตา มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 อายุ 22 ปี กำลังศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ตลอดเวลาเก็บตัวใน กองประกวด ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกที่ติดตามทำข่าว และได้รับความรักและชื่นชมอย่างยิ่งจาก ผู้ติดตามการประกวด รวมทั้งแฟนนางงามชาวฟิลิปปินส์ที่ส่งเสียงเชียร์นางงามจากประเทศไทยไม่แพ้นางงามประเทศตนเอง

ทั้งนี้ น้ำตาล น.ส.ชลิตา เป็นสาวงามคนแรกจากประเทศไทยในรอบ 28 ปีที่สามารถทะลุเข้าถึงรอบ ตอบคำถาม 6 คนสุดท้าย ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส โดยคำถามที่เธอได้รับคือใครคือผู้นำในระดับโลกในอดีตหรือปัจจุบันที่คุณชื่นชอบหรือเคารพ ซึ่งน้ำตาลตอบพร้อมน้ำตาคลอเบ้าว่า “บุคคลท่านนั้นคือในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะตั้งแต่เกิดมา เห็นพระองค์ท่านทรงงานหนักมาตลอด และไม่เคยบ่นแม้แต่น้อย และพระองค์ท่านก็เปรียบเสมือนพ่อของคนไทยทุกคน” คำตอบของน้ำตาลสร้างความประทับใจให้กับคนไทยทั้งประเทศที่กล่าวเชิดชูในหลวงรัชกาลที่ 9 บนเวทีโลกมิสยูนิเวิร์ส

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีหากน้องน้ำตาล น.ส.ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ขอมาเข้าพบเพื่อขอบคุณที่ให้กำลังใจและสนับสนุนว่า ถ้าจะมาก็มาไม่ว่าอะไร แต่ขอให้มาวันอังคารก็แล้วกัน ก่อนการประชุม ครม.

นายเฉลิมชัย อาจณรงค์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม จ.สมุทรปราการ อาจารย์ที่ปรึกษา ขณะน้ำตาล ชลิตา ศึกษาชั้นมัธยมปลายปีที่ 6/1 ที่ ซึ่งนำคณะนักเรียน 30 คนมาร่วมต้อนรับ กล่าวด้วยน้ำเสียงภูมิใจในตัวลูกศิษย์ว่า ตอนสมัยที่น้ำตาลเรียนอยู่ไม่เคยสร้างความหนักใจให้ครูผู้สอน น้ำตาลเป็นเด็กนักเรียนแผนกวิทยาศาสตร์ มีความตั้งใจเรียนและเรียนเก่ง ผลการเรียนอยู่ในระดับดีมากอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเป็นเด็กที่มีอัธยาศัยดี ร่าเริง สนุกสนาน และสนใจร่วมกิจกรรมของโรงเรียนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมด้านวิชาการ หรือกิจกรรมสันทนาการ เช่น ดรัมเมเยอร์ การแสดงละครวิชาการ แต่เรื่องการประกวดในเวทีนางงามนี้ไม่เคยเห็นว่าเขาสนใจมาก่อน จนเมื่อเจ้าตัวกลับมาขอหลักฐานเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อนำไปสมัครประกวดจึงได้ทราบและติดตามเรื่อยมาจนถึงวันตัดสินรอบชิงชนะเลิศที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนเปิดจอโปรเจ็กเตอร์ให้น้องๆ ที่โรงเรียนร่วมส่งกำลังใจเชียร์รุ่นพี่กันอย่างตื่นเต้น

“เด็กเก่งบางคนจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง ขณะที่น้ำตาลถึงจะเรียนเก่งแต่ก็เป็นเด็กน่ารัก เคารพครู รู้จักครู รู้จักความเป็นเด็ก ไม่ก้าวร้าว นอกจากนี้ยังมีความกตัญญู แม้ว่าจะเรียนจบออกไปแล้ว เมื่อโรงเรียนมีกิจกรรม เขาและเพื่อนๆ ก็มักจะกลับมาร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนเสมอ เช่น วันไหว้ครู และถึงแม้ว่าวันนี้น้ำตาลจะไม่ได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์สมาครอง แต่ครูและน้องๆ ภูมิใจมากที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน อีกทั้งยังถือว่าเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ รุ่นหลัง” อาจารย์ที่ปรึกษากล่าวด้วยความภูมิใจ

นางชิชญาสุ์ กรรณสูต ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เล่าว่า แฟนคลับที่ฟิลิปปินส์เยอะมากตั้งแต่เดินทางไปถึงสนามบิน แฟนคลับหนักหนาสาหัสมาก คลั่งไคล้ เห็นพาสปอร์ตว่ามาจากไทยแลนด์ ก็จะเรียกว่ามิสไทยแลนด์ดังลั่นสนามบิน ทุกคนจำชื่อชลิตา ส่วนเสน่ห์ ได้ตั้งแต่เจ้าหน้าที่สนามบิน ทุกคนไม่ใช่จำแค่ว่ามาจากประเทศไทย แต่จำชื่อน้องได้ ทั้งที่บนเวทีจะไม่มีการขานชื่อ ขนาดคุณแม่เอง ตอนยื่น พาสปอร์ตที่กองตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ยังทักว่าเป็นอะไรกับน้ำตาล เป็นคุณแม่ใช่มั้ย

ต่อข้อถามว่าที่ประเทศฟิลิปปินส์ชื่นชอบน้ำตาลตรงไหน นางชิชญาสุ์ เล่าว่า ไม่เฉพาะแต่แฟนคลับที่ฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่ไดเร็กเตอร์ต่างๆ เองก็ชื่นชอบน้องเช่นกัน เขาบอกว่าน้องเป็นคนที่จับต้องได้ สัมผัสได้ถึงความจริงใจ น่ารัก ไม่เสแสร้งแกล้งทำ เข้าถึงง่าย ทุกครั้งที่เห็นน้ำตาลจะเห็นรอยยิ้ม ไม่มีความเครียด ที่ไปเก็บตัวเหมือนเขาไม่ได้ไปเพื่อการแข่งขัน แต่น้ำตาลไปเพื่อสร้างสัมพันธภาพ สร้างมิตรภาพ เพื่อให้เพื่อนๆ รักประเทศไทย จึงเป็นข้อดีที่พูดถึงไทยแลนด์แล้วทุกคนโอเค

“ตอนประกาศรอบ 13 คน ทุกคนลุ้นมาก ภายในฮอลล์เงียบมาก จังหวะที่พิธีกรจะประกาศ แฟนๆ ตะโกนเรียกไทยแลนด์ ไทยแลนด์ และพอเป็นประเทศไทยจริงๆ เสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอลล์มากๆ ยิ่งเป็นคะแนนโหวตที่เขาบอกว่ามาจากทั่วโลก 130 ล้านคะแนน ถึงจะไม่รู้ว่าน้ำตาลได้เท่าไหร่ แต่น้ำตาลได้คะแนนจากตรงนั้นมาก็ปลื้มมาก นั่นหมายความว่าคนเชียร์น้องเยอะมากๆ โดยเฉพาะพี่น้องชาวไทย เหมือนเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ได้เห็นความร่วมมือร่วมใจที่อยากให้น้องได้เข้ารอบ ทำให้รู้สึกว่านี่คือเรื่องราวดีๆ ที่หลังจากทุกคนผ่านความเสียใจมา นับว่าเป็นเรื่องราวที่ทำให้ทุกคนมีความสุขอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราไม่คิดมาก่อนเลยว่านางงามของเราจะสร้างความรักความสามัคคีได้ทั้งประเทศขนาดนี้” ผู้จัดการกองประกวดกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน