ชาวไทยทรงดำ 400 คน จาก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เผยเหมารถบัสเดินทางมารวม 7 คัน สุดซาบซึ้งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพัฒนาพื้นที่ที่อาศัยอยู่จากที่น้ำท่วมทุกปี พระราชทานแนวทางแก้ปัญหาจนหมู่บ้าน ไม่เกิดน้ำท่วมอีกเลย อธิบดีกรมศิลป์เผย คืบหน้าสร้างราชรถรางปืน อยู่ระหว่างหารือรูปแบบกับกรมสรรพาวุธทหารบก ส่วนโรงขยายแบบและศูนย์ควบคุมการก่อสร้างดำเนินการแล้วเสร็จ รอเคลื่อนย้ายอุปกรณ์เข้าดำเนินงานต่อไป สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ 93 วัน รวมมากกว่า 4 ล้านคน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลทั้งสิ้น 339 ล้านบาท

วันที่ 4 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 94 ที่พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนกลุ่มแรกเข้าพระบรมมหาราชวังเวลา 04.45 น. โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเดินทางมาต่อคิว เพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย

ทั้งนี้ การพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท วันที่ 4 ก.พ. นี้ นับเป็นวันที่ 14 หลังเสร็จสิ้นพิธีหลวง หรือพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล สตมวาร (100 วัน) ถวายพระบรมศพ การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวด พระอภิธรรมพระบรมศพ โดยแบ่งออกเป็น 4 รอบ เวลา 10.00 น., 14.30 น., 17.00 น. และเวลา 19.00 น. รอบละ 11 คณะ คณะละ 50 คน หมุนเวียนจนกว่าจะครบจำนวน เจ้าภาพตามที่แสดงความจำนง

หวันเดียวกัน สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระ บรมศพ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. หลังสำนักพระราชวังปิด ไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 21.10 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 35,075 คน รวม 93 วัน มีจำนวน 4,028,374 คน และมีประชาชน ถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,883,720 บาท รวม 93 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 339,683,797.34 บาท

เวลา 10.00 น. นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เป็นประธานบำเพ็ญกุศลและถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 10 รูป จากวัดใหญ่สว่างอารมณ์ จ.นนทบุรี วัดป่าโมก วัดพิจารณ์โสภณ วัดโบสถ์สายทอง วัดศรีมหาโพธิ์ วัดพานิช จ.อ่างทอง วัดหนองลาน จ.กาญจนบุรี วัดเกาะแก้วเกษฎาราม วัดบ้านแพน จ.พระนครศรี อยุธยา ที่สวดพระพุทธมนต์ ในการนี้พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์รับถวายภัตตาหารเพล โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มหาวิทยาลัยคริสเตียน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ราชวิทยาลัยประสาทศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร คณะเศรษฐศาสตร์ มหา วิทยาลัยหอการค้าไทย วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ร่วมเป็นเจ้าภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เต็นท์อาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าประตูศรีสุนทร ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นประตูทางออกของพสกนิกรหลังกราบสักการะพระบรมศพ การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน โดยวันนี้แบ่งเป็นมื้อเช้าเวลา 07.00 น. บะหมี่แห้งหมูแดง 1,500 กล่อง, นมหนองโพ 2,000 กล่อง มื้อกลางวัน 11.00 น. ข้าวผัดเผ็ดหมูป่า 1,500 ชุด ข้าวผัดเผ็ดไก่ 1,500 ชุด มื้อบ่าย 16.00 น. ขนมไทย 1,000 กล่อง เฉาก๊วย 1,000 ถุง มื้อเย็น 18.00 น. ข้าวราดกะเพราปลาหมึก 3,000 กล่อง และมีน้ำสมุนไพร 700 ลิตร พร้อมน้ำดื่มให้บริการตลอดทั้งวัน

ต่อมาเวลา 14.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป จากวัดใหญ่สว่างอารมณ์ จ.นนทบุรี วัดพิจารณ์โสภณ วัดโบสถ์สายทอง วัดศรีมหาโพธิ์ วัดพานิช จ.อ่างทอง วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี วัดหนองลาน จ.กาญจนบุรี วัดเกาะแก้วเกษฎาราม วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา สวดมาติกาและสดับปกรณ์บำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบรมศพ ทั้งนี้ ศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยมสาธิตรามคำแหง รุ่นที่ 4 มูลนิธิสว่างกวนอิมธรรมสถาน ครอบครัวบดินทรเดชา รุ่น 9 สำนักนโยบายและแผนกลาโหม สมาคมการค้าเครื่องเสียงและภาพ (ไทย) ศาลจังหวัดตลิ่งชัน นารถ สรรพสิริ และพรสุดา วงศ์คำ และคณะ กลุ่มบริษัทกุลธร โรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 และเด่นหล้า บริติช สคูล แบงค็อก นักเรียนเก่าโรงเรียนศึกษานารี รุ่นที่ 69 และวิทยาลัยเทคโนโลยีไออาร์พีซี ร่วมเป็นเจ้าภาพ โดยมีนายไกรสิทธิ์ บุญญภัทโร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชัน เป็นประธานในพิธี

วันเดียวกัน นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินการของกรมศิลปากร ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นระยะๆ และเป็นไปตามที่ได้จัดทำแผนงานไว้ โดยในส่วนการสร้างราชรถรางปืน กรมศิลปากรอยู่ระหว่างหารือการจัดทำรูปแบบกับกรมสรรพาวุธทหารบก เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ส่วนโรงขยายแบบและศูนย์ควบคุมการก่อสร้างนั้น ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์มาดำเนินงานต่อไป

นางอุทัย ทองสมนึก อายุ 66 ปี ชาวไทยทรงดำจาก จ.เพชรบุรี กล่าวว่า ชาวไทยทรงดำเดินทางมาจากบ้านเขากระเจียว ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง โดยเหมารถบัสมา 7 คันรถ มีประมาณ 300-400 คน มาถึงสนามหลวงเวลา 11.00 น. และได้เข้าถวายสักการะเวลาประมาณ 13.00 น. ทุกคนมีความตั้งใจจะถวายสักการะพระบรมศพ เพราะสิ่งที่พ่อหลวงทรงทำให้ประชาชนมีมากมาย อย่างหมู่บ้านที่ตนอาศัยอยู่ เกิดน้ำท่วมทุกปี แต่ เมื่อพ่อหลวงเสด็จฯ มา ก็ทรงพัฒนาพื้นที่ ขยายคูคลอง ทำให้มีเส้นทางน้ำที่กว้างขวาง ส่งเสริมให้ชาวบ้านร่วมกันปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันการพังทลายของดินด้วย จากนั้นที่หมู่บ้านก็ไม่เกิดน้ำท่วมอีกเลย อีกทั้ง ยังพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรม ทรงให้แนวคิด ทำไร่นาสวนผสมช่วยลดความเสี่ยงจาก ภัยธรรมชาติและความไม่แน่นอนของราคาผลผลิต เพราะมีไม้ผลหลากหลายชนิด ทำให้ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน