ตร.ระดมค้นซ้ำบึงน้ำใต้ทางต่างระดับฉิมพลีเป็นวันที่สอง หลังพยาน 3 ปากให้การมาตกปลาแล้วได้กลิ่นคล้ายซากศพ อีกทั้งยังเป็นจุดใกล้เคียงกับที่พบมือถือเซลส์แมนหนุ่ม ลุยลงน้ำ ปูพรมเกือบชั่วโมงพบชิ้นส่วนกระดูก ยังไม่ยันเป็นของคนหรือสัตว์ ส่งพิสูจน์ดีเอ็นเอ ขณะที่พ่อเซลส์แมนยันรองเท้าไม่น่าใช่ของลูกชาย เพราะเป็นคนเนี้ยบจะไม่ใส่รองเท้าเหยียบส้น เชื่อลูกยังมีชีวิตอยู่ แต่ต้องเก็บตัวจนกว่าจะพ้นเคราะห์ตามที่หมอดูบอก เชื่อลูกชายหายตัวเป็นเพราะสาวคนสนิท ด้านเมียเซลส์แมนโร่ให้ปากคำ “ผบช.น.”ระบุสอบเมียยังไม่พบพิรุธ

จากกรณีนายรัติภูมิ พิมใจใส หรือเบิร์ด อายุ 34 ปี เซลส์ขายรถยนต์ย่านเกษตร- นวมินทร์ หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.59 ซึ่งตำรวจได้ลงตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือพบว่าหายไปบริเวณใต้ต่างระดับฉิมพลี หรือสวนสาธารณะร่มเกล้าชาวทาง ถนนบรมราชชนนีฝั่งขาเข้า แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบเป็นบึงน้ำ และพบรองเท้าหนังสีดำ ข้างขาว ยี่ห้อ DesGn เบอร์ 43 ที่คาดว่าเป็นรองเท้าของนายรัติภูมิ ก่อนให้ชุดประดาน้ำลงงมหาหลักฐานในบึง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว เจอรองเท้าสงสัยของเซลส์แมน! งมหาใต้บึงน้ำยังไม่พบ-ไม่รู้ชะตากรรม

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่บริเวณใต้ต่างระดับฉิมพลี พล.ต.ต. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส. พร้อมด้วยพ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ ผกก.สน.ธรรมศาลา พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุทธิพล แสงบุญ สว.สส.บก.น.7 พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวน ลงพื้นที่ค้นหาร่องรอยของนายรัติภูมิ อีกครั้ง

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่เข้าปูพรมที่บริเวณนี้อีกครั้ง เนื่องจากพยาน 3 ปากให้การว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.59 ขณะที่มาตกปลาบริเวณดังกล่าวได้กลิ่นเหม็นเหมือนซากศพ จนต้องหนีไปหาแหล่งตกปลาที่อื่น ประกอบกับจุดดังกล่าวตามที่พยานให้การอยู่ไม่ห่างกับจุดที่พบโทรศัพท์มือถือของนายรัติภูมิ และน่าเชื่อว่าจะเป็นจุดที่นายรัติภูมิหายตัวไป โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นหนองน้ำและสวนหย่อม มีพื้นที่กว้างอีกทั้งเป็นหนองน้ำที่มีจอกแหนปกคลุมอยู่ทั่ว มีความลึกกว่า 2 เมตร จำนวนหลายบ่อ มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ระดมนักประดาน้ำลงงมค้นหาโดยลักษณะเดินเรียงแถวเป็นหน้ากระดานนานกว่า 50 นาที ก็พบชิ้นส่วนกระดูกจำนวนหนึ่ง บริเวณใกล้กับต้นโพธิ์ ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นชิ้นส่วนของกระดูกคนหรือสัตว์ จึงเก็บรวบรวมส่งชันสูตร

พ.ต.อ.นพศิลป์เปิดเผยว่า จากการค้นหาร่างนายรัติภูมิมา 2 วัน พบรองเท้าและกระดูกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งไปที่สถาบัน นิติเวชร.พ.ตำรวจ เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอว่าเกี่ยวข้องกับนายรัติภูมิหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปูพรมค้นหาร่องรอย สิ่งของ หรือเบาะแสที่จะสามารถเชื่อมโยงไปหานายรัติภูมิ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะยุติการค้นหาไว้ และในช่วงเย็น ทีมสืบสวนจะประชุมความคืบหน้าอีกครั้ง

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นายละเอียด พิมใจไส อายุ 65 ปี พ่อของนาย รัติภูมิได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อเก็บดีเอ็นเอ พร้อมเปิดเผยว่า สำหรับรองเท้าที่พบนั้นตนคาดว่าไม่น่าจะใช่ของลูกชาย เพราะลูกชายไม่ใส่รองเท้าแบบนี้ ลูกชายเป็นคนที่เนี้ยบจะไม่ใส่รองเท้าแบบเหยียบส้นแน่ ส่วนเรื่องยาเสพติดยอมรับว่าลูกชายเคยเสพยาแต่ก็เลิกแล้ว หลังจากที่มาเป็นเซลส์แมน

“ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่พบยอมรับว่าเป็นของลูกชาย แต่ลูกชายเป็นคนหวงของไม่น่าจะทิ้งไว้แบบนี้แน่ และคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว ซึ่งอาจเป็นเพราะสาวคนสนิทที่ลูกชายไปติดพันก็เป็นได้ เนื่องจากสาวคนดังกล่าวมีสามีแล้ว และเป็นคนมีสีด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าลูกชายยังไม่เสียชีวิตอย่างแน่นอน เพราะไปดูหมอมาและจำเป็นต้องเก็บตัวจนกว่าจะพ้นเคราะห์ โดยได้โทรศัพท์คุยกับลูกชายครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.59 แต่คุยได้ไม่นานเพราะตนอยู่บนรถ กระทั่งมาหายตัวไปดังกล่าว” นายละเอียดกล่าว

หลังจากนั้น เมื่อเวลา 16.15 น. ที่สน.ธรรมศาลา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. และพล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้า พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า หลังจากที่ได้สั่งการไป วันนี้มาประชุมสรุปว่าสิ่งที่ได้ทำไปมีอะไรบ้างและจะต้องดำเนินการอะไรต่อไป เบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องพยายามหาตัวนายรัติภูมิให้พบไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานไปแล้วเกือบ ทุกคน เหลือเพียงนางนันทิยา หรือกิ๊ก สุวรรณวาสี ภรรยาของนายรัติภูมิ

ต่อมาเมื่อเวลา 16.40 น. นางนันทิยา สุวรรณวาสี ได้เดินทางมาเพื่อเข้าให้ปากคำที่ สน.ธรรมศาลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนางนันทิยาด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ทางด้านพล.ต.ท. ศานิตย์เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำภรรยานายรัติภูมิ ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ ไม่พบพิรุธใดๆ จึงได้มอบหมายงานให้ทีมทำงานไปทำกันอย่างเต็มที่ และเร่งคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน