ลูก-เมีย เชื่อ หลวงพ่อ ถูกฆาตกรรม ปมขัดแย้ง พระต้องสงสัยโดนจับสึก แต่ไม่โดนจับ!

จากกรณี “พระเด็จ คงกระพันธุ์” อายุ 56 ปี พระลูกวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หายตัวไปอย่างปริศนา ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากรับกิจนิมนต์ขึ้นไปนั่งสวดมนต์พิธีปักธง บนยอดเทือกเขาผาขี่ควาย ชาวบ้านระดมกำลังออกตามหาแล้ว แต่ไม่พบตัว

ล่าสุดรายการโหนกระแส วันที่ 16 ม.ค. โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์- ศุกร์ เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 เปิดใจสัมภาษณ์ “คุณบุญศรี ขำมี” ภรรยา “คุณแต้ว ช่อเพชร นวลวัน” ลูกสาวของหลวงตา มาพร้อม “ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์” ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม

ทนายรณณรงค์มาดูแลเรื่องนี้นานหรือยัง?
รณณรงค์ : “ก็ได้รับการติดต่อมา เมื่อสองสามวัน ว่ายังหาไม่เจอ เราก็เห็นข่าวนี้มาสักพักแล้วนะ จะเดือนนึงแล้วยังหาไม่เจออีกเหรอ เขาบอกว่าพ่อเขาหายไปพร้อมเด็กพม่าที่หายไป งั้นก็มาส่วนกลางดีกว่า จะได้หาเบาะแสได้ง่ายขึ้น จะขอให้ทางทหารช่วยหาด้วย เพราะพื้นที่อยู่ในป่า เดินหากันไม่ไหวหรอก แต่เขาเดินมาทั้งภูเขาแล้วเพื่อหาพ่อเขาที่พิษณุโลก”

เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?
ช่อเพชร : “พ่อหายไปตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. มารู้เรื่องวันที่ 19 ธ.ค. พระที่เขาบิณฑบาตตอนเช้ามากระซิบบอกว่าพระหายไปได้ 3 วันแล้วนะ พ่อบวชมา 11 เดือน แกกะจะบวชตลอดชีวิต บวชที่วัดบ้านพร้าว จ.พิษณุโลก”

ประเด็นเกิดอะไรขึ้น?
ช่อเพชร : “พระก็ขึ้นไปปักธง สวดมนต์ ทำพิธีตามความเชื่อของชาวบ้านที่เขาทำมาทุกปี เขาขึ้นไปกับพระรูปนึงแล้วเกิดพลัดหลงกัน จากคำบอกเล่า ไปกันสองรูป พระพ่อท่านเดินตามไม่ทัน พระรูปนั้นขึ้นไปถึงยอดเขา โดยมีช่างภาพที่บ้านคนหนึ่งเห็นว่าเขาขึ้นไปคนเดียว แต่ก็นั่งไม่ถึง 10 นาทีก็ลงมาข้างล่าง”

เขาที่ขึ้นไป มันสูงมั้ย?
ช่อเพชร : “ไม่สูงค่ะ ป่าก็ไม่ทึบด้วย คือจากทางข้างล่างจนยอดเขา มีทางไปถึงยอดเขา มีทางเดินให้เลย เป็นผาขี่ควาย ขึ้นไปปักธงข้างบนตามพิธีกรรมทางศาสนา”

สามวันใครมาบอก พระ ก. มาบอกหรือเปล่า?
ช่อเพชร : “ไม่ค่ะ พระที่บิณฑบาต มาบอกว่าหลวงพ่อหายไป 3 วันแล้วนะ ให้ลูกสาวไปดูหน่อย พอวันที่ 19 หนูก็ไปที่กุฏิท่าน กุฏิก็เปิดทิ้งไว้ทั้งประตูหน้าต่าง ไม่พบพระพ่อ”

เข้าไปดูในกุฏิมั้ย?
ช่อเพชร : “ขับรถวนตรงหน้าต่าง ยืดไปมองตะโกนเรียก แต่ไม่เจอ ไม่ได้ขึ้นบนกุฏิ กลับมาที่บ้านมาถามข่าวจากชาวบ้านว่าพระพ่อไปยังไง หายไปยังไง ก็ย้อนกลับไปที่วัดอีก ไปถามเณร เณรก็บอกว่าไม่รู้ ท่านไม่อยู่วัดมา 3 วันแล้ว ไม่รู้หายไปไหน จนมาได้ยินจากชาวบ้านที่เข้าไปหาข้อมูลก่อนหน้าเรา ว่าพระขึ้นไปกับพระ ก. พระ ก. เป็นคนบอกเองว่าขึ้นไปกับพระพ่อ 2 คน”

ถามพระ ก. มั้ย?
ช่อเพชร : “ถามค่ะ เขาบอกว่าขึ้นไปจริงสองคน แต่พอถึงกลางเขา พระพ่อเดินตามไม่ทัน เขาก็ขึ้นไปก่อน หลังจากนั้นก็หายไปเลย”

พระพ่อมีศัตรูมั้ย?
ช่อเพชร : “ที่อื่นไม่มี แต่จะมีกับพระ ก. นี่แหละค่ะ เขาทะเลาะกันตั้งแต่บวชใหม่ๆ ตอนแรกไม่มั่นใจ ว่าเขาไม่ชอบพ่อหรือยังไง หลังๆ เขาขอยืมเงินพ่อ ยืมไปรอบแรก 2 พันไม่คืน แล้วขอยืมอีก พระพ่อไม่ให้ เขาก็ไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่ครั้งนั้น พระลูกวัดบอกว่าเขาทะเลาะกันเป็นพระจำ แต่ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือ มีแค่รูปเดียวที่มีเรื่องกัน”

คุณลงพื้นที่หาเอง?
ช่อเพชร : “ค่ะ ขึ้นเขาทุกวัน กับชาวบ้าน พอเย็นก็ลงมา วันที่ 20 ก็ไปคุยกับผู้กอง ผู้กองก็บอกว่ามีเณรน้อยรูปหนึ่ง เห็นว่าตอนเช้าวันที่ 17 พระ ก. ไปยืมตังค์หลวงพ่อที่กุฏิ 200 แล้วหลวงพ่อเขาไม่ให้ เขาก็ทะเลาะกันเสียงดัง วันนั้นเขาอยู่กันสองรูป กับเณรน้อยอีกรูปหนึ่ง ทะเลาะกันแล้วจะจับมือขึ้นเขาไปด้วยกันได้ยังไง ก็สงสัยตรงนี้”

แม่สงสัยมั้ย?
บุญศรี : “สงสัยค่ะ คนทะเลาะกัน จะขึ้นไปด้วยกันเป็นไปไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องหลงป่า มั่นใจว่าไม่หลงแน่ เพราะป่าแถวนั้นต้นไม้ต้นไหนเขารู้หมด ขึ้นเขามาตั้งแต่ลูกคนนี้ยังเล็ก”

ช่อเพชร : “เขาทำมาหากินบนเขานั้นมา 10 กว่าปีแล้วค่ะ”

บุญศรี : “ไม่มีทางหลง เมื่อก่อนแม่ก็ขึ้นไปนอนอยู่บนเขากับพ่อนี่แหละ ตอนที่ยังไม่บวช”

คิดว่าอะไรเกิดขึ้น?
บุญศรี : “คิดว่าอาจเป็นฆาตกรรมมากกว่า เพราะกุฏิถูกรื้อค้น ต่อสู้กัน”

ตอนแรกลูกไม่ได้เข้าไป?
ช่อเพชร : “เราไม่ได้เข้าไป แต่เราเห็นจากข้างนอกค่ะ กุฏิมีการรื้อค้น กระจัดกระจายหมดเลยค่ะ สายมุ้งไม่ใช่เป็นการปลด เป็นสายขาด พอเล่าให้ชาวบ้านฟัง ก็มีผู้ใหญ่บ้านม.5 กับชาวบ้านอีก 5 คน เขาก็เข้าไปเห็นสภาพเหมือนเรา แต่วันที่ 21 ที่เราพาร้อยเวรเข้าไปดูสายมุ้งมันกางปกติอยู่เหมือนเดิม เหมือนมีคนมาทำลายหลักฐาน”

ไปดูเรื่องเจ้าเข้าทรงมาด้วย?
ช่อเพชร : “เนื่องจากเราหายังไงก็หาไม่เจอ เราเลยเอาจีวรพ่อไปให้เขาทำพิธีดู พอเขาเอาไปทำพิธี เขานั่งทางใน ร่างทรงเขาเห็นจีวรม้วนกลับมาหลังวัดทุกที เขาก็เลยบอกว่าลองไปหาดูหลังวัดหน่อยนะ ชาวบ้านก็ปูพรมไปดูหลังวัด ชาวบ้านคนนึงไปเขี่ยตรงกองขยะ เจอผ้าห่มสีเขียว เขาก็ดึงขึ้นมา แล้วจีวรพระก็ตก เหมือนเอาผ้าห่มห่อจีวรพระไปทิ้งตรงนั้น ซึ่งเป็นผืนที่พระพ่อเอาไปจากบ้าน”

บุญศรี : “ผ้าห่มผืนนั้นหลานเอาปูนอนอยู่ ตอนไปบวชกับหลวงตาก็เอาปูนอนอยู่ เอาไปจากบ้าน มั่นใจว่าผ้าห่มจีวรต้องเป็นของหลวงพ่อแน่นอน”

ช่อเพชร : “หลวงพ่อเคยใส่แล้วนั่งทับยางไม้ด้วยค่ะ ยืนยันว่าเป็นของหลวงพ่อ แต่ไม่เจอตัว ก็ปูพรมหา ที่สระน้ำ จุดเกิดเหตุหลังวัด”

คิดว่าหลวงพ่อมรณภาพแล้ว?
บุญศรี : “คิดว่าพันเปอร์เซ็นต์แล้ว ปกติอยู่ด้วยกันไม่เคยออกจากบ้านไปไหน ขึ้นรถยังขึ้นไม่เป็นเลย ทำใจแล้ว”

ช่อเพชร : “ทำใจตั้งแต่อาทิตย์แรก เขาไม่เคยออกจากบ้านไปไหน ญาติพี่น้องก็อยู่ที่บ้าน หายไปแค่วันเดียว ปักธงรอบแรกก็จะแวะไปบอกที่บ้าน ว่าจะขึ้นเขานะ เคยขึ้นไปปักธงมาก่อนไม่ใช่ครั้งแรก”

อย่างนี้จะทำยังไง?
รณณรงค์ : “ต้องให้กองปราบปรามจัดชุดสืบสวนเข้าไปหาเบาะแสเพิ่มเติม ให้เขาระดมปูพรมหาอีกรอบนึง อาจจะอยู่ไม่ไกลก็ได้ก็ต้องตามหากันต่อไป”

พระ ก. อยู่ไหนตอนนี้?
รณณรงค์ : “ถูกจับสึกแล้ว ตรวจเจอปัสสาวะม่วง”

ช่อเพชร : “ค้นเจออุปกรณ์การเสพทุกอย่าง ตอนนี้ไม่ได้ติดคุก”

ตำรวจจับมาสอบถามมั้ย?
บุญศรี : “ร้อยเวรไปถาม เขาก็บอกว่าผมไม่ได้ทำ ผมจะทำไปทำไม”

ถ้าเป็นไปตามที่เขาเล่า พระ ก. ต้องเห็นหลวงพ่อเป็นคนสุดท้าย?
บุญศรี : “ใช่วันที่ 19 มีพระสองรูปกลับเข้ามา พระ ก. กำลังขับรถออกจากรถ สวนกันประตูหน้าวัด ก็ถามว่าจะไปไหน พระ ก. ก็บอกว่าไปลากศพพระเด็จ เป็นรถกระบะ ไปลากศพพระเด็จ พระเด็จตายอยู่บนเขา พระสองรูปนี้พูด”

ช่อเพชร : “พระสองรูปไปสอบปากคำก็บอกว่าได้ยินจริง แต่พระ ก. ก็ยังไม่รับ”

บุญศรี : “ร้อยเวรสอบปากคำเขาบอกว่าเขาไม่ได้พูด เอามาเหมือนนั่งประชุมกัน พระสองรูปบอกว่าพูดจริง แต่เป็นการพูดเล่น”

ช่อเพชร : “ส่วนเณรน้อย หลังจากวันนั้นก็กลับคำว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย”

ในมุมทนายต้องทำยังไงถึงจะเค้นเขาได้?
รณณรงค์ : “เค้นอะไรเขาไม่ได้ แต่ทางกฎหมายต้องไปสืบสวนเพิ่มเติม วันนี้มาที่กองปราบปราม เพื่อให้ส่งนักสืบมือดีไปคลี่คลายปัญหานี้หน่อย จะได้รู้ว่าต้องไปหาตรงจุดไหนอะไรบ้าง ไมใช่สงสัยแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย มีหลายประเด็นแต่ไม่ได้พูดในรายการ มีช่องทางของมันอยู่ เป็นไปไมได้หรอกที่ศพจะเดินออกไปได้ ต้องหาให้เจอ”

เหมือนพระ ก. พูดเพื่อเบี่ยงเบน ให้ละจากสระน้ำไปที่เขา เพื่อให้ขนย้ายศพ นี่คือคุณคิด?
ช่อเพชร : “ค่ะ คิดว่าศพน่าจะถูกฝังค่ะ”

ทั้งลูกทั้งแม่มองว่าท่านไม่อยู่แล้ว?
ช่อเพชร : “ค่ะ เราปูพรมหาทั้งกลางวันกลางคืน กลางคืนต้องมีกองไฟ ไฟฉาย มันไม่มีร่องรอยอะไรสักนิดทั้งกลางวันกลางคืน”

สมมติท่านมรณภาพจะเอาศพไปไหน?
ช่อเพชร : “หนูคิดว่าน่าจะฝัง”

บุญศรี : “คิดว่าเผา เพราะกระดูกเก็บได้ ถ้าฝังอาจจะเก็บศพยาก”

รณณรงค์ : “ถ้าเขาสงสัยก็ต้องไปค้นให้เขานะ ต้องอาศัยอำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจ”

ตลอดระยะเวลา 28 วัน ทำอะไรไปแล้วบ้าง?
ช่อเพชร : “เราค้นหาทุกวัน มีช่วงแรกๆ ขึ้นเขาวันละ 4 รอบ ลงมาชาวบ้านก็บอกว่าไปดูหมอนะอยู่ตรงนั้นตรงนี้ก็ไป ไป 4 รอบ ขึ้นจนถอดใจแล้วว่าหายังไงก็ไม่มี เลยมาหาที่อื่น”

เป็นไปได้มั้ยอาจออกนอกพื้นที่ ไม่ได้มรณภาพ?
บุญศรี : “ไม่น่าไป เพราะท่านไม่รู้จักใครเลย ไม่เคยออกไปไหน”

รณณรงค์ : “มันยากที่จะเป็นแบบนั้น จะออกไปปฏิบัติธรรมต้องแจ้งครอบครัวก่อน ไม่ใช่หายไปเลย เพราะไม่ได้โกรธกัน ใครจะหายไปไม่บอกเบาะแส ไปปฏิบัติธรรมก็ต้องแจ้งก่อน”

หนีล่ะ?
บุญศรี : “ไม่เคยออกจากบ้านเลย”

รณณรงค์ : “บวชมา 10 เดือนแล้ว”

เรื่องผู้หญิงไม่มี?
บุญศรี : “ตัดประเด็นไปเลย ไม่มี”

สงสัยใคร?
ช่อเพชร : “ก็ต้องสงสัยคนที่อยู่ด้วยคนสุดท้าย”

รณณรงค์ : “หลังเกิดเหตุเขาล้างรถบ่อย นี่คือสิ่งที่สงสัย มีอะไรหรือเปล่า ถ้าเป็นที่อื่นคงยึดไปตรวจสอบแล้วล่ะ เขาเจอจีวรพ่อ ไปตรวจดีเอ็นเอได้ก็ยังไม่เก็บตรวจให้เขาเลย ทุกวันนี้เอาไปเก็บอยู่บ้านรอตำรวจเอาไปตรวจ”

ช่อเพชร : “พอเราแจ้งเขาไป เขาก็สอบปากคำพระ 2 รูป พอสอบเสร็จเราก็เอาจีวรใส่ถุงไว้ให้เขา พอเขาออกมาเราก็บอกว่าหนูเก็บมาให้แล้วนะ จะเอากลับไปด้วยมั้ย เขาบอกว่าให้เอากลับไปไว้ที่บ้าน เดี๋ยวจะเข้ามา ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่เข้ามาแล้ว”

ถ้าเอาไปตรวจดีเอ็นเอก็จะเห็นข้อมูลบางอย่าง?
รณณรงค์ : “ก็จะได้รู้ว่าอะไรยังไงบ้าง ก็คงคิดว่าตรวจเองได้มั้ง เขาติดใจค่อนข้างเยอะ มีเรื่องเอารถกระบะไปขนดิน 3 กระสอบด้วยนะ ทำให้เขาติดใจว่าเอาไปถ่วงน้ำหรือเปล่า หลังจากนี้จะไปหาทกจุดที่เขาสงสัยที่ยังไม่มีการหามาก่อน”

คิดว่าจะหาเจอมั้ย?
รณณรงค์ : “ค่อนข้างยาก ถ้าไม่เจอก็ต้องหาไปตลอดชีวิต ในทางกฎหมายถ้าไม่เจอศพก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นผู้เสียชีวิต จะไปตั้งข้อกล่าวหาใครไม่ได้”

คิดว่าหลวงพ่อ เดินขึ้นไปบนเขาขี่ควายกับพระ ก. หรือไม่ได้ขึ้น?
ช่อเพชร : “ไม่ได้ขึ้นค่ะ น่าจะเกิดเหตุตั้งแต่กุฎิเพราะมีร่องรอยการต่อสู้ มีคุณตาท่านนึงอยู่ข้างถนน เขาบอกว่าพระ ก. ขับรถออกไปจริง แต่คนนั่งไปด้วยเป็นเณรน้อยไม่ใช่พระพ่อ”

รณณรงค์ : “เขาไม่เชื่อเลยว่าหลงป่า เดินมาเป็นสิบปีจะหลงได้ไง”

อยากบอกอะไร?
รณณรงค์ : “เรื่องนี้ก็จะตามจนกว่าจะเจอ หลังจากนี้จะไปดำเนินการยื่นเรื่องอีกหลายหน่วยงาน”

บุญศรี : “อยากให้หน่วยงานทุกท่านช่วย ไม่รู้จะไปหาทางไหนแล้ว”

ช่อเพชร : “ทางเราก็ยังไม่หยุด แต่เราไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน อยากให้หน่วยงานช่วยกันหน่อยค่ะ ขอความกรุณาหน่อยค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน