ปส.เฝ้าจับตาลูกนักการเมืองดัง อักษรย่อ “ผ” เอี่ยวเครือข่ายไซซะนะ “บิ๊กแป๊ะ” สั่งสอบภาพ 3 ตร. ถ่ายรูปร่วม “ไซซะนะ” หาความสัมพันธ์แบบไหน รอเบนซ์เข้าหาหลักฐานเพิ่มเติม ระบุชี้แจงไม่ได้อาจเข้าข่ายถูกพิจารณาคดี ย้ำตอนนี้ยังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย โฆษก ตร.ระบุเอาผิดทั้งหมดทั้งดารา ไฮโซ หากพบเกี่ยวข้อง อย่าเชื่อข่าวโคมลอย รอข้อเท็จจริง รอง ผบช.ปส.เผยกระแสข่าวมีลูกนักการเมืองเอี่ยว เตรียมนำเรื่องเข้าหารือ เตรียมเรียกแก๊งซิ่งไฮโซมากกว่า 2 คน เข้าให้ข้อมูล พร้อมเช็กเส้นทางการเงินของบอยที่โอนเข้าบัญชีร้านเบนซ์ 3 แสนทุกเดือน
จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นร้านเเอเรีย 51 ซอยอินทามระ 51 กทม. ที่มีนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง สามีดาราสาว “แพท ณปภา” เป็นเจ้าของ หลังสืบพบเชื่อมโยง “ไซซะนะ” พ่อค้ายาชาวลาว ก่อนอายัดรถหรูลัมโบร์กินีและบิ๊กไบก์มาตรวจสอบ จากนั้นนายเบนซ์เข้าชี้แจงที่บช.ปส. โดยปฏิเสธไม่รู้จักกับไซซะนะ แต่รับรู้จักกับนายบอย รวมทั้งยังยืมเงินนายบอย 6 ล้านบาท เพื่อซื้อดาวน์รถลัมโบร์กินี ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังมีข้อสงสัยเรื่องจำนวนเงินดังกล่าว ขณะที่ตำรวจเตรียมเรียกกลุ่มดาราหรือไฮโซที่อาจเกี่ยวข้องกับนายไซซะนะสอบปากคำ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึงการขยายผลเครือข่ายนายไซซะนะว่า เรื่องนี้หากขยายผลไปถึงใคร ต้องดำเนินคดีทั้งหมด ขอสังคมอย่าเพิ่งปักใจเชื่อข่าวโคมลอย ว่าจะมีลูกคนนั้นคนคนนี้ไปเกี่ยวข้อง เรามีแนวทางข้อมูลหลักฐานในการดำเนินการอยู่แล้ว โดยใช้มาตรการการยึดทรัพย์ด้วยเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ตรวจสอบภาพถ่ายที่มีนายตำรวจกับนายไซซะนะ ที่ปรากฏทางโซเชี่ยลมีเดียแล้ว พบว่าเป็นตำรวจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน และส่วนกลางจริง จำนวน 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ต้นสังกัดตรวจสอบความเชื่อมโยงว่ามีความสัมพันธ์ในลักษณะใด หรือเป็นเพียงการร่วมถ่ายภาพตามปกติ
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่ออีกว่า สำหรับความคืบหน้าทางคดีตำรวจ บช.ปส.กำลังเร่งขยายผล พร้อมยึดทรัพย์ โดยเฉพาะประเด็นการกู้ยืมเงินจำนวน 6 ล้านบาท ระหว่างนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย และนายอัครกิตติ์ ที่จะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าที่ประชุมร่วม 3 ฝ่าย คือ ป.ป.ส .บช.ปส. และ ปปง. ในวันนี้ ยืนยันว่าหากพบบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นดารา ลูกนักการเมืองหรือกลุ่มไฮโซ จะดำเนินการทั้งหมด รวมทั้งหากนายเบนซ์ไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ก็อยู่ในข่ายที่จะถูกพิจารณาดำเนินคดี แต่ขณะนี้นายเบนซ์ยังอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ผู้ต้องหา
วันเดียวกันที่ห้องประชุมภักดีภูมิ บช.ปส. ภายหลังการเข้าหารือและประชุมสรุปผล 3 ฝ่าย ทั้งบช.ปส., ป.ป.ส. และปปง. นานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส.พร้อมด้วยพล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รองผบช.ปส. นายสิทธิศักดิ์ วัจนะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด และ ผู้แทนปปง. ร่วมกันเปิดเผยผลการปรึกษาหารือผลของการปฏิบัติ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2”
พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่า ทางบช.ปส.ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานป.ป.ส. และปปง. ในการปฏิบัติตามแผนชัยยะ สยบไพรี 60/2 ซึ่งทุกฝ่ายได้นำผลสรุปการปฏิบัติมารายงานต่อที่ประชุม โดยมีข้อสรุปดังนี้ 1.ในส่วนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีคดียาเสพติดในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน บช.ปส. 8 คดี รวมผู้ต้องหาที่จับกุมได้ 11 คน ยังต้องเร่งรัดจับกุมอีก 3 คน รวมทั้งต้องตรวจสอบสืบสวนทรัพย์สินต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายอีกหลายรายการ 2.การตรวจอายัดทรัพย์สินต่างๆ ที่มีหลายรายการทั้งบ้าน ที่ดิน ทองรูปพรรณ วัว รถจยย. รถลัมโบร์กินี ฯลฯ ทางพนักงานสอบสวนจะจัดทำบัญชีทรัพย์สินที่ตรวจยึดไว้เป็นรายงานเสนอสำนักงานป.ป.ส. เพื่อมีคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สิน 3.ด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคารต่างๆ ที่รวบรวมมาได้จะส่งให้ปปง. ตรวจสอบและวิเคราะห์บัญชี ซึ่งเป็นเส้นทาง ร่องรอยการเงินต่างๆ เพื่อดำเนินการตามมูลฐานความผิดยาเสพติด
พล.ต.ต.พรชัยกล่าวต่อว่า “ส่วนกระแสข่าวที่มีลูกนักการเมืองอาจเชื่อมโยงอยู่ในขบวนการหรือไม่นั้น จะนำข้อมูลเรื่องนี้มาพูดคุยประชุมหารือกัน ซึ่งในการสืบสวนพบว่ามีการเชื่อมโยงกันในบางเรื่อง แต่จะร่วมกันพิจารณาดูว่ามีความจำเป็นหรือไม่ หากจำเป็นก็จะต้องเชิญตัวมา จากการสืบสวนเบื้องต้นมีความเกี่ยวพันกันกับนายเบนซ์ ส่วนจะมากน้อยขนาดไหนมีความจำเป็นที่ต้องเชิญตัวมาหรือไม่จะต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
Advertisement
ด้านพล.ต.ต.ศุภกิจกล่าวว่ากรณีที่สังคมออนไลน์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายไซซะนะ โดยอ้างว่าไม่มี หลักฐานในการควบคุมตัวนั้นเรื่องนี้ก็จะหารือด้วยเช่นกัน แต่ตำรวจมีหลักฐานและประสานกับทางการ สปป.ลาวมาตลอด
ขณะที่นายสิทธิศักดิ์กล่าวว่า ทางสำนักงานป.ป.ส.จะดูในเรื่องทรัพย์สิน ทางพงส.บช.ปส.มีความเห็นว่าทรัพย์สินไหนที่เกี่ยวข้องก็จะทำเรื่องเสนอไปทางเลขาธิการป.ป.ส. เพื่อให้มีคำสั่งยึดอายัด และจะมีการพิจารณาเรื่องของนายเบนซ์ การเชิญบุคคลใดมาให้ปากคำบ้าง ส่วนบุคคลที่มีภาพปรากฏคู่นายไซซะนะ ยังไม่มีใครส่งตัวแทนมาชี้แจง กับป.ป.ส. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าร่วมหารือ 3 ฝ่าย พล.ต.ต.พรชัยกล่าวว่าเนื่องจากคดีดังกล่าวมีรายละเอียดหลายรายการด้วยกันที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบและมีอีกหลายรายการที่อยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของอำนาจชุดคลี่คลายคดี ต้องประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยในการตรวจสอบจึงต้องใช้ระยะเวลา โดยตั้งกรอบเวลาจะให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ต้องรอหลักฐานเอกสารเพิ่มเติมจากนายอัครกิตติ์ เนื่องจากครั้งที่แล้วได้นำเอกสารมาชี้แจงเพียงบางส่วนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายเบนซ์ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับลูกนักการเมือง มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไร พล.ต.ต.พรชัยกล่าวว่า กรณีบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนออกข่าวไปหรือที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้มีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการแล้ว จะมีการเชิญตัวมามากกว่า 2 ราย ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครแต่อยู่ในกลุ่มของบุคคลที่มีชื่อเสียงและแวดวงไฮโซแก๊งรถซิ่ง เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นบุคคลที่มีความจำเป็นที่จะต้องเชิญมา สอบ เพราะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีรถยนต์ได้ แต่จะถูกเชิญมาในฐานะพยานหรือ ผู้ต้องหานั้นอยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน พล.ต.ต.พรชัยกล่าวว่า กรณีที่นายบอยโอนเงิน 300,000 บาทเข้าบัญชีของทางร้านนายอัครกิตติ์ ทุกเดือน เช่นเดียวกับเงิน 6 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวมถึงจะต้องมีการตรวจสอบกิจการร้านแต่งรถว่าร้านดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนอย่างไรบ้าง สำหรับการแจ้งข้อหานายอัครกิตติ์ อยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบรถลัมโบร์กินีดังกล่าว เป็นรถมือสองซึ่งจะเรียกผู้ครอบครองคนก่อนมาสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสข่าวว่ามีลูกนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดของไซซะนะ ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบลูกชายนักการเมืองชื่อดัง อักษรย่อ “ผ” ไปมีส่วนพัวพัน แต่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากพบว่าลูกชายนักการเมืองคนดังกล่าวอยู่ในกลุ่มแวดวงดารา และพบว่าอยู่ในกลุ่ม ก๊วนรถซิ่งของไซซะนะด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.อยู่ระหว่างเฝ้าจับตา
