ตร.เตรียมสอบปากคำคนขับรถตู้ ว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายสนับสนุนให้เกิดการลงมือหรือไม่ เผาแล้วศพ”ปอน” นักเรียนม.4 ที่ถูกหนุ่มวิศวะยิงดับ เพื่อนครึ่งร้อยร่วมไว้อาลัย แม่เผยรักลูกมากที่สุด ขณะที่หนุ่มวิศวะ เลื่อนนัดพบรองปลัดยธ. ระบุว่าป่วย ขอเวลารักษาตัว แต่ก็เตรียมให้อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯดูแลเรื่องให้ ด้านผู้การชลบุรี ไม่หนักใจ ยันคดีไม่ซับซ้อน ทำตามพยานหลักฐานให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกร ที่ใช้ปืนยิงนายปอน อายุ 17 ปี เสียชีวิต หลังมีเรื่องจากการขับรถปาดหน้ากันที่จ.ชลบุรี จะเดินทางเข้าพบกระทรวงยุติธรรม เพื่อปรึกษาเรื่องคดีความในวันนี้ ว่า เมื่อช่วงเช้า นายสุเทพ ให้ทนายความประสานมายังสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมว่ามีอาการป่วย และขอไปหาหมอ และนายสุเทพก็ยังไม่ได้แจ้งว่าจะเข้ามาพบอะไรยังไง แต่ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ประสานไปยังน.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในกรณีจะให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย ถ้ามีการข่มขู่กันก็พร้อมที่จะให้ดูแลเรื่องของการคุ้มครองพยานอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสที่ออกมาในขณะนี้จะมีความกดดันอย่างไรหรือไม่ พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ไม่ เพราะดูแล้วว่าทั้งหมดเป็นเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่คนกลับไปสนใจโซเชี่ยลต่างหาก โดยไม่ได้สนใจการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตนดูว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว
ถามต่อว่า กระแสในโซเชี่ยลมีเดีย มีผล กระทบต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างไรบ้าง เพราะมีการโพสต์คลิปวิดีโอ ก่อนที่จะเป็นหลักฐานในชั้นศาล พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า ตามความคิดเห็นของตน ที่มีผลกระทบต่อกระทรวงยุติธรรม ก็คือว่าจำเป็นจะต้องนำหลักฐานทั้งหมดนำสู่ศาล และให้ศาลเป็นคนตัดสินว่าใครผิดใครถูก ส่วนเรื่องความเห็นในโซเชี่ยลมีเดียไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบความผิดและพฤติการณ์กระทำความได้
ที่จ.ชลบุรี พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูง สั่งการให้ทางพื้นที่ให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หาพยานหลักฐานให้มากที่สุด ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุและหัวกระสุน ก็กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งในขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนก็ตั้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ส่วนรายละเอียดว่าอาวุธปืนมีใบอนุญาต หรือผิดมือนั้น หากได้หลักฐานมา ทางพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งคดีนี้ก็ไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด เพราะไม่สลับซับซ้อนอะไร
“อยากจะขอว่าให้หยุดพูด ซึ่งที่ผ่านมาก็จากการพูดทำให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้นมา เพราะเรื่องนี้ก็ถึงกระบวนการยุติธรรม ขอให้ความมั่นใจ ไปพิจารณากันในกระบวนการยุติธรรมดีกว่ามาพูดกันไปกันมาจนเกิดความขัดแย้ง ซึ่งก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว เราจะให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่ายหากฝ่ายใดมีหลักฐานอะไร ก็ส่งพนักงานสอบสวนได้ทุกเวลา” ผู้การชลบุรีกล่าว
พล.ต.ต.สมประสงค์ เปิดเผยว่า ส่วนคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถของนายสุเทพถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ขณะนี้ สภ.แสนสุข สอบปากคำกลุ่มวัยรุ่นไปแล้วกว่า 10 ปาก หลังจากนี้จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยมีประเด็นที่ให้พนักงานสอบสวนไปสอบผู้ขับรถตู้ว่าพฤติกรรมเข้าข่ายการสนับสนุนการก่อเหตุหรือไม่ รวมถึงยังต้องรอหลักฐาน เช่นผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น รอยเขม่าปืน หัวกระสุน และปลอกกระสุน คาดไม่นานจะปิดสำนวนคดีนี้ได้
เมื่อเวลา 16.20 น. ที่วัดน้อยนพคุณ กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานฌาปนกิจนายนวพล ผึ่งผาย หรือปอน ที่เสียชีวิตจากกรณีนายสุเทพยิงใส่ หลังเหตุการณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะกันเรื่องจอดรถกีดขวางทางกันจนบานปลาย ว่า ญาติพี่น้องนายปอน ทยอยเดินทางมาที่วัด โดยมีนางมณีพร ผึ่งผาย แม่ของปอน อยู่ในอาการไม่เคร่งเครียดมากนัก โดยกลุ่มเพื่อนทั้งนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม และกลุ่มเพื่อนสนิทหลายกลุ่ม เดินทางมาร่วมไว้อาลัยกว่า 40 คน ซึ่งส่วนใหญ่ต่างกล่าวถึงปอนว่าเป็นเพื่อนรัก และอยากให้ปอนหลับสบาย แต่ไม่ขอแสดงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์วันดังกล่าวได้บวชให้กับนายปอน 4 คน โดยกลุ่มเพื่อนได้นำรถจักร ยานยนต์มาเบิ้ลเครื่องข้างเมรุตอนกำลังฌาปนกิจ
โดยแม่นายปอนกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ดีใจที่เห็นเพื่อนรักลูก ส่วนแม่ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากแม่รักลูกเท่านั้น
