พ.ต.ท.หึงโหด เห็นภาพ บาดตา อดีตภรรยานั่งกินกาแฟอยู่ในร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน เมืองโคราช เดินเข้าไปชักปืนจ่อยิงจนหมดแม็ก ไม่หนำใจ เปลี่ยนแม็กจ่อยิงซ้ำอีกนัด ก่อนขี่จยย.หนีอย่างใจเย็นแต่สุดท้ายไม่รอด ถูกรวบตัวได้ ห่างที่เกิดเหตุ 3 ก.ม. สารภาพสิ้น อดีตภรรยาเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองโคราชแต่หย่ากันไปแล้ว จนรู้ว่าอดีตภรรยาไปคบหากับครูด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุเห็นทั้งคู่มาด้วยกันเลยหึงจนลงมือก่อเหตุสยองดังกล่าว
เมื่อเวลา 17.40 น.วันที่ 22 ก.พ. พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ เรียมศิริ สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันภายในร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน บ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา เขตเทศบาลตำบลหัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่พฐ. และอาสาสมัครมูลนิธิ
ไปถึงพบที่เกิดเหตุบริเวณระเบียงภายในร้านกาแฟ พบศพนายพงษ์พัฒน์ อายุ 59 ปี ครูโรงเรียนบ้านจอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะและลำตัวหลายนัด ห่างออกไปเล็กน้อยบริเวณโต๊ะกาแฟ พบศพนางจุฑาทิพย์ บัวคล้าย อายุ 44 ปี ครูโรงเรียนบ้านพระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ลำตัว สภาพศพนั่งอยู่บนเก้าอี้แหงนหน้าเสียชีวิต ตรวจสอบบนพื้นพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่เกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมได้ทั้งหมด 13 ปลอก
จากการสอบสวนพยานให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนพากันมานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน ต่อมามีคนร้ายเป็นชายสวมหมวกนิรภัยครึ่งใบปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็กซ์ สีน้ำเงิน เลขทะเบียน 1 กฐ 1565 นครราชสีมา เข้ามาจอดหน้าร้าน จากนั้นเดินขึ้นมาในร้านแล้วชักอาวุธปืนออกมากราดยิงทั้ง 2 คน จนเสียชีวิต จากนั้นจึงเดินกลับไปขึ้นรถจักรยานยนต์อย่างใจเย็น ก่อนขับหลบหนีไปทางแยกหัวทะเล
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านกาแฟดังกล่าว พบว่าสามารถจับภาพไว้ได้ทั้งหมด ตั้งแต่ที่ผู้ตาย ทั้ง 2 คนเข้ามาสั่งกาแฟไปนั่งดื่ม จากนั้นเห็นภาพคนร้ายสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใส่เสื้อแขนยาว เดินเข้าหาทั้ง 2 คน แล้วชักอาวุธปืนเปิดฉากซัลโวใส่อย่างไม่ยั้ง ขณะเดียวกันนายพงษ์พัฒน์ ซึ่งถูกยิงบาดเจ็บพยายามวิ่งเข้าชาร์จแย่งปืนจากคนร้าย แต่ถูกยิงซ้ำจนล้มลงแล้วถูกคนร้ายจ่อยิงอีกจนกระสุนหมดแม็ก จากนั้นคนร้ายเปลี่ยนแม็กกาซีนก่อนหันกลับมาจ่อยิงนางจุฑาทิพย์ ซ้ำอีก 1 นัด ก่อนเดินออกไปอย่างใจเย็น
หลังสอบสวนตำรวจวิทยุสกัดจับ โดยสั่งการให้ตำรวจสายตรวจและจราจรเฝ้าสังเกตตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี จนกระทั่งพบคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์อยู่บริเวณทางรถไฟ ถนนไชยณรงค์ ด้านหลังโรงแรมปัญจดารา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จึงเข้าจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนกล็อกขนาด 9 ม.ม. จากการสอบสวนทราบชื่อคือ พ.ต.ท.เอกพงษ์ พรหมสุข อายุ 49 ปี สารวัตรฝ่ายอำนวยการ 2 สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 จึงควบคุมตัวไปสอบสวน
เบื้องต้น พ.ต.ท.เอกพงษ์ให้การรับสารภาพว่า นางจุฑาทิพย์เป็นอดีตภรรยา ก่อนหน้านี้มีปัญหากันถึงขั้นต้องหย่าร้าง จากนั้นรู้ว่าภรรยามาคบหากับนายพงษ์พัฒน์ ก่อนเกิดเหตุเห็นอดีตภรรยาตัวเองกับนายพงษ์พัฒน์มานั่งดื่มกาแฟที่ร้านโดยบังเอิญ จึงเกิดความหึงหวงเดินเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงจนกระสุนหมดแม็กแล้วขับขี่รถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ควบคุมตัวไว้สอบปากคำอย่างละเอียดก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
