ยิงสนั่นร้านเหล้า 5 ชายฉกรรจ์ไม่พอใจกลุ่มโจ๋โต๊ะข้างๆ มันส์กับเพลงจัด ขึ้นไปเต้นบนเวที ใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าจี้ตา ไม่หนำใจ ชักปืนจ่อยิงซ้ำ บาดเจ็บ 4 ราย เหตุเกิดในร้านอาหารกึ่งผับ ย่านฝั่งธนฯ ตร.บางเสาธงรุดสอบเพื่อนคนเจ็บให้การ คนยิงแต่งชุดทหาร ตร.ระดมล่าตัว ก่อนพบหนึ่งในกลุ่มคนร้ายถูกลูกหลงเพื่อนบาดเจ็บที่ขา ถูกพาส่งร.พ.ธนบุรี 2 แต่มีพวกมาพาตัวกลับไป ตร.สืบจนรู้ ถูกส่งไปรักษาต่อที่ร.พ.กลาง ตามไปอายัดตัว ขณะที่ช่วงค่ำ นายทหารพระธรรมนูญนำตัวพลอาสามือยิงเข้ามอบตัว ก่อนถูกแจ้ง 3 ข้อหาหนัก

เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 2 มี.ค. พ.ต.ท.พิพัฒน์ วรโชติศักดิ์ดากร สว.(สอบสวน) สน.บางเสาธง รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ภายในร้านอาหารครัวยี่หร่า ถ.ราชพฤกษ์ แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ศุภกิจ ต่อบุญ ผกก.สน.บางเสาธง พ.ต.ท.ชาญชัย พึ่งรุ่ง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.นครินทร์ งามถ้อย รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ชีพมูลนิธิร่วมกตัญญู

ภายในร้านอาหาร พบโต๊ะ เก้าอี้ ข้าวของกระจัดกระจาย ใกล้กับเวทีพบร่างคนเจ็บนอนจมกองเลือด 4 ราย ทราบชื่อเบื้องต้นมีนายภูธเนศ เฉยช้า อายุ 33 ปี มีบาดแผลถูกยิงถากบริเวณขมับ และตาขวามีรอยไหม้ นายพินิจ พูลสำราญ อายุ 50 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ปาก หัวกระสุนฝั่งตุงอยู่ที่ท้ายทอย นายชัยมงคล สังข์สุข อายุ 49 ปี ถูกกระสุนปืนที่ข้อมือขวา และตาขวามีรอยไหม้ และนายอานัฐ ทองใบ อายุ 40 ปี ถูกกระสุนปืนใต้ราวนมขวาหัวกระสุนฝังใน หน่วยกู้ชีพฯ ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งโรงพยาบาลศิริราช ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน

จากการสอบสวนนายชมานันทน์ สังข์สุข อายุ 20 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกับพี่ๆ ที่บาดเจ็บรวม 5 คน เข้ามาเที่ยวดื่มกินที่ร้านตามปกติ ช่วงก่อนเที่ยงคืนร้านใกล้ปิดนักร้องเล่นเพลงสุดท้ายอย่างสนุกสนาน ตนจึงขึ้นไปเต้นบนเวทีและให้ทิปกับนักร้องแต่ไม่ได้มีเรื่องกับใคร จนเพลงจบตนก็ลงมาจากเวที มีนักเที่ยวอีกโต๊ะเข้ามาชนแก้วกับตน ทันใดนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ที่นั่งโต๊ะติดกับเวที โดยในนั้นใส่เครื่องแบบทหาร 2 คน ใส่ชุดซาฟารีอีก 2 คน และชุดไปรเวต 2 คน ได้พยักหน้ากัน ก่อนที่ชายชุดซาฟารีจะเอาเครื่องชอร์ตไฟฟ้าเข้ามาชอร์ตเข้าที่ตาของนายภูธเนศ และไล่ชอร์ตกลุ่มของตนทุกคน แต่ตนปัดและหลุดรอดมาได้

จากนั้นชายในชุดทหารก็ล้วงปืนสั้นแบบลูกโม่ออกมายิงขึ้นฟ้า 2 นัด ก่อนจะหันมายิงใส่ทุกคนในระยะเผาขนจนล้มลงไปนอนจมกองเลือด จากนั้นทั้งหมดก็วิ่งหนีไปหน้าร้านขี่รถจยย.แบบวิบาก 2 คัน และรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป ตนคิดว่าช่วงที่ตนขึ้นไปเต้นบนเวที อาจเดินไปถูกโต๊ะของกลุ่มทหารจึงไม่พอใจ แต่ก็ไม่น่าจะยิงกันถึงขนาดนี้

ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ สน.บางเสาธง พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.ศุภกิจ ต่อบุญ ผกก.สน.บางเสาธง พ.ต.ท.นครินทร์ งามถ้อย รอง ผกก.สส.สน.บางเสาธง พ.ต.ท.กิติศักดิ์ พฤกษ์สุวัฒน์ สว.กก.สส.น.7 พร้อมด้วยทหารจาก มทบ.11 ร่วมประชุมสรุปความคืบหน้าคดี โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.สุธีร์เปิดเผยว่า ทางผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัด โดยทราบข้อเท็จจริงแล้วว่าผู้บาดเจ็บได้เข้าไปกินดื่มในร้านครัวยี่หร่า จากนั้นก็มีปากเสียงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งมีอยู่ 5 คน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธปืนและใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าทำร้าย ขณะนี้ให้ทางเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้าน พบว่าที่ร้านไม่มีการติดกล้องวงจรปิดเพราะเป็นเพียงร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ซึ่งของเวลาอีกนิดคาดว่าจะออกหมายจับได้ ในวันนี้จำนวน 2 คน เรามีพยานยืนยันว่ากลุ่มนี้มักจะวนเวียนมาร้านนี้เป็นประจำ จึงสามารถออกหมายได้

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เผยถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. รับผิดชอบพื้นที่บก.น.7 และพล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รับผิดชอบงานสืบสวน บก.น.7 ให้ลงไปดูแลควบคุมคดีนี้ เร่งรัดพนักงานสืบสวน สน.บางเสาธง หาตัวผู้กระทำผิดโดยเร็ว หากพบว่าเป็นคนมีสีก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 17.20 น. ที่สน.บางเสาธง พล.ต.ต.สุธีร์พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมความคืบหน้าของคดี ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 19.30 น. พล.ต.ต.สุธีร์ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 5 รายแล้ว โดยมือปืนคือ พลอาสาสหรัฐ หิรัญ และนายพลสิทธิ์ หรือแซม อินศรีทอง อายุ 28 ปี เป็นผู้ใช้กระบองไฟฟ้าชอร์ตคู่กรณี และโดนลูกหลงจากปืนของเพื่อนที่ก่อเหตุ ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อายัดตัวไว้แล้ว โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาเพียงแค่ 2 รายนี้เท่านั้น จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายนั้นไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน เป็นเพียงเหตุกระทบกระทั่งเฉพาะหน้าเท่านั้น ซึ่งเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ส่วนกลุ่มผู้บาดเจ็บอาการพ้นขีดอันตรายแล้วและไม่มีผู้ใดถึงขั้นตาบอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน นายทหารพระธรรมนูญควบคุมตัวพลอาสาสหรัฐ มามอบให้ทางพนักงานสอบสวนสอบปากคำ โดยเจ้าตัวมีสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งนี้ตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส, พยายามฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน