วอชด็อกฯ อาสาดูแลแมวที่รอดชีวิต เจ้าของ คาเฟ่แมว จ่อแจ้งความคนช่วยชีวิต

กรณีมีผู้ร้องเรียนแจ้งว่า พบแมวกว่า 32 ชีวิต ถูกขังไว้ใน คาเฟ่แมว แห่งหนึ่งเป็นอาคารชุดย่านวัชรพล ก่อนมีกลุ่มอาสามัครเข้าไปตรวจค้น พบซากแมวถูกแช่ช่องแข็งอีกจำนวนหนึ่ง ต่อมาทราบว่าคาเฟ่แห่งนี้ปิดกิจการลงตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้รายงานไปนั้น

วันที่ 20 เม.ย. ที่ สน.สายไหม นายทัฬอิญ จิรเปรมธนิก อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐนันท์ ม่วงงาม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม พร้อมเจรจากับกลุ่มสัตวแพทย์เจ้าของแมวเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้ง

นายทัฬอิญ กล่าวว่า ตนต้องการเข้าเจรจาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจต่อกรณีเข้าช่วยเหลือแมวจากคาเฟ่ดังกล่าว ซึ่งเมื่อเรื่องราวได้แพร่หลายออกไป อาจทำให้เกิดความไม่พอใจกับกลุ่มสัตวแพทย์ดังกล่าว ยังไงเราคนไทยก็พี่น้องกัน ตนจึงอยากเจรจาและขอโทษ แต่ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ใดเกี่ยวข้อง และตนก็ไม่ได้รู้จักกับสัตวแพทย์เจ้าของ หรือพนักงานคนใดในคาเฟ่ด้วย

เมื่อถามว่าจะแจ้งความต่อใครหรือไม่นั้น ตนไม่คิดจะทำร้ายและซ้ำเติม หากว่าตนจะถูกแจ้งความ ตรงนี้ไม่กังวล เพราะมีหลักฐานการเชิญ มีเอกสารเซ็นรับรองให้เข้าช่วยเหลือแมวในฐานะจิตอาสา และได้ติดต่อพนักงานที่ดูแลร้านก่อนทุกครั้ง

อีกทั้งตนไม่ได้เข้าไปเพียงคนเดียว แต่มีทีมงานและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตามอาจมีข้อผิดพลาดบางเรื่อง ทำให้ไได้แจ้งกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก่อน เพราะทุกคนต่างเร่งรีบที่จะช่วยเหลือแมวออกมาให้เร็วที่สุด

“ส่วนแมวที่ได้รับการช่วยเหลือยังไม่ได้แจกจ่ายให้ใคร หากมีสัตว์แพทย์หรือผู้ใดที่ต้องการนำแมวไปดูแล ตนต้องได้รับการยืนยันก่อนว่าแมวจะไม่มีสภาพความเป็นอยู่แบบเดิม ซึ่งตอนนี้แมวแข็งแรงขึ้นมาก ตนอยากให้มูลนิธิกลางเข้ารับเลี้ยงดูแลแมวที่ข่วยเหลืออกมาได้ทั้งหมด เพราะจะโปร่งใสที่สุด สามารถตรวจสอบบัญชีการเงิน รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของแมวได้” นายทัฬอิญ กล่าว

นายทัฬอิญ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ระบุว่าแมวบางตัวพิการเพราะเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์นั้น เพื่อนสัตวแพทย์ของตนได้บอกว่า เมื่อสังเกตจากภายนอกแล้วเชื่อได้ว่าไม่ใช่พันธุ์แท้แน่นอน แต่หากต้องการตรวจสอบเชิงลึกจริง ต้องนำเลือดไปตรวจดีเอ็นเอซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก หากหน่วยงานภาครัฐเข้าให้ความช่วยเหลือโดยตรงจะเป็นประโยชน์มาก

เจ้าของคาเฟ่เตรียมแจ้งความ

ต่อมาเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนสน.สายไหม ได้มีการนักเจรจาพูดคุยกันเพื่อหาข้อยุติเพื่อหาผู้ดูแลแมวทั้ง 32 ตัว ในที่เจรจามีผู้ช่วยฝ่ายกฎหมายจากวอชด็อกไทยแลนด์ และนายทัฬอิญ จิรเปรมธนิก อาสาที่เข้าไปช่วยแมวจากคาเฟ่

รวมทั้งกลุ่มเจ้าหน้าของสัตวแพทย์ ที่เข้าไปร่วมช่วยเหลือแมวในวันนั้นด้วย หลังเจรจานานกว่า 3 ชั่วโมง สัตวแพทย์หญิงภัทรนันท์ สัจจารมย์ ผู้ช่วยฝ่ายกฎหมายวอชด็อกไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ตนเองได้เป็นคนกลางที่จะมารับมอบแมวจำนวน 30 ตัว ที่เหลืออยู่ไปส่งมอบให้กับเพื่อนของสัตวแพทย์เจ้าของคาเฟ่ ที่ได้รับมอบอำนาจมาให้นำแมงไปดูแลต่อ โดยนายทัฬอิญ ก็ยินดีที่จะส่งมอบให้

ขณะที่มารดาของสัตวแพทย์หญิงเจ้าของคาเฟ่ พร้อมพนักงาน ที่ดูแลคาเฟ่ 2 คน เดินทางเข้าพบตำรวจเพื่อเตรียมเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่บุกรุกเข้าไปนำแมวออกมาจากคาเฟ่โดยไม่ได้รับอนุญาต และนำหลักฐานคลิปวีดีโอในวันเกิดเหตุที่มีกาาบุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกายมามอบให้กับตำรวจด้วย

เบื้องต้นเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา คือ บุกรุกเคหสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต ลักทรัพย์ และทำร้ายร่างกายส่วนกลุ่มเจ้าหน้าที่อ้างว่าเข้าไปช่วยเหลือแมว ได้ขอให้วอชด็อกไทยแลนด์ลบโพสต์ที่มีการโจมตีกล่าวหาว่ากลุ่มของตนเองเข้าไปและสร้างเรื่องให้เห็นว่าคาเฟ่แห่งนี้มีการทารุณกรรมสัตว์ และกล่าวหาว่าเป็นการบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน