เจ้าของบ้านเผยเห็นจระเข้ริมแม่น้ำแม่กลองนานกว่า 2 เดือนตั้งแต่ตัวเล็กและให้อาหารกินประจำ หวั่นกลัวโตขึ้นจะทำร้ายคนจึงแจ้งประมงมาจับ ด้านเจ้าหน้าที่เผยวันนี้พบลอยเท้าจระเข้บริเวณใกล้เคียง ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามและใช้แล้ววางดักจับ พร้อมประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนงดเล่นน้ำชั่วคราวและเข้าใกล้บริเวณใกล้เคียงเนื่องจากจระเข้เริ่มตื่นกลัว


(22 มี.ค. 60) จากกรณีที่มีชาวบ้านพบจระเข้ยาวประมาณ 1 เมตร ขึ้นมานอนอ้าปากอาบแดดที่บนสะพานไว้ริมตลิ่งริมแม่น้ำแม่กลอง ที่บ้านเลขที่ 49/1 ถนนท่าเสา เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และนำไปโพสต์บนหน้าเฟซบุ๊กจนทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำเกิดการตระหนก และเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ

 


วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบพบมีเจ้าหน้าที่จากประมงจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ พร้อมด้วยชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง เข้าไปตรวจสอบโดยรอบบริเวณ และค้นหาแหล่งที่อาศัยของจระเข้ตัวดังกล่าวที่ปรากฏตามในภาพที่เผยแพร่ทางสื่อ โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ยังไม่พบจระเข้ตัวดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะตื่นตระหนกหนีหายไปที่อื่น แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงเฝ้าติดตามอยู่ตลอด
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายพิชิต หมอทรัพย์ อายุ 48 ปี เป็นลูกชายของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เล่าให้ฟังว่าคุณแม่ของตนเองเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวมาตั้งแต่ตัวมันยังเล็กขนาดเท่าขวดน้ำอัดลม ก็ช่วงประมาณ 2 เดือนเศษๆ เดิมทีแรกตนเองก็ไม่เชื่อซึ่งแม่ได้ใช้โทรศัพท์บันทึกเอาไว้ และนำมาให้ตนดูตนจึงได้เข้ามาดูก็พบว่ามีจระเข้อยู่จริง และเห็นเป็นประจำตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา โดยที่แม่ของตนเองจะนำไก่สดบ้างอาหารบ้างมาให้จระเข้กินเป็นประจำ ซึ่งจระเข้ตัวดังกล่าวก็จะรู้เวลาโดยเฉพาะช่วงเวลาใกล้ๆเที่ยงพระอาทิตย์จะแรงและน้ำจะลดลงเจ้าจระเข้ก็จะมานอนบนสะพานจนกว่าน้ำจะลดและก็นอนอ้าปากอยู่อย่างนั้น ซึ่งเข้าไปใกล้ๆ มันก็จะนอนนิ่งๆไม่ทำร้ายคน โดยที่คนในบ้านหรือเด็กๆที่เห็นก็จะไม่เข้าไปทำอะไรก็ปล่อยให้อยู่แบบนั้น จนน้ำขึ้นมันก็จะว่ายหายไปเอง ซึ่งตนเองได้ปรึกษาคุณแม่เพราะกลัวมันจะตัวใหญ่ขึ้นและไปกัดหรือทำร้ายคนโดยเฉพาะเด็กเพราะจะลงมาอาบน้ำและซักผ้าตรงบริเวณนี้เป็นประจำ ซึ่งตนเองก็แจ้งไปยังประมงจังหวัดให้เข้ามาตามจับแต่ก็ยังไม่สามารถเข้ามาจับไปได้ จนมีคนแถวบ้านได้มาถ่ายและนำไปโพสต์ลงบนหน้าเฟซบุ๊ก จนเป็นข่าวดังกล่าว ซึ่งตนเองและแม่ก็อยากวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยจำเป็นและนำไปไว้ในสถานที่เหมาะสมหรือสถานเพราะเลี้ยงสัตว์ต่อไป
ขณะที่นายประครอง จันทร์ศรี อายุ 78 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแพห่างจากที่พบจระเข้ไปเพียง 200 เมตร เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่อยู่บนแพในน้ำมาตลอดไม่เคยพบจระเข้เลย มีแต่เพียงเพื่อนบ้านที่มีอาชีพจับปลาเล่าให้ฟังว่าเมื่อ 2-3 เดือนก่อนได้ไปพบจระเข้ขนาดตัวเท่าขวดน้ำอัดลมนอนอยู่บนตลิ่งงบริเวนต้นไม้ช่วงโค้งน้ำฝั่งทางค่ายทหารและมีเจ้าหน้าที่ทหารลงมาถ่ายรูปเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถจับมันได้และก็หายไปจนมาปรากฏว่าอยู่ใกล้กับบริเวณบ้านที่ตนเองอยู่ แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร ซึ่งถ้าหากพบก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบต่อไป


ด้านนายทรงฉัตร ประคัลภานนท์ เจ้าพนักงานชำนาญการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประทับช้าง กล่าวว่า วันนี้ได้นำกำหลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยฯ เข้ามาตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบพร้อมทั้งวางแผนการจับจระเข้ตัวดังกล่าว เบื้องตนจะได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาสลับผลัดเปลี่ยนกันดู พร้อมทั้งจะนำแล้วมาวางไว้บริเวณใกล้เคียงเพื่อดักจับเนื่องจากจระเข้ตัวดังกล่าวยังมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ยากลำบากพอสมควรเพราะมันลอยอยู่บริเวณแม่น้ำซึ่งกว้างมาก อีกทั้งช่วงนี้มีเจ้าหน้าที่และประชาชนเข้ามามากอาจทำให้จระเข้ตกใจและอาจจะหนีไป แต่ก็ยังไม่ชล่าใจ ยังคงให้เจ้าหน้าที่คอยติดตามอยู่ไม่ห่าง
ด้านน.ส.จันทร์ทิพย์ บรรลือเดช หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง ประมงจังหวัดราชบุรี ได้นำเรือยนต์จากกรมประมงวิ่งสำรวจบริเวณน่านน้ำที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อออกสำรวจแหล่งที่คาดว่าจระเข้จะเข้าไปหลบ เนื่องจากสัญชาติญาณของจระเข้จะเป็นสัตว์ที่นิ่งรักสงบ ชอบอยู่ในสถานที่เงียบและจะขึ้นมาอาบแดด ซึ่งเมื่อวันสองวันนี้มีเจ้าหน้าที่และคนเข้ามามากจระเข้คงตกใจและหนีหายไปซึ่งเราคงต้องเฝ้าติดตามประมาณ 1-2 วัน ช่วงนี้จระเข้อาจจะหลบไปที่อื่นแต่อาจจะกลับมาเพราะทราบว่าเขามาอยู่ตรงนี้นานเป็นเดือนแล้วและเจ้าของบ้านก็มักจะเอาอาหารให้กิน ช่วงนี้จึงอยากวอนประชาชนอย่าตื่นตระหนกและเข้ามาดูเพราะอาจจะเป็นการลบกวนและทำให้มันหนีไปที่อื่นซึ่งจะยากต่อการจับ รวมถึงขอให้ประชาชนงดเล่นน้ำก่อนในช่วงนี้เพื่อความปลอดภัยแม้จระเข้จะยังไม่ดุร้ายก็ตามแต่หากมีการเผชินหน้ากันมันอาจจะทำร้ายเราเพราะการป้องกันตัวเป็นไปได้

อย่างไรก็มีมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการปูพรมเดินตรวจสอบทั่วบริเวณพบรอยเท้าของจระเข้ แต่ทั้งนี้ก็ยังยืนยันไม่ได้แน่ชัดเนื่องจากบริเวณใกล้เคียงมีลอยเท้าคล้ายๆกันแต่อาจจะเป็นรอยเท้าของตัวเงินตัวทองได้ เบื้องต้นที่มีการเปรียบเทียบมีความแตกต่างกัน รอยเท้าของตัวเงินตัวทองจะยาวกว่า ส่วนรอยเท้าของจระเข้จะสั้นกว่า ซึ่งรอยที่พบเป็นลอยเท้าสั้น คาดว่าจะเป็นรอยเท้าของจระเข้ตัวดังกล่าว และอาจจะหนีมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณสะพานท่าน้ำไปเพียง 100 เมตร อย่างไรก็ดีหากผู้ใดพบเห็นจระเข้ให้รีบแจ้งที่ประมงจังหวัด หมายโทร 081-1713175 ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน