สาวไทยทัวร์เกาหลี วูบ-โคม่า ระดมช่วย-ค่ารพ. พรวด กต.ระบุเป็นลมในผับ หัวใจหยุดเต้น-ปั๊มได้ พร้อมดูแล-รับตัวกลับ ยังอยู่ในสภาพนิทรา

ญาติวอนช่วยสาวไทยบินเที่ยวเกาหลีกับเพื่อน จู่ๆช็อกหมดสติอาการโคม่า ยังไม่รู้สึกตัวนอนอยู่ไอซียู ชี้ค่ารักษาตกสัปดาห์ละ 2 แสนบาท เตรียมระดมเงินช่วยพากลับมารักษาที่ไทย ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ยื่นมือช่วย ระบุสาวไทยเป็นลมกลางผับที่ฮงแด หัวใจหยุดเต้น 20 นาที แพทย์ปั๊มขึ้น แต่อาการยังไม่ดี แถมมีโรคปอดอักเสบแทรกซ้อน สถานทูตไทยยันมีแนวทางเรื่องเงินอยู่แล้ว เตรียมบินพาแม่ไปเซ็นรับสภาพหนี้ ก่อนพากลับ

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายทองอ่อน หนองโสดา อดีตกำนันตำบลหนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่าน.ส.ระภีภรณ์ นาสะอ้าน หรือน้องมิน อายุ 25 ปี บัณฑิตสาวมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นหลานและได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลี ระหว่างวันที่ 20-24 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดช็อกหมดสติกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา และทางญาติที่อยู่ประเทศเกาหลีและในประเทศไทยได้โทรศัพท์สายตรง 1567 ศูนย์ดำรงธรรมประเทศไทย ประสานให้ความช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 15 บ้านโนนชาด ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ พบนายนิยม โยหาสิทธิ์ นายก อบต.หนองแวง และพ.จ.ต.เดชากร จิตจักร ปลัดอำเภอสมเด็จ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอสมเด็จ เข้ามาสอบถามเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน โดยนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้มอบเงินสด 5,000 บาท ช่วยเหลือเป็นค่าเดินทาง ท่ามกลางประชาชนและผู้นำชุมชนที่รู้ข่าวพากันมามอบเงินช่วยเหลือ

นางสมพร เกื้อสุวรรณ อายุ 48 ปี ป้าน้องมิน กล่าวว่า ครอบครัวของน้องมินทำงานอยู่ที่ กทม.หลายสิบปีแล้ว แต่ภูมิลำเนายังอยู่ที่กาฬสินธุ์ ส่วนน้องมินนั้นทราบข่าวจากนางบังอร นาสะอ้าน อายุ 45 ปี แม่ของน้องมิน ซึ่งเป็นน้องสาว ว่าระหว่างวันที่ 20-24 มี.ค. หลานสาวได้ไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีกับเพื่อนสาวรวม 4 คน จนเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ได้รับแจ้งจากเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันว่าขณะที่น้องมินกำลังเก็บของเตรียมตัวกลับ จู่ๆ ก็บอกว่าหมดแรง แน่นหน้าอก ก่อนจะหมดสติไป เพื่อนจึงรีบพาตัวส่งโรงพยาบาลที่ประเทศเกาหลี ขณะเดียวกันเพื่อนอีก 3 คนก็ต้องเดินทางกลับเมืองไทย จากนั้นทางโรงพยาบาลเกาหลีขอให้ญาติเดินทางไปด่วนและให้นำเงินจำนวน 200,000 บาทไปด้วย เพื่อนและญาติที่อยู่ในประเทศเกาหลีจึงตัดสินใจโทรศัพท์ด่วนเข้า 1567 ศูนย์ดำรงธรรมประเทศไทยเพื่อหาทางช่วยเหลือ สิ่งที่ต้องการในขณะนี้คือให้ทางเกาหลีช่วยรักษาหลานสาวก่อน ส่วนเงินขณะนี้กำลังรวบรวมอยู่

ด้านนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีนี้ได้รับแจ้งจาก น.ส.ชุลีพร ภูสมศรี ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งก็ได้ประสานไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับจัดส่งเอกสารแสดงตัวตนของ “น้องมิน” และทราบว่าสถานทูตที่ประเทศเกาหลีรับทราบแล้ว ซึ่งทางจังหวัดก็พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในทุกเรื่อง

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางบังอร แม่ของน้องมิน ทราบว่าขณะนี้ครอบครัวกำลังหาเงินเพื่อเดินทางไปพบลูกสาว และคาดว่าจะเดินทางได้ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ แต่เนื่องจากครอบครัวมีฐานะปานกลางก็ยังคงต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ โดยเฉพาะการนำตัวกลับมารักษาในประเทศไทย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เพราะเพียงแค่คืนเดียวที่เข้าไปรักษาในโรงพยาบาลเกาหลี มีราคาสูงถึงสัปดาห์ละ 200,000 บาท จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือด้วย

สำหรับน้องมินเพิ่งสำเร็จการศึกษาด้านบัญชี จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และกำลังจะเริ่มทำงาน ด้วยครอบครัวมีฐานะยากจนเป็นคนที่มุมานะทางการเรียนและถือเป็นอนาคตของครอบครัว แต่ก็ต้องการเผชิญกับปัญหานี้ ซึ่งทางครอบครัวหวังว่าจะมีผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือให้น้องมินได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง

ขณะที่ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือ น.ส.ระภีภรณ์ น้องมินนั้น สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเกาหลีใต้ได้ประสานงานสอบถามรายละเอียดของน้องมิน ซึ่งตอนนี้อยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลเซอเวอร์เร่น เหตุเกิดขึ้นที่คลับในฮงแด เวลาประมาณ 01.00 น. โดยน้องมินไปเที่ยวและได้เป็นลม ก่อนเรียกรถพยาบาลมา แต่ปัญหาคือหัวใจหยุดเต้นต้องใช้เครื่องปั๊มหัวใจขึ้นมา โดยใช้เวลา 20 นาที ซึ่งทางการแพทย์ถือว่านานมาก แต่ตอนนี้หัวใจกลับมาเต้นปกติแล้ว แต่อาการยังไม่ดีเท่าไหร่ โดยยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และมีอาการของปอดอักเสบแทรกซ้อนอยู่

อย่างไรก็ตามแพทย์ให้การดูแลอย่าง ใกล้ชิด ต้องเฝ้าดูอาการต่อ ด้านฝ่ายกงสุลจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ส่วนแม่ของน้องมินจะมาเซ็นรับสภาพหนี้ที่สถานทูต และพาน้องมิน กลับบ้าน โดยคุณพ่อจะไปรับผู้ป่วย ทั้งนี้ทางสถานทูตมีแนวทางเรื่องการเงินอยู่แล้ว และได้แจ้งครอบครัวของน้องมินเกี่ยวกับเรื่องนี้เรียบร้อย สถานทูตประสานงานเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด