ครอบครัวและผู้รอดชีวิตคดี แพรวา 9 ศพ ปลดล็อกจิตใจ คดีสิ้นสุดเสียทีหลังได้รับเงินชดใช้-ด้านแม่แพรวาขอให้อภัย…อยากกอดสักครั้ง!

จากกรณีคดี แพรวา 9 ศพ มีข่าวดีว่าช่วงเช้าวันที่ 6 ส.ค. จำเลยส่งตัวแทนเดินทางมาวางเงินจำนวน 41 ล้านบาทต่อศาลเพื่อชดใช้เงินตามคำพิพากษาแก่ผู้เสียหาย หลังปล่อยให้ยืดเยื้อมานานถึง 9 ปี

ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 6 ส.ค โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัดออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 – 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ผู้เสียหายจากคดีแพรวา ทั้ง ป้าถวิล แม่ ดร.เป็ด

แม่สุชาดา แม่น้องตอง, คุณสิตาพัชญ์ ภรรยาคุณอุกฤษณ์, พ่อสระโอด-แม่ปิยะวรรณ พ่อแม่แม่น้องป้าย หรือจันจิรา และ ตินติน วรัญญู เกตุชู ผู้รอดชีวิต รวมทั้ง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ ซึ่งเป็นทนายให้ทางฝั่งแพรวา

คุณแม่ดร.เป็ด รู้สึกยังไง?
ป้าถวิล : “รู้สึกดีใจ เรื่องจะได้จบๆ ไป ขอบคุณมากที่สุดเลยที่ทำให้เร็วขึ้น ไม่ต้องมายืดเยื้อกันอีก”

แม่สบายใจหรือยัง?
ป้าถวิล : “สบายใจ จะเอาเงินไปสร้างที่อยู่ ใช้กินประจำวัน ถ้าเราหมดอันนี้ ก็ค่อยๆ ใช้ ก็ไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหนแล้ว ลูกเราก็ไม่มี ที่ก็ไม่มี”

ภรรยาคุณอุกฤษณ์?
สิตาพัชญ์ : “ใจชื้นค่ะ ที่ผ่านมา เราต่อสู้มายาวนาน มันก็จบได้ซะที ตามที่เราคิดว่ามันควรจะเป็น เราพอใจ พวกเราทุกคนเคารพในกระบวนการศาลเคารพยึดมั่นการตัดสินของศาลอยู่แล้ว วันนี้ทางฝั่งจำเลยมีเงินไปวางเรียบร้อย เราก็ใจชื้น ดีใจ มันจะจบๆ ได้สักทีจริงๆ แล้วนะ”

จะเอาเงินไปทำอะไร?
สิตาพัชญ์ : “เรามีลูกหนึ่งคน ที่วางแผนไว้ อย่างแรกต้องเรียนให้ทราบว่าเลี้ยงลูกคนเดียวมา 9 ปี ก็ต้องหมุนเอา เหมือนขาดเสาหลัก ต้องชำระหนี้ตามกฎหมายให้ถูกต้องก่อน ที่เหลือจัดสรรให้ลูกเรียนหนังสือ ตามที่เขาจะเรียนให้ได้มากที่สุด ส่วนตัวก็พอมีแรงทำงานอยู่ ก็ดูแลตัวเอง ดูแลลูก ครอบครัวที่อยู่รอบข้าง ทางคุณอุกฤษณ์ก็ยังมีคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องช่วยดูแล”

คุณแม่น้องตอง ตอนนี้รู้สึกยังไง?
สุชาดา : “มันก็โล่งใจไปเปราะนึง ไม่ยืดเยื้อต่อ เราก็ไม่รู้ว่าต้องไปถึงบังคับคดีมั้ย มันอีกยาวไกลมาก ไม่รู้จะอยู่ถึงมั้ย จะรอไหวมั้ย”

ณ วันนี้ปลดล็อกไปเปราะหนึ่ง?
สุชาดา : “ใช่ค่ะ เงินก็ต้องเอาไว้ดำเนินการเลี้ยงชีพตัวเอง อาจจะลงทุนทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพราะอายุเยอะแล้ว ทำงานอื่นไม่ได้แล้ว ต้องไปวางแผนชวิต จะใช้อย่างระมัดระวัง เราถือว่าเป็นเงินเลือดของลูก”

หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เกิดการสูญเสียอีก?
สุชาดา : “สามีก็เสียหลังจากนั้นปีกว่าค่ะ ตอนนี้อยู่คนเดียว เราเป็นครอบครัวที่แยกออกมา แต่ก็มีญาติ มีพี่มีน้อง คอยดูแล ช่วยเหลือ จริงๆ เป็นแม่บ้านตลอด เพิ่งมาเริ่มทำงาน ตอนที่เขาเสียชีวิต”

คุณพ่อกับคุณแม่น้องป้าย จันจิรา วันนี้รู้สึกยังไง?
แม่ปิยะวรรณ : “ก็มีความรู้สึกดีๆ ให้ค่ะ มันจะได้จบเสียที มันนานขนาดนี้แล้ว ให้อภัยให้ได้ แต่เราก็ยังคิดถึงลูก (เสียงสั่นเครือ)”

พ่อสระโอด : “ก็เป็นการแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง เกือบสำเร็จแล้วทั้งสองฝ่าย ถ้าจ่ายหมดแล้ว จะได้ไม่มีอะไรต่อกัน ไม่มีพันธะเป็นคดีต่อกัน เป็นเพื่อนร่วมประเทศที่ดีต่อไป เงินจำนวนนี้จะเอาไปใช้จ่ายส่วนตัว เพราะตอนนี้ไม่ได้มีงานประจำ”

ตินติน ปลดล็อกมั้ย?
ตินติน : “ปลดล็อกนะ รู้สึกว่าวันนี้มาถึง เรารอมา 9 ปี ขอบคุณที่เขาก็เล็งเห็นเหมือนกันว่าไม่ควรไปบังคับคดี อยากเจอน้องมั้ย ส่วนตัวเฉยๆ ก็ให้อภัยน้องไปตั้งนานแล้ว”

คุณแม่ได้เงินด้วย?
ตินติน : “ได้ครับ แต่ไม่ได้เยอะมากมาย”

อยู่ในสายกับ “ลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” แม่แพรวา หลังนำเอาเช็กไปวางที่ศาล รู้สึกยังไง?
ลัดดาวัลย์ : “รู้สึกเบาใจไปค่ะ คลายกังวลไปหลายเปราะเลย อย่างน้อยมีเงินจำนวนนี้ไปเยียวยาช่วยเหลือทุกๆ ท่าน ตามศาลสั่งและตามใจที่เราอยากจะทำตั้งแต่ต้น แต่ต้องขอโทษด้วยที่อาจจะช้าไป การรวบเงินและทรัพย์สินของเรา หวังว่าทุกคนจะให้อภัยเข้าใจเรานะคะ”

มีอะไรอยากจะบอก?
ลัดดาวัลย์ : “อยากเรียนทุกท่านว่าที่ผ่านมา เราไม่ได้นิ่งดูดายทุกๆ เรื่อง พยายามทุกวิถีทางที่จะรวบรวมทรัพย์สินหรือขายของทั้งหลายเพื่อเยียวยา ไม่ได้นิ่งดูดายใดๆ เลยนะคะ หลายๆ ท่านอยู่ตรงนี้ ก็กราบขออภัยและขอขมาทุกๆ ท่าน แทนครอบครัวดิฉันและลูกสาว ถ้ามีสิ่งใดทำให้ท่านไม่สบายใจขออโหสิกรรมให้ดิฉันและครอบครัวด้วยค่ะ ขอความกรุณาค่ะ”

มีโอกาสที่อาจจะไปเยี่ยมด้วยตัวเองหรือพาน้องไปเจอผู้สูญเสียสักครั้ง?
ลัดดาวัลย์ : “คือที่ผ่านมาก็คิดนะคะ มีได้ไปพบเจอบางครอบคตัว แต่อาจไม่ครบ เดี๋ยวรอน้องหายดี แต่จะไม่ขอพูดว่าน้องเป็นอะไร เราได้เยียวยาครบหมดแล้ว จะขออนุญาตพาน้องไปหา หรือตัวคุณแม่ไปพบด้วยตัวเองอีกสักครั้ง ถ้าทางผู้เสียหายยินยอมนะคะ”

ยินยอมมั้ย ถ้าเขาจะขออนุญาต?
ป้าถวิล : “ขอบอกด้วยใจจริง เขาเคยไปหาแล้วที่วัด ไม่ต้องไปหรอก เสียเวลา ไม่ต้องไปแล้ว เสียเวลา เขายังทำบุญกับฉัน 3 หมื่น และไปแถมให้อีก 1 หมื่น ไม่ต้องไปแล้วค่ะ พอแล้วค่ะ ขอบคุณอย่างที่สุดแล้วกับเรื่องนี้”

สิตาพัชญ์ : “ที่บ้านไม่เคยมีใครโกรธ ถือโทษ เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อย่าเรียกว่าอโหสิกรรมเลยค่ะ เรียกว่าเราให้อภัย มองอีกมุมหนึ่งเราเป็นแม่เหมือนกัน การที่ลูกเราทำผิด เราก็สะเทือนใจส่วนหนึ่ง วันนี้ก็ขอบคุณที่ได้ทำตามที่ศาลท่านตัดสินให้ถึงที่สุด ส่วนจะไปที่บ้าน ทางคุณแม่น้องเคยไปแล้วครั้งนึงวันที่เผาศพ ไปเจอทางคุณพ่อคุณแม่คุณอุกฤษณ์ อันนี้เรียนให้ทราบว่าถ้าจะไปก็ไปได้ แต่ที่บ้านไม่มีใครถือโทษโกรธ”

ลัดดาวัลย์ : “กราบขอบพระคุณท่านค่ะ วันที่ไปศรีราชา ได้กราบคุณพ่อคุณแม่คุณอุกฤษณ์ ท่านก็มีเมตตา แต่ไม่มีโอกาสได้เจอภรรยาเราก็แอบๆ ไป ท่านก็กรุณาให้ขึ้นกราบท่านสุกฤษณ์ก็ขอบพระคุณค่ะ”

ทางน้องตอง?
สุชาดา : “ใจแม่นิ่งมานาน แม่ทำใจเรื่องนี้มานาน”

ลัดดาวัลย์ : “ตัวดิฉันเข้าใจและรู้สึกถึงความสูญเสีย เข้าใจเห็นใจและสงสารเหมือนกัน มีลูกสาวเหมือนกัน การสูญเสียลูกสาวไม่มีแม่คนไหนทำใจได้ง่ายๆ ยังไงก็กราบขออภัยอีกครั้ง วันนั้นไปที่วัดคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่พร้อมเราก็เข้าใจ แต่คุณลุงท่านก็เมตตาอนุญาตให้ไปกราบน้องตองได้ ก็ขอบคุณมาก ทางคุณพ่อคุณแม่ไม่พร้อมก็เข้าใจ ตอนนี้พร้อมมั้ยคะ ขอกอดสักครั้ง ขออภัยให้อภัยด้วยค่ะ”

สุชาดา : “แม่ยังทำใจไม่ได้ค่ะ”

ให้เวลาเยียวยาความรู้สึกอีกสักพัก?
ลัดดาวัลย์ : “ได้ค่ะ เราเคารพและให้กียรติคุณแม่ มีความเห็นใจอยู่ตลอดค่ะ ไม่มีความรู้สึกไม่ดีต่อกันเลย เราเสียใจอยู่ตลอดนะคะ”

คุณพ่อแม่น้องป้าย?
ลัดดาวัลย์ : “เพิ่งมีโอกาสคุยโทรศัพท์กันครั้งนึง แล้วส่งตัวแทนไปหา แม่ก็ขออภัยด้วย ที่สองสามวันแรกไม่สามารถไปได้ครบทุกงาน ก็เป็นความบกพร่องของดิฉันเอง ขอเสียใจด้วยที่การเยียวยาช้านิดนึง แต่ไม่คิดหลบเลี่ยงค่ะ”

แม่ปิยะวรรณ : “ดิฉันคิดว่าการไปที่บ้าน มันก็ลำบาก เพราะมันอยู่ไกล แต่ถ้ามีความกรุณา ได้ไปเห็นสภาพที่อยู่น้องป้ายสักครั้งจะดีค่ะ เพราะไม่เคยพบหน้าเลยค่ะ”

ลัดดาวัลย์ : “ขอบคุณมากค่ะที่ให้เกียรติ ถ้ามีเบอร์ตรงคุณแม่ รบกวนฝากไว้ที่คุณหนุ่มได้มั้ยคะ จะได้ไปหาถึงบ้านเลย ต้องขอโทษและขออภัยอีกครั้งนะคะ”

พ่อสระโอด : “อันนี้ก็ใช้เวลานาน บางครั้งก็ลืมๆ ไป แต่การถือโทษโกรธกัน ผมพยายามให้อภัยทุกคน ที่กลับเนื้อกลับตัวได้ เพราะผมก็สอนลูกศิษย์มาหลายรุ่น ได้เห็นมีอนาคตแจ่มใสหลายคน สำหรับผมก็ขอขอบคุณที่ทางฝ่ายแพรวาให้ความร่วมมือ คดีจะได้ยุติสักที”

ลัดดาวัลย์ : “ต้องขอบพระคุณท่านด้วยที่กรุณาค่ะ คุณพ่ออนุญาตมั้ยคะ ถ้าจะไปเยี่ยมที่บ้าน ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ”

พ่อสะโอด : “ยินดีครับ”

ตินติน?
ตินติน : “เหมือนทุกท่าน ผมไม่ได้ถือโทษโกรธน้อง ตัวผมเอง ก็ให้อภัยน้องมาตั้งแต่ต้น และพูดตลอดว่าไม่ได้โกรธน้องเลย เข้าใจว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ผมต้องขอบคุณทางครอบครัวด้วย ที่เห็นตรงกันว่าไม่ควรไปถึงขั้นบังคับคดี และมีการทำตามคำพิพากษาที่ครอบครัวได้พูดไว้ และขอโทษน้องด้วยที่มีการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของน้อง ซึ่งผมเองเสียใจ และไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น”

ลัดดาวัลย์ : “ต้องขอบคุณน้ำใจอันงดงาม และเมตตาครอบครัวเรา เราซาบซึ้งใจ ต้องขอโทษอีกครั้ง ให้ขอโทษทุกวันก็ทำได้เสมอ ขอบคุณน้ำใจอันงดงามของทุกท่านด้วยค่ะที่มีให้กัน”

เงินอีก 8 แสนที่เหลืออยู่?
ลัดดาวัลย์ : “ไม่ช้าค่ะ เดี๋ยวรวบรวมไปให้ พอดีผิดพลาดทางขั้นตอนนิดนึง และขอบคุณคุณหนุ่มที่กรุณาให้เราประสาน ที่ผ่านมาไม่ได้รับการประสานที่ถูกต้อง”

อยู่ในสายกับ “ท่านโอภาส อนันตสมบูรณ์” ผู้พิพากษาศาลแพ่ง อยู่กับผู้เสียหายบางส่วน อยากรบกวนปรึกษา ในส่วนเงิน เช็คที่เอาไปวาง พรุ่งนี้ให้ผู้สูญเสียไปพบยังไง ?
โอภาส : “ขั้นแรกชื่นชมคุณหนุ่มที่เป็นคนคอยประสานงานนำค่าเสียหายมามอบให้ผู้เสียหายทั้งหมด วันนี้มีการนำเช็คมาวางสองฉบับแล้ว ขอเรียนอย่างนี้ว่าเนื่องจากเงินเช็คสองฉบับ ขาดอยู่ 8 แสนกว่าบาท ถ้าจะจ่ายตอนนี้ก็จะติดปัญหาว่าบางคนได้ครบบ้างได้ไม่ครบบ้าง

ก็มองว่าตอนนี้ผู้เสียหายนำเงินอีก 8 แสนมาวางศาลภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า อยากให้ผู้เสียหายรวมตัวกันมาและมารับได้เลย ผมจะดำเนินการให้โดยด่วน ทราบว่าทุกคนก็ได้รับความเดือดร้อน ได้เงินเร็วก็ยิ่งดี เมื่อไหร่ศาลแพ่งยินดีจะทำให้”

ทางศาลจะออกเป็นเช็คหรือเงิน?
โอภาส : “เรื่องเป็นเช็คหรือนำเงินเข้าบัญชี แล้วแต่ผู้เสียหายสะดวก จะนำเลขบัญชีมาให้หรือให้ศาลออกเช็คให้ ก็สามารถออกได้เลยครับ”

มีใครอยากถามอะไรมั้ย?
ตินติน : “ขอบคุณแล้วกันครับ ขอบคุณทุกๆ ศาลที่เราได้ร่วมเข้าไป ทุกๆ ท่าน พี่หนุ่ม ทุกคนที่ตั้งใจ พยายามเร่งรัดคดีนี้ให้เร็วที่สุด ถือว่าเป็นความโชคดีของพวกเราที่ทุกคนสนใจ และช่วยพวกเรา ขอบคุณนะครับ”

โอภาส : “อยากให้คุณหนุ่มช่วยประสานฝ่ายจำเลยว่าเงินส่วนที่เหลือหากนำมาวางได้เร็วเท่าไหร่ เราก็สามารถจัดการดำเนินการจ่ายให้ผู้เสียหายได้เลย เพราะมาถึงศาลแล้ว เรามีบัญชีอยู่แล้วว่าแต่ละรายได้รับเงินต้นเท่าไหร่ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ขอให้ติดต่อมาที่ผมหรือท่านผอ. หรือศาลแพ่งก็ได้ เราพร้อมดูแลให้ พอทราบว่าทุกคนรอคอยมายาวนานแล้ว มีความเดือดร้อน”

ควรไปพร้อมกัน?
โอภาส : “ไม่จำเป็นครับ แล้วแต่สะดวก เนื่องจากผู้สียหายมีจำนวนมาก บางท่านอาจมาได้ไม่ได้ก็แล้วแต่ แต่ถ้ารวมตัวมาได้ก็จะดี ผู้เสียหายตอนนี้มีอยู่ 26 ท่าน ก็ขอบคุณมากครับ”

พี่เดชา จบมั้ย?
เดชา : “ก็ขาดอีก 8 แสน เดี๋ยวจะคุยกับทางจำเลยให้ ในฐานะที่เป็นทนายความ จะพยายามเจรจา ผมคิดว่าเอาเงินมาวางก็จบ เดี๋ยวผมจะประสานจำเลย ประสานคุณหนุุม คุยกับแม่แพรวา จะเอาเงินไปวางเร็วๆ นี้แหละ แต่ก็อยากฝากโซเชียลที่คอยขุดคอยด่าเขาก็เบาๆ ลงหน่อย เขาเอาเงินมาชำระแล้ว เขาปฏิบัติตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้ว”

ตินติน คิดว่าวันนี้จบมั้ย?
ตินติน : “ก็จบครับ สำหรับผมปลดล็อก คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่รอมา”

คุณแม่บอกว่าไม่ได้โกรธ ไม่ได้อะไรแล้ว แต่ ?
สุชาดา : “แต่ทำใจไม่ได้ คือความรู้สึกโกรธมันจางแล้วเพราะมันนาน ถ้าใหม่ๆ คือโกรธมาก ตอนนี้มันจางไป แต่ก็ยังไม่อยากเจอ”

สิตาพัชญ์ : “ถ้าโกรธ ก็คงไม่โกรธแล้วแหละ เพราะที่บ้านไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย เพียงแต่ว่าที่ทำให้เรายังทุกครั้งคือว่าคิดถึง ความคิดถึงคนในครอบครัวที่จากไปมันอยู่แล้ว”

ตินติน : “ขอบคุณทุกสื่อ ทุกคน รวมถึงทุกรายการ ทุกช่อง โซเชียลมีเดีย ที่เป็นกำลังใจให้พวกเรา ถ้าไม่มีพวกท่าน เราก็คงไม่ได้เสร็จรวดเร็วขนาดนี้ คงต้องรออีกนาน ขอบคุณพี่หนุ่ม และขอบคุณทนายเดชาด้วย ที่ทำให้เรื่องมันสิ้นสุด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน