ผบ.ทบ.”บิ๊กเจี๊ยบ”แสดงความรับผิดชอบ ขอโทษสังคม คดีพลทหารถูกซ้อมดับขณะถูกขังในคุกทหาร ยอมรับจุดดำ เรื่องฝึกวินัยที่เข้มข้น แต่ปัจจุบันน้อยลงแล้ว ลั่นจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ขีดเส้นดำเนินการทั้งวินัยทหารและคดีอาญาโดยไม่ปกป้อง สั่งแม่ทัพภาคที่ 4 ดูแลครอบครัว-สิทธิประโยชน์ -งานศพให้เรียบร้อย ด้านผบ.มทบ.45 สั่งเด้งร.ท.ผู้ช่วยผบ.เรือนจำ-สิบเวรในวันเกิดเหตุมากักบริเวณแล้ว เพื่อไม่ให้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ตำรวจสอบพยานไปแล้ว 4 ปาก เตรียมเช็กกล้องวงจรปิด-พยานแวดล้อม พร้อม ใช้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักฐานเอาผิด

ความคืบหน้าคดีพลทหารยุทธกินันท์หรือเบนซ์ บุญเนียม อายุ 22 ปี ทหารกองประจำการ ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตขณะนำตัวรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และญาติสงสัยว่าถูกทำร้ายระหว่างถูกกักขังในเรือนจำทหาร มณฑลทหารบกที่ 45 เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหาร

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 เม.ย.ที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากพนักงานสอบสวน เรียกนางเรณู หมดราคี มารดาของพลทหารยุทธกินันท์ เพื่อนพลทหาร ผู้คุมเรือนจำ และผู้เกี่ยวข้องเข้าสอบปากคำไปแล้วรวมสี่ปาก ซึ่งมารดาผู้ตายยังยืนยันว่าลูกชายของตัวเองถูกทำร้ายภายในเรือนจำอย่างแน่นอน แต่ยังคงต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมาเพื่อสอบปากคำอีกหลายปาก ส่วนผลตรวจชันสูตรทางด้านวิทยา ศาสตร์ที่ต้องตรวจอย่างระเอียด ยังคงต้องรอผลการตรวจจากทางโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อยืนยันถึงสาเหตุของการเสียชีวิต ที่จะนำมาประกอบสำนวนคดีต่อไป โดยเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี

ต่อมา พล.ต.ต.อภิชาติ เปิดเผยว่า การสอบ สวนปากคำพยานขณะนี้สอบไปแล้วจำนวน 4 ปาก ท่าทีของพยานที่ได้เชิญตัวมาสอบ ไม่ได้มีความหวาดกลัว หรือร้องขอคุ้มกัน รวมถึงนางเรณู ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูป คดีเป็นอย่างมาก ทำให้มีความคืบหน้า ทั้งนี้ได้ผลการสอบสวนพยานมาวิเคราะห์และตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะประเด็นที่มารดาของผู้เสียชีวิตเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ว่า ทราบว่าบุตรชายถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนนั้น ได้เร่งรัดให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ในห้วงเวลาที่มีการ กล่าวอ้าง รวมทั้งติดตามพยานบริเวณดังกล่าวมาสอบสวน เพื่อระบุให้ได้ว่า ที่บริเวณดังกล่าว มีเหตุทำร้ายร่างกายกันจริงหรือไม่

พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวด้วยว่าคดีดังกล่าวคาดว่าจะต้องสอบสวนปากคำพยานและ ผู้เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 30 ปาก โดยเฉพาะพยานบุคคลจาก มทบ.ที่ 45 แต่ไม่หนักใจ เพราะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผบ.มทบ.ที่ 45 สำหรับพยานหลักฐานที่สำคัญในคดีนี้ จะใช้พยานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ การตรวจชันสูตรของนิติเวช ได้ตรวจเก็บดีเอ็นเอบนร่างกายของผู้เสียชีวิต เพื่อประกอบกับพยานหลักฐานอื่นๆ และพยานบุคคล มั่นใจ ว่าจะสามารถคลี่คลายคดี และหาผู้กระทำผิดมารับโทษทางกฎหมายได้อย่างแน่นอน

ต่อมาเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารจากมณฑลทหารบกที่ 45 ได้นำพยานพลทหารที่พ้นโทษจากเรือนจำทหาร เมื่อวันที่ 31 มี.ค.คือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวน 3 ราย และผู้ช่วยสิบเวรอีก 1 ราย เข้าพบคณะพนักงาน สอบสวน เพื่อให้ปากคำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 เม.ย. พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผบ.มทบ.45 พร้อมทหารจากค่ายวิภาวดีรังสิต ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 40/1 หมู่ 4 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพพลทหารยุทธกินันท์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สัสดี และฝ่ายปกครองในพื้นที่เข้าร่วมพิธีด้วย

หลังจากเสร็จพิธี พล.ต.วิชัยได้มอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นแก่ตัวแทนครอบครัว เนื่องจากนางเรณู ยังติดสอบปากคำ ที่มี พ.ต.อ. วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้าคณะ และเชิญสหวิชาชีพ ประกอบ ด้วย นายทหารพระธรรมนูญ ฝ่ายปกครอง และอัยการ เข้าร่วมด้วย สำหรับกำหนดการวันตั้งบำเพ็ญกุศลศพและวันฌาปนกิจนั้น นางเรณูยืนยันจะไม่เผา หากเหตุการณ์ทั้งหมดยังไม่กระจ่าง และหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ให้ความเป็นธรรมกับบุตรชายไม่ได้

นอกจากนี้ พล.ต.วิชัย มีคำสั่งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ให้ร.ท.ฐิติกานต์ เวชสิทธิ์ ผช.ผบ.รจ. รรก.ผบ.รจ. ในฐานะผู้ดูแลเรือนจำทหาร มทบ.45 และส.อ.สุรเชษฐ์ พรหมมาศ สิบเวรคืนวันเกิดเหตุ ไปช่วยราชการที่มณฑลทหารบกที่ 45 เพื่อไม่ให้เป็นการยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน และให้การทำงานของกระบวนการสืบสวนสอบสวน มีความโปร่งใส เป็นธรรม

ด้านคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ ซึ่งมี พ.ต.อ.วิชอบ เป็นหัวหน้าคณะ สหวิชาชีพ ประกอบด้วย นายทหารพระธรรมนูญ ฝ่ายปกครอง และ อัยการ ซึ่งได้สอบพยานไปแล้วจำนวน 3 ปาก ซึ่งต้องใช้เวลาในการสอบ พยานในแต่ละคน ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง และยังมีพยานที่ต้องสอบอีกเป็นจำนวนมาก

ที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า มทบ.45 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งคาดว่าภายใน 2 วันจะทราบผลว่าใครกระทำผิด ซึ่งกองทัพจะนำมาลงโทษ แต่ขณะนี้ต้องดำเนินการเยียวยาญาติของผู้เสียชีวิต โดยการดูแลงานศพ รวมถึงสิทธิต่างๆ ที่จะได้รับ ส่วนเรื่องการสอบสวนจะเป็นหน้าที่ของตำรวจร่วมกับทหาร เราจะเอาคนผิดมาให้ได้ จะให้ความยุติธรรม และจะดูแลให้ดีที่สุด เรื่องการจัดพิธีศพให้เรียบร้อย เพื่อให้มารดามีความสบายใจ และค่อยมาดูในเรื่องของความผิดที่เกิดขึ้นว่าใครเป็นผู้กระทำ ซึ่งขณะนี้ได้กักบริเวณผู้ที่เกี่ยว ข้องไว้ทั้งหมดแล้ว และให้ตำรวจสอบปากคำในชั้นต้น และในส่วนของทหารจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบร่วม เพื่อชี้มูลความผิดทั้งทางด้านวินัยทหารและคดีอาญา

ด้านพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่าตนขอแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัวของพลทหารที่เสียชีวิตในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในรายละเอียดอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการสอบสวน ในส่วนของตน รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และต้องขอโทษสังคมด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นนโยบายหลักของตน ที่ได้สั่งการไม่ให้มีการทำร้ายร่างกาย โดนเฉพาะพลทหาร และได้เน้นย้ำในที่ประชุมหลายครั้ง เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ก็จะดำเนิน การตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนโดย ไม่ละเว้น รวมทั้งการพิจารณาโทษทางวินัยกับ ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นในฐานไม่กำกับดูแล ซึ่งให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม โดยไม่เข้าไปแทรกแซง

“ผมต้องขอโทษสังคมอีกครั้งที่เกิดกรณีดังกล่าว อาจเรียกได้ว่าติดนิสัยมาตั้งแต่ในสมัย อดีตในเรื่องของการฝึก เนื่องจากการฝึก พลทหารเพื่อไปทำหน้าที่ดูแลในพื้นที่ชายแดน จึงเข้มงวดกวดขัน และมีการฝึกการจัดระเบียบ วินัยที่หนักและลงโทษค่อนข้างรุนแรง ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ในปัจจุบันค่อยๆ คลายตัวลงไปแล้ว และมีกรอบการฝึกที่เหมาะสม แต่ก็ยังมีจุดมืดจุดดำอยู่ ซึ่งผมพยายามจะแก้ไข เพราะผมถือว่า เป็นเรื่องที่ผมต้องรับผิดชอบตรงนี้ ไม่ให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว

ผบ.ทบ.กล่าวว่า ในแต่ละปีมีน้องๆ พลทหาร ที่เข้ามาอยู่ในกองทัพประมาณแสนกว่าคน ตนเองพยายามเน้นย้ำทุกจุด แต่จุดที่เกิดเรื่องเป็นจุดที่อยู่ในเรือนจำ การรู้เห็นของคนมีน้อย ไม่เหมือนตามโรงนอนที่มีการฝึก มีผู้รับผิดชอบ ดูแลชัดเจน ผู้บังคับหน่วยกำกับดูแลชัดเจน และยืนยันว่ากรณีดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบต่อการตรวจเลือกทหารปีนี้ สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้เพียงแต่ว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะชี้แจงและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไร ซึ่งตรงนี้ตนยินดีในการรับผิดชอบและ ดูแลในสิ่งที่เกิดขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน