เปิดใจ 2 ฮีโร่ ช่วยชีวิต น้องปลาวาฬ หลังเกิดอาการชักเกร็งจนหมดสติขณะพ่อและแม่กำลังขับรถฝ่ารถติดไปส่งโรงพยาบาล เผย “อาหารยังสามารถอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ แต่ว่าชีวิตคน รอไม่ได้”

จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ Ployly M Kaewya โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถยนต์ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พ่อและแม่กำลังขับรถพา น้องปลาวาฬ ที่มีอาการป่วยชักเกร็ง อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก ฝ่ารถติดเพื่อไปหาหมอให้ทันซึ่งเป็นนาทีชีวิต โดยได้คนขับแกร็บฟู้ดที่จอดช่วยบริเวณกลางสะพาน และคนขับวินจักรยานยนต์ที่อุ้มลูกข้ามสะพานลอยไปส่งห้องฉุกเฉินได้ทัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่ซอยรามอินทรา 83 นายวัชระ เกษียร อายุ 33 ปี หนุ่มแกร็บฟู้ดใจดี เปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ หลังจากที่ตัดสินใจจอดรับจอดรับ น้องปลาวาฬ ที่กำลังป่วยหนักไปส่งที่โรงพยาบาล ว่า ในวันนั้นเวลาประมาณ 13.00 น. ตนกำลังขับรถจักรยานยนต์ไปส่งพิซซ่าให้ลูกค้า ซึ่งขณะนั้นกำลังขับขึ้นสะพานบริเวณถนนรามอินทรา กม.8 และเห็นรถเก๋งคันหนึ่งขับปาดหน้า เราจึงเปลี่ยนมาขับเลนขวา

นายวัชระ และ นายตะวัน 2 ฮีโร่ที่เข้าให้การช่วยเหลือ น้องปลาวาฬ จนได้รับความปลอดภัย

นายวัชระ และ นายตะวัน 2 ฮีโร่ที่เข้าให้การช่วยเหลือ น้องปลาวาฬ จนได้รับความปลอดภัย

นายวัชระ กล่าวต่อว่า จากนั้นรถคันดังกล่าว ก็ขับรถปาดหน้าอีกรอบ ตนจึงได้ชะลอรถแล้วกำลังจะเปลี่ยนเลนหนี แต่เห็นว่า มีผู้ชายคนหนึ่งโบกรถ แล้วก็ตะโกนขอความช่วยเหลือบอกว่า ลูกกำลังไม่สบาย ซึ่งตนเห็นว่าแม่กำลังอุ้มลูกที่อาการไม่ค่อยดีลงจากรถ ส่วนแม่ก็อยู่ในอาการตกใจมาก เรามองเด็กเห็นว่าไม่มีสติแล้ว จึงได้บอกกับแม่เด็กให้พาขึ้นรถมา

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ตอนนั้นเอง รถของเรามันมีกระเป๋าสำหรับใส่อาหารอยู่ ถ้าเอาออกมันก็เสียเวลามาก เลยบอกให้แม่นั่งทับอาหารไปเลยเดี๋ยวจะไม่ทัน จากนั้นเราก็รีบขับมา และตอนนั้นรถติดมาก เราเลยนึกขึ้นได้ว่า ปากซอยรามอินทรา 83 มีวินจักรยานยนต์อยู่ จึงขับไปที่นั้น เพราะว่าถ้าหากเราจะไปยูเทิร์นรถ ก็กลัวจะไม่ทัน พอถึงปากซอย เราตะโกนขอให้คนช่วยอุ้มน้องไปส่งที่โรงพยาบาล ก็มีวินจักรยานยนต์คนหนึ่งอุ้มน้องแล้ววิ่งข้ามสะพานลอยไปส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา” นายวัชระ กล่าว

หนุ่มแกร็บฟู้ด กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น ตนก็ไปส่งพิซซ่าให้กับลูกค้าตามปกติ ซึ่งพอถึงบ้านลูกค้าสภาพกล่องพิซซ่าก็ยับเยิน ในใจคิดว่าพิซซ่าหน้าต้องเละเทะมาก ตนไม่กล้าเปิดดู พอส่งกล่องพิซซ่าให้ลูกค้า ลูกค้าก็มองหน้าอย่างแปลกใจ พร้อมถามว่า “มีอะไรหรือเปล่า” เราจึงบอกให้ลูกค้าเปิดดูเอาเอง พอเปิดออกมาพิซซ่าเละเทะมากจนลูกค้าทำหน้าเซ็ง เราจึงอธิบายให้ลูกค้าฟังว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นพร้อมทั้งขอโทษลูกค้า

นายวัชระ กล่าวว่า ลูกค้าจึงบอกกับตนว่า คงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ จากนั้น ตนก็โทรหาทางบริษัทแกร็บฟู้ด เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง เพราะกลัวจะโดนต่อว่า แต่ทางบริษัทบอกจะชดใช้ค่าเสียหาย พิซซ่าให้กับลูกค้าเอง ทั้งนี้ วันต่อมาตนขับรถมาที่หน้าซอยรามอินทรา 83 เพื่อมาถามวินจักรยานยนต์ว่าอาการของน้องเป็นยังอย่างไรบ้าง แล้วจากนั้นแม่ของน้องปลาวาฬก็โทรมาขอบคุณตน

นาทีหนุ่มแกร็บฟู้ดช่วยเหลือ น้องปลาวาฬ บนถนนย่านรามอินทรา กม.8

นาทีหนุ่มแกร็บฟู้ดช่วยเหลือ น้องปลาวาฬ บนถนนย่านรามอินทรา กม.8

 

“ผมดีใจมากที่เห็นว่าน้องปลอดภัยแล้ว ตอนนั้นผมตัดสินใจถูกที่ช่วยเหลือชีวิตคนไว้ อาหารก็สำคัญ แต่ว่าชีวิตคนสำคัญกว่า ผมคิดว่าอาหารยังสามารถอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ แต่ว่าชีวิตคน รอไม่ได้ ที่ผ่านมาเราก็มีโอกาสได้ช่วยเหลือคนแบบนี้บ่อย เช่น ช่วยเข็นรถไปเติมน้ำมันให้ ช่วยเหลือคนรถเสีย เพราะเราเห็นว่าเขาเดือดร้อน อะไรที่ช่วยได้ เราก็ช่วย” หนุ่มแกร็บฟู้ด กล่าว

ด้าน นายตะวัน คนขับจักรยานยนต์รับจ้างที่ช่วยอุ้มน้องปลาวาฬส่งโรงพยาบาล กล่าวว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุตนนั่งอยู่ที่วินแล้วเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งจอด แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือให้ช่วยเด็กที่อยู่ข้างหลัง ตอนนั้นตนเข้าใจว่าสามีภรรยาทะเลาะกัน แต่พอเห็นเด็กสภาพไม่ค่อยดีนัก เหมือนหมดสติแล้ว ตาลอย เนื้อตัวอ่อน ก็เลยรีบวิ่งไปอุ้มขึ้นสะพานลอยไม่ได้ฟังใครเลย ตอนนั้นคิดว่าต้องรีบอุ้มน้องไปส่งที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หลังจากนั้น ก็มีญาติของน้องเดินข้ามสะพานลอยมาหาเรา แล้วขอบคุณ พอเรารู้ว่าเด็กที่เราช่วยอาการปลอดภัยแล้ว เราก็ดีใจมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน