การบินไทย แจ้งจับเอง หลักฐานคาตาแอร์โฮสเตส ซุกแบรนด์เนมเต็มตัว เสื่อมองค์กร!

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่ ศุลกากรได้ตรวจจับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงของการบินไทยที่นำสินค้าเกินจำนวนที่ศุลกากรกำหนดเข้าประเทศและเลี่ยงการเสียภาษีอย่างถูกกฏหมาย โดยเดินทางมาจากประเทศอิตาลีว่า กรณีนี้การบินไทยเป็นคนชี้เป้าให้ศุลกากรดำเนินการจับกุมเอง

เนื่องจากขณะนี้ผู้บริหารการบินไทยและผุ้ใหญ่อีกหลายๆคน ทั้งหมดมีนโยบายที่ชัดเจนและค่อนข้างซีเรียสว่าจะต้องจัดการกับเรื่องการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายเข้ามาไทยอย่างจริงจัง เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับองค์กรมาก

โดยกรณีของลูกเรือหญิงคนนี้ได้รับรายงานว่าเป็นการลักลอบนำเข้าสินค้ามาจากมาจากมิลาน เท่าที่ดูจากข่าวจะเห็นภาพว่าหลักฐานมันฟ้องคาตามากหากทำผิดจริง โทษของบริษัทคือไล่ออกสถานเดียว เราจะไม่มีความเมตตาและข้อยกเว้นอะไรทั้งสิ้น

“ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เคสแรก และไม่ใช่เคสสุดท้าย มันเกิดขึ้นมาตลอด ไม่ใช่เฉพาะสายการบินไทยเท่านั้น ซึ่งการบินไทยมองว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ผิดกฎหมายจับได้ต้องไล่ออกอย่างเดียว มันเป็นความผิดของตัวบุคคล แต่กลับทำให้ภาพลักษณ์องค์กรเสื่อมเสีย ขณะที่ตอนนี้พวกลูกเรือที่ดีๆ ก็กำลังออกมาแสดงความเห็นและตำหนิพฤตกรรมนี้กันอย่างกว้างขวาง เพราะสร้างความเสื่อมเสียให้กับอาชีพเค้าด้วย ซึ่งการบินไทยจะต้องพยายามสร้างจิตสำนึกเรื่องนี้ให้มากขึ้น เราจะไล่จับชี้เบะแสไปเรื่อยๆถ้ายังมีพฤติกรรมแบบนี้เกิดอีก”

รายงานข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงกรณี่ที่ก่อนหน้านี้ มีสจ๊วตของการบินไทยรายหนึ่ง ลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าและตัวบุหรี่ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปผลการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วโดยพบว่าสจ๊วตดังกล่าวกระทำผิดจริง และคาดว่าจะมีคำสั่งไล่ออกพนักงานคนดังกล่าว โดยในการสอบสวนช่วงแรกสจ๊วตปฏิเสธการกระทำผิด แต่การบินไทยได้ทำเรื่องขอภาพในกล้องซีวีทีวีจากสนามบินนาริตะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า พบว่าสจ๊วตคนดังกล่าวได้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน