สาวช็อก ไปรษณีย์หื่น ล้วงเบอร์โทรลูกค้า ขณะรับของ แชทคุกคามทางเพศ ต้นสังกัดแค่เตือน!
เป็นเรื่องคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการไปรษณีย์ไทย เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่เป็นหญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์ภาพบทสทนาทางไลน์ จากบุรุษนิรนาม พร้อมเล่าเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นกับเธอความว่า วันนี้เราไปรับของที่ไปรษณีย์ พอกลับมาถึงบ้านมีไลน์ของใครก็ไม่รู้ทักเข้ามาถามไปถามมาจึงได้รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ที่จ่ายของให้เรา สำหรับเราคือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ไม่ไหวๆเกินไปจริงๆ
ต่อมาหญิงสาวคนดังกล่าว โพสต์ต่อว่า ล่าสุดเมื่อกี้เขาโทรมาขอโทษแล้วบอกว่าไม่คิดว่าเรื่องจะถึงสำนักงานใหญ่ แล้วยังบอกว่าไม่ได้ใช่คำพูดที่ทำให้เสียหาย นี่ก็เลยบอกไที่ทำอะไม่สร้างความเสียหายเลยหรอ พนักงานคนนั้นก็ขอโทษอย่าเดียวเลยเราก็ไม่ได้อะไรแล้วถึงคุยต่อก็คงจะเเค่ขอโทษ เราก็เลยตอบค่ะแล้วก็วางสายเลย
ต่อมา ทวิตเตอร์ของ ไปรษณีย์ไทย ได้เข้ามาขอข้อมูลจากสาวคนดังกล่าว พร้อมเขียนระบุว่า ได้แจ้งเรื่องโดยตรงกับผู้บังคับบัญชา ของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเพื่อตักเตือน และหากพบพฤติกรรมเช่นนี้อีกจะดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อไปครับ ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทย ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างสูงด้วยครับ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ขณะที่ ‘อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล’ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ต แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า ให้เบอร์โทรศัพท์ บัตรประชาชนกับไปรษณีย์ตอนรับส่งของแล้วได้อะไร ได้สิ่งนี้ไง ควรเลิกเก็บเบอร์โทร/เลขประจำตัวประชาชน เวลารับส่งของได้แล้ว
ถ้าต้องการยืนยันตัวตนตอนรับของ ก็แค่แสดงบัตร ตรวจสอบ จ่ายของ แค่นี้ก็จบ ไม่ต้องเก็บไว้ในระบบให้เสี่ยงหลุดรั่วหรือถูกละเมิดแบบนี้
Lazada Wallet นี่ก็โหด วันก่อนจะใช้เงินที่ค้างอยู่ใน wallet มันบอกให้ยืนยันตัวตน ซึ่งนอกจากจะต้องกรอกเลขประจำตัวประชาชนแล้ว ยังต้องกรอก “Laser ID” หลังบัตรอีก โอ้โห จะเอาไปทำไมมากมาย ตอนเติมเงินก็เติมด้วยบัตรธนาคาร ดังนั้นถ้าอยากยืนยันสืบหาอะไรก็ตาม ก็เอาจากธนาคารได้ Lazada ไม่มีความจำเป็นต้องเอาข้อมูลไปเลย
ส่วน Grab Wallet by KBank กสิกร นี่ถามเงินเดือน ที่ทำงาน อาชีพ จะรู้ไปทำไม แค่จะจ่ายเงินค่ารถ BTS/Rabbit ก็เหมือนกัน
บริษัทพวกนี้ไม่เคยคิดจะตั้งคำถามกับหน่วยงานกำกับกิจการ ว่าจะให้เก็บไปทำไม ผู้บริโภคเดือดร้อน แต่ถ้าเป็นอะไรที่ตัวเองจะเสียประโยชน์นี่ก็พร้อมจะไปล็อบบี้วิ่งเต้น
คือการสู้เพื่อผู้บริโภคนี่ไม่เคยอยู่ในหัว กรณีนี้นี่เผลอๆ ตามน้ำ จะได้อ้างกฎหมายฟอกเงินเพื่อเก็บข้อมูลไปใช้ด้วยเนียนๆ ข้อมูลส่วนบุคคลมีผลกับชีวิตคน ต้องใช้เฉพาะที่จำเป็น ไม่ใช่เก็บแบบ “เผื่อไว้ก่อน”
