“บิ๊กตู่” ขอบคุณประชาชนให้ความร่วมมือจนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ ลดลงร้อยละ 20 ศปภ.สรุปอุบัติเหตุ 6 วัน ตาย 335 ศพ เจ็บ 3.5 พันคน จับเมาขับ 3.7 แสนคน ยึดรถ 6.5 พันคัน หนุ่มเมืองชาละวันโร่มอบตัวคดีบึ่งปิกอัพจะชนนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ขณะไปแจ้งให้เลิกเล่นน้ำ ส่วนสาวอุดรฯ ที่ถูกไฟ ชอร์ตดับคาปาร์ตี้โฟม สามีชาวเมืองผู้ดียังทำใจไม่ได้ ส่วนแม่คนตายบอกอนาคตที่หวังไว้ทลายไปพร้อมชีวิตลูกสาว

 

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 17 เม.ย.เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 5 วัน ทำให้มีปริมาณรถยนต์บนท้องถนนทั้งสายหลักและสายรองทั่วประเทศจำนวนมากเดินทางกลับกรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ขอให้ประชาชนขับขี่รถมีสติ ไม่ประมาท ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารสาธารณะ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามร่วมกันกวดขันวินัยจราจรและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ เพื่อให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

 

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา อันดับ 1 ขับรถเร็วเกินกำหนด รองลงมาคือ คนหรือรถตัดหน้ากระชั้นชิด และเมาสุรา โดยรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ตามด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล และรถปิกอัพบรรทุก 4 ล้อ อย่างไรก็ดี จำนวนผู้เสียชีวิตเมื่อเทียบกับปี 2559 ลดลงเกือบร้อยละ 20 ซึ่ง เกิดจากความร่วมมือของประชาชน รวมทั้งมาตรการและการรณรงค์ของรัฐ เช่น ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร และดื่มไม่ขับ จับยึดรถ

 

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า นายกฯ ฝากขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือและเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปประมวลผลข้อมูลการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในภาพรวม เพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบอย่างจริงจังว่าอะไรคือสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุและควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อต้องเดินทาง โดย ยกระดับให้เป็นเรื่องสำคัญของประเทศที่ต้องเร่งแก้ไข จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันมาใส่ใจและผนึกกำลังกันสร้างมิติใหม่ของสังคม เพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย ลบสถิติการเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุดอันดับ 2 ของโลกให้ได้ด้วยความร่วมมือของทุกคน

 

ที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นพ.โศภณ นภาธร ผู้ช่วย รมว.ศึกษา ธิการ แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ เกิดอุบัติเหตุ 403 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย บาดเจ็บ 427 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิด อุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ ร้อยละ 37.72 ขับรถเร็ว ร้อยละ 31.02 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติ เหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.58 รถกระบะ ร้อยละ 8.37 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี 17 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี 16 คน

 

สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 6 วัน ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 3,388 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 335 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,506 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ นราธิวาส พังงา ภูเก็ต แม่ฮ่องสอน สมุทรสงคราม และอำนาจเจริญ ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ ได้แก่ ชัยภูมิ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 153 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 17 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 160 คน

 

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงการเดินทางกลับ พบว่า อุบัติเหตุบนเส้นทางสายหลัก ซึ่งเป็นถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และกว่าร้อยละ 54.66 ของผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นบนถนนทางหลวง วันนี้คาดว่าเส้นทางสายหลักจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายและเฉี่ยวชน ศปถ.กำชับจังหวัดให้เพิ่มความถี่ ในการจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก เพื่อชะลอความเร็วรถและป้องกันการแซง ในระยะกระชั้นชิด รวมถึง เข้มข้นการดูแล จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ

 

วันเดียวกัน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. แถลงสถิติการตรวจพบ ผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ ในวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ในส่วนรถจักรยาน ยนต์ 85,009 ครั้ง ยึดรถไว้ 1,013 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 45,929 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 57,719 ครั้ง ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 581 ใบ ยึดรถยนต์ 319 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 29,304 คน

 

รวม 5 วัน ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. พบการกระทำความผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 325,013 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ 274,309 ครั้ง ยึดรถ 6,544 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 4,982 คัน และรถยนต์ 1,562 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 210,513 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคล 166,145 คน

 

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า มาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ด้วยจำนวนผู้ใช้เส้นทางและปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ทำให้สถิติการยึดรถสูงกว่าเทศกาลสงกรานต์ปี 2559 เบื้องต้นอาจประเมินได้ว่า ยังมีผู้ขับขี่รถจำนวนหนึ่งที่เชื่อมั่นในตนเองเกินไป โดยไม่ตระหนักและคำนึงถึงความเสียหายของการดื่มสุราแล้วขับขี่รถ สถิติการยึดรถและข้อมูลพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ดังกล่าว คสช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปพิจารณาปรับการดำเนินตามมาตรการสร้างความปลอดภัยการสัญจร และมาตรการดื่ม ไม่ขับจับยึดรถต่อไป

 

ส่วนกรณีกลุ่มวัยรุ่นขับกระบะมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน บบ 630 พิจิตร พุ่งชนนาย ภูมิสิทธิ์ วังคีรี นายอำเภอเมืองพิจิตร พร้อมด้วยปลัดฝ่ายปกครอง สารวัตรทหาร มทบ.36 ตำรวจสภ.เมืองพิจิตร และกำลัง อส. เพราะ ไม่พอใจที่ให้ยุติการเล่นน้ำและยุติการสร้างความรำคาญแก่ประชาชน บริเวณถนนข้าวตัง ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา

 

ล่าสุดนายนรงค์ชัย สีทา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 /17 ถนนศรีมาลา อ.เมืองพิจิตร ผู้ขับรถคันดังกล่าว เข้ารายงานตัวกับสารวัตรทหาร กกล.รส.พิจิตร เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพ.ต.ต.ประภาส อินผา สว.(สอบสวน) สภ. เมืองพิจิตร ดำเนินคดี โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า สาเหตุที่ขับรถเร็วจนเกือบจะชนเจ้าหน้าที่ไม่ได้เกิดจากไม่พอใจที่ถูกห้ามเล่นน้ำ แต่ก่อนเกิดเหตุเพิ่งเสพยาบ้ามาจึงกลัวจะถูกจับ

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวไปตรวจหายา เสพติด พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อกล่าวหารวม 6 คดี ประกอบด้วย 1.ขับรถประมาทหวาดเสียวในที่สาธารณะ 2.ฝ่าฝืนสัญญาณมือของเจ้าหน้าที่ขณะขอตรวจ 3.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 4.ขับเสพ 5.เมาขับ และ 6.ขัดขวางการทำงานเจ้าพนักงาน และจะเร่งติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องและมีภาพปรากฏในคลิปมาดำเนินคดีด้วย

 

สำหรับกรณีนางสุภาพร หรือ ตู่ แสงชาติ เบสดาส อายุ 25 ปี ผู้เสียชีวิตจากถูกไฟฟ้า ชอร์ตขณะเล่นปาร์ตี้โฟมในงานเทศกาลสงกรานต์ บริเวณทุ่งศรีเมือง อำเภอบ้านดุง เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดพ.ต.ท.วัฒนา มีทองหลาง รองผกก.สอบสวน สภ.บ้านดุง เผยว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 4 คน ประกอบด้วย ผู้จัดงาน หรือผู้ประกอบการ และผู้ควบคุมไฟ เบื้องต้นเกิดจากไฟสปอตไลต์เปิดใช้งานตั้งแต่กลางวันถึงกลางดึกเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดความร้อนและสายไฟหลุดร่วงลงมาติดกับโครงเหล็กติดตั้งไฟ ขณะเดียวกัน ผู้ตายเอื้อมมือไปจับโครงเหล็กติดตั้งไฟ สปอตไลต์ จนเกิดเหตุสลดขึ้น

 

ล่าสุดนางดวงใจ แสงชาติ อายุ 47 ปี แม่ของผู้ตาย และนายไมเคิล เบสดาส อายุ 36 ปี สัญชาติอังกฤษ อาชีพวิศวกร สามีของผู้ตาย ร่วมกันนำเถ้าอัฐินางสุภาพรไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง ในจ.หนองคาย โดยสามีชาวอังกฤษยังทำใจไม่ได้กอดจูบรูปภรรยาอยู่ตลอดเวลา

 

นางดวงใจเผยว่า ลูกสาวแต่งงานกับลูกเขยมานาน 7 ปี แต่ยังไม่มีลูกด้วยกัน ก่อนหน้านี้ลูกเขยกำลังเดินเรื่องที่จะขออนุญาต นำภรรยาไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษอย่างถาวร และหลังจากนั้นจะเดินเรื่องพา แม่ไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษด้วยกัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างพังทลายไปหมดแล้ว

 

บรรยากาศของการเล่นสงกรานต์ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ลบุรี ที่มีขึ้นในช่วง 17 เม.ย.ทุกปี เป็นไปอย่างสนุกสนานและคึกคัก บริเวณถนนเจิมจอมพล ตลอดระยะทาง 5 ก.ม. ผู้คนแห่กันมาเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน จัดปาร์ตี้โฟมสบู่และสระยางขนาดใหญ่ วัยรุ่นหนุ่ม สาว และเด็กเล็ก กว่าพันคนร้องเล่นเต้นรำกันอย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน