ตร.รับมอบตัว 8 สมุนแก๊งซินแสโชกุน จากทหารมาสอบเครียด ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขณะที่แม่ซินแสโชกุน ยืนยัน ไม่เคยต้มตุ๋นพาทัวร์ไปต่างประเทศ แค่ช่วยเหลือคนยากไร้ให้ได้รับโอกาส ขณะที่ แฟนสาวยอมรับใช้บ้านตัวเองเปิดเป็นบริษัท แต่แค่ขายอาหารเสริม ไม่ใช่บริษัททัวร์ ด้านตร.อายัดทรัพย์สินแล้ว 15 ล้าน ทั้งเงินในบัญชี ทองรูปพรรณ คอนโดมิเนียม ขณะที่ผู้เสียหายพุ่งถึง 360 คน เสียหาย ร่วม 15 ล้านบาทเช่นกัน พร้อมลุยค้นบริษัทอาหารเสริมซินแสโชกุน ตรวจสอบนำเข้า ถูกต้องและมีอย.หรือไม่

จากกรณีจับกุม น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ น.ส.ศรัณย์พัชร์ กิติขจรพัชร์ หรือ ?ซินแสโชกุน? กรรมการบริหาร บริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ จำกัด ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน หลังจากร่วมกับพรรคพวกลวงผู้เสียหาย กว่า 1,000 คน อ้างเช่าเครื่องบินเหมาลำจัดทริปท่องเที่ยวโอซาก้า แต่สุดท้ายลอยแพลูกทัวร์ให้ตกค้างอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนตัวซินแสโชกุน หลบหนีไป ก่อนตามจับกุมได้ที่จ.ระนอง ล่าสุดพนักงานสอบสวนขออนุมัติศาล เพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 8 รายตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 เม.ย. ที่กองปราบปราม พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คสช. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการ ผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. พร้อมกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ควบคุมตัว 1.นางมณฑญาณ์ นิรันดร อายุ 55 ปี มารดาของซินแสโชกุน 2.นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี 3.น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี 4.นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี 5.นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี 6.นางพารินธญ์ หงษ์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี 7.น.ส.สุดารัตน์ เอนกนวล อายุ 25 ปี และ8.นายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี รวม 8 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และกระทำการอันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน

โดยมีพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต. ประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคบ. มารอรับตัว ผู้ต้องหา และให้แพทย์จากร.พ.ตำรวจ ตรวจร่างกาย ก่อนสอบปากคำ

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการตรวจร่างกายแพทย์ก็ยืนยันว่าไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ พร้อมกันนี้ก็มีการจัดทนายความจากสภาทนายความให้ด้วย เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 360 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับตำรวจ ทหาร สามารถติดตามยึดทรัพย์สินต่างๆ จากกลุ่มผู้ต้องหาในเบื้องต้น อาทิ รถยนต์ เงินในบัญชีธนาคาร ทองรูปพรรณ คอนโดมิเนียม ฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท

ส่วนนางมณฑญาณ์ กล่าวว่า ขอปฏิเสธข้อกล่าวหา และตนไม่ได้เชิญชวนใคร ถ้าไปดูในเฟซบุ๊กส่วนตัวก็จะเห็นว่า ตนอยากจะช่วยเหลือคนที่ฐานะยากไร้ ประสบความเดือดร้อน ถ้าคุณเข้ามาเป็นสมาชิกของบริษัทเรา ก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดี เพียงแต่ว่า คุณต้องเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน และเป็นคนดี ไม่ใช้อำนาจทำให้ใครเดือดร้อน ส่วนกรณีที่มีการชักชวนให้ผู้เสียหายสมัครเป็นสมาชิกบริษัทนั้น ตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้มี หน้าที่ตรงนี้ ตนเป็นแค่แม่ของซินแสโชกุนเท่านั้น และขอยืนยันว่าบริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ ไม่ได้ขายทัวร์ การพาไปเที่ยวนั้นเพียงแค่ต้องการให้โอกาสกับคนที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย เพราะยากจน

นางมณฑญาณ์กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่อง มีภาพของตนไปอยู่บนเครื่องบินเช่าเหมาลำนั้น เป็นเพราะลูกสาวอ้างว่าทำธุรกิจรับส่ง นักธุรกิจ โดยมีเครื่องบินเช่าเหมาลำทั้งหมด 8 เครื่อง บินเส้นทางระหว่างมาเก๊า-ฮ่องกง แต่ไม่รู้ว่าลูกสาวเป็นเจ้าของเอง หรือเป็นเพียงแค่หุ้นส่วนเท่านั้น ส่วนตัวแล้วตนเคยเชิญชวนให้ไปท่องเที่ยว มีอยู่ ไม่กี่คน ที่พอจำได้คือ อุ๊-มิณทร์ลดา เจริญทวีรัตน์ ดาราและพิธีกร อดีตรองมิสทีนไทยแลนด์ 2010 ส่วนอีก 2 คนตนจำชื่อไม่ได้ เพราะเขามีเงิน ไม่พอที่จะจ่ายให้ครบ 9,730 บาท เพราะคนหนึ่งมีเพียง 5,000 บาท อีกคนมีเพียง 1,000 บาท ตนจึงออกเงินให้ก่อน เพราะแค่ต้องการช่วยเท่านั้น

นางมณฑญาณ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามสำหรับนักธุรกิจชาวฮ่องกงนั้น ตนได้ข้อมูลมาจากบุตรสาว ว่าจะเป็นผู้ดูแล จองเครื่องบิน และดำเนินการต่างๆ ให้ ซึ่งก็ไม่เคยเจอตัวจริง เคยเห็นแต่ในภาพถ่ายเท่านั้น ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆ นั้น ตนไม่ทราบเรื่องและไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ยังเชื่อว่าลูกของตน ไม่เคยหลอกลวงใครแน่นอน

ขณะที่ นางประนอม เลขาฯซินแสโชกุน กล่าวว่า ไม่เคยเชิญชวนใครให้ไปท่องเที่ยว ที่ญี่ปุ่น แต่มีเพียงให้มาสมัครเป็นสมาชิก ของบริษัท อลิเชี่ยน จำกัด เท่านั้น ส่วนโปรโมชั่นต่างๆ นั้น ทางซินแสโชกุน เป็นคนกำหนด ทราบว่าส่วนต่างของเงินค่าสมัครสมาชิกนั้น ไม่เพียงพอต่อการพาสมาชิกไปเที่ยวต่างประเทศได้ และเคยถามซินแสโชกุนแล้วว่าเงินส่วนต่างมาจากไหน ซินแสโชกุนบอกว่ามีงบจากนายทุนในต่างประเทศเป็น ผู้ออกให้ ทุกครั้งที่สมาชิกสอบถามก็จะบอกรายละเอียดให้ทราบ ส่วนเรื่องรายได้ต่างๆ ตนไม่สามารถตอบได้ ส่วนนายทุนชาว ต่างประเทศนั้นไม่มีใครเคยเจอ มีเพียงซินแสโชกุนคนเดียวที่ได้พบ ส่วนตัวเคยไป ท่องเที่ยวที่ฮ่องกงมาครั้งเดียว ซึ่งครั้งนั้น ก็เป็นเพียงการไปท่องเที่ยวธรรมดา ไม่ได้ใช้ชักชวนอวดอ้างต่อสมาชิกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแต่อย่างใด

น.ส.ทัศย์ดาว แฟนสาวของซินแสโชกุน กล่าวว่า บริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ เพิ่งตั้งมาได้ 3 เดือน ที่ใช้บ้านของตนที่จ.นครสวรรค์ จดทะเบียนตั้งสำนักงานนั้น ก็เพราะตนมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านดังกล่าว ยืนยันว่าบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจขายอาหารเสริม ไม่ใช่ขายทัวร์ ลูกทีมที่มาสมัครสมาชิกจะโอนเงินค่าสมัครเข้าบัญชีตน ส่วนตัวยังเคยได้เงินค่าคอมมิชชั่นขายอาหารเสริมมาแล้วประมาณ 2.8 แสนบาท ทราบด้วยว่าเคยมีคนได้คอมมิชชั่นสูงสุดถึง 2.4 ล้านบาท

ส่วนการเดินทางไปท่องเที่ยวกับบริษัท เคยไปมาแล้ว 2 ครั้ง คือฮ่องกง และญี่ปุ่น ซึ่งเรื่องการจองตั๋วเครื่องบิน ติดต่อประสานงาน รวมถึงการทำบัญชีของบริษัทนั้น ซินแสโชกุนเป็นผู้จัดการเองทั้งหมด คนอื่นจะไม่ทราบเรื่อ

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี พ.ต.อ.บัณฑิต ทิศาภาค รองผบก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.1บก.ปคบ. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่บก.ปคบ., บก.ปอศ., บก.ปอท. และสคบ. นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบริษัทอลิเชี่ยน จำกัด เลขที่219 ชั้น 18 อาคารอโศก ทาวเวอร์ ถนนอโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จากการตรวจค้นและตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวได้จดทะเบียนถูกต้อง พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ผลิตภัณฑ์อาคารเสริม 300 กระปุก รวมทั้งเอกสารการทำธุรกรรมทั้งหมดมาตรวจสอบ ว่านำเข้าเสียภาษีถูกต้อง และอาหารเสริมมีอย.หรือไม่

ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ให้สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ตรวจสอบความเชื่อมโยงของกรณี น.ส.พสิษฐ์ หรือซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ กับคดีที่ดีเอสไอรับไว้ดำเนินการก่อนหน้านี้หรือไม่ หากพบว่าเชื่อมโยง จะสามารถรับโอนมาเป็นคดีพิเศษได้

นางชฎาพร รักษาทรัพย์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง กล่าวว่า หลังจาก น.ส.พสิษฐ์ได้เข้ามาอยู่ในการควบคุมตัวของทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะนี้ผ่านมา 3-4 วัน น.ส.พสิษฐ์มีอาการเครียดลดลง เริ่มปรับตัวกับการใช้ชีวิตอยู่ภายในเรือนจำได้ และทำ ทุกอย่างตามระเบียบของเรือนจำ ซึ่งขณะนี้ ก็ยังถูกควบคุมตัวอยู่ภายในแดนแรกรับ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้น.ส.พสิษฐ์ยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน