เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 เวลา 15.00 น. นางน้ำเพชร (สงวนนามสกลุ) อายุ 43 ปี ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน กรณีเรื่องลูกสาวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน บังคับให้ค้าประเวณีให้กับผู้ใหญ่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีทั้ง ตำรวจ ครู แขวงการทาง ซึ่งได้มีการร้องเรียนไปยัง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ ตำรวจภูธรภาค 5 แต่เรื่องไม่คืบ สอบแล้วอ้างเด็กเข้าใจผิดเอง เลยตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อ ปคม. ล่าสุดผ่านมา 6 เดือน เรื่องก็ยังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด คนกระทำผิดยังลอยนวล ไม่พอ ยังถูกติดตามข่มขู่ จนหวาดผวา กินไม่ได้นอนไม่หลับ

 

นางน้ำเพชร เปิดเผยว่า เริ่มแรก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนิทกัน นำรูปเด็กไซส์ไลน์ มาให้ดู ปรากฏว่า เด็กคนดังกล่าว กลับเป็นลูกสาวของตัวเอง แต่ด้วยตนเองเคยทำงานเป็นสายให้กับเจ้าหน้าตำรวจเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้หาแนวทางในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้วยการล่อซื้อบริการ และก็พบว่าลูกสาวตนเองไปค้าบริการจริง จึงได้สอบถามกับบุตรสาว ถึงสาเหตุที่ต้องไปทำเรื่องแบบนั้น ทั้งที่ฐานะของตนก็ดี ไม่ได้ยากจนแต่อย่างใด สุดท้ายลูกสาวถึงสารภาพว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบีบบังคับให้ค้าประเวณี โดยแอบถ่ายคลิป ตอนที่ลูกสาวเสพยา ไว้เป็นเครื่องมือต่อรอง หากไม่ยอมไปบริการให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ก็จะถูกจับข้อหาเสพยาเสพติด ทำให้ลูกสาวต้องอยู่ในภาวะจำยอม

 

หลังจากทราบเรื่อง ตนจึงเดินทางไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน แต่ตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความ จนต้องเดินทางไปร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เสร็จแล้วตำรวจถึงรับแจ้งความ จากนั้นตนยังได้เดินทางไปร้องต่อตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว ต่อมาหลังร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ฯ และ ตำรวจภูธรภาค 5 แล้ว ปรากฏว่า ทางตำรวจภูธรภาค 5 และ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงผลการสอบสวนว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด และ เด็กเข้าใจผิดกันไปเอง ซึ่งดูแล้ว เป็นการช่วยหลือตำรวจที่ทำผิด ตนเห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้เดินทางเข้า กทม.และ ไปร้องเรียนต่อ ปคม.

 

หลังจากได้เดินทางเข้าไปร้องเรียนต่อ ปคม.ที่ กรุงเทพมหานครแล้ว เรื่องยังไม่คืบ ขณะที่ทางตำรวจแม่ฮ่องสอน ทำคดีส่งฟ้องศาล โดยเอาผิดกับแม่เล้ากับเด็ก แต่ไม่เอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บีบบังคับให้เด็กไปค้าประเวณี ตนจึงได้หาแนวทาง ด้วยการนำเด็กอีก 2 คนที่ถูก บังคับให้ค้าประเวณี ไปแจ้งความต่อ เจ้าหน้าที่ ปคม.ที่ กรุงเทพอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้มีการเข้าแจ้งความ ต่อเจ้าหน้าที่ ปคม. รวมทั้งหมด 3 คน ซึ่งรวมกับลูกสาวของตนเองด้วย แต่เรื่องก็ยังไม่คืบหน้า ล่าสุดตนได้เดินทางไปยัง สำนักงานพัฒนาความมั่งคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ( พม.) เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่ได้มีการสอบปากคำผู้เสียหายว่าได้ส่งเรื่องไปยัง ปคม.หรือไม่ กลับได้รับคำตอบว่า ยังไม่ได้ส่ง และ อ้างไม่อยากให้ข้าราชการระดับสูงในจังหวัดเดือดร้อน จนตนต้องออกมาขู่ว่าจะนำเรื่องไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ทำให้ทาง เจ้าหน้าที่ พม.แม่ฮ่องสอน ได้ออกเอกสารให้กับตนว่าได้ส่งเรื่องไปแล้ว ทั้งที่ตอนแรกอ้างว่าไม่ได้ส่งแต่เมื่อตนดูเอกสารดังกล่าว พบว่า ประทับตราลับ แต่ไม่ได้มีการออกเลขหนังสือส่งแต่อย่างใด

 

สำหรับกระบวนการของตำรวจที่บังคับให้เด็กสาวในแม่ฮ่องสอน ตกเป็นเหยื่อคือจะให้เด็กวัยรุ่นด้วยกัน ไปทำร้าย และจากนั้นจะมีการจัดฉาก ด้วยการมีคนเป็นแม่เล้าคนหนึ่ง มาให้การช่วยเหลือ และชักนำไปเสพยาบ้า ซึ่งขณะที่เสพยาบ้านั้น ได้มีการแอบถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ ก็เป็นเด็กในสังกัดของตำรวจนั่นเอง จากนั้น ก็จะมีการนำไปสู่การบังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ยอมก็จะนำคลิปการเสพยามาข่มขู่และซ้อมจนบาดเจ็บ ทำให้เด็กที่หลงเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และตกอยู่ในวังวนการค้าประเวณีอย่างต่อเนื่อง

 

ในส่วนของผู้ที่ใช้บริการเด็ก ในตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน , ข้าราชการในศาลากลาง , ครูของสถาบันใหญ่แห่งหนึ่งของจังหวัด และรวมไปถึง เจ้าหน้าที่ระดับสูงในแขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอน ส่วนสถานที่จะมีการเปลี่ยนวนเวียนไปหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมระดับหรูใหญ่สุดของจังหวัด เกสเฮ้าท์ชื่อดังต่าง ๆ และรวมไปถึงบ้านพักข้าราชการในสำนักงานหลายแห่ง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ทางเด็กที่เข้าแจ้งความต่อ ปคม. ได้ถูกเจ้าหน้าที่ ปคม.สอบสวนและได้ข้อมูลไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ยศ ตำแหน่งของ ข้าราชการว่ามีใครบ้าง

 

ซึ่งเด็กที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณี จะมีจำนวนทั้งหมด เกือบ 20 คน โดยเด็กส่วนใหญ่ จะมีการถูกบังคับให้สักที่บริเวณหน้าอก เป็นรูปนกฮูก หรือนกเค้าแมว ซึ่งบางคนอาจจะสักตัวเล็ก และบางคนก็อาจจะสักเป็นตัวใหญ่ ทั้งนี้ หลังจากที่ตนได้ร้องต่อ ปคม.แล้ว พบว่า ในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะในตัวเมือง ยังคงมีการเปิดให้บริการค้าประเวณีเด็กอีก อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยมีร้านขายเหล้าแห่งหนึ่งติดกับร้านสะดวกซื้อใกล้หนองจองคำ ยังมีการแม่เล้า ซึ่งปรากฏตัวในรูปของเด็กเชียร์เบียร์ มีการแนะนำและให้บริการค้าประเวณีเด็ก ให้กับนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ทุกวัน โดยร้านดังกล่าวมีเจ้าของเป็นตำรวจในสภ.เมืองแม่ฮ่องสอนนั่นเอง

 

นางน้ำเพชร ยังเปิดเผยต่อไปว่า หลังจากที่ได้มีการร้องเรียนต่อ ปคม. ได้ถูกคนติดตาม ดักฟังโทรศัพท์ จนทำให้ตนเอง หวาดกลัว และก่อนหน้านี้ ได้ไปอยู่ในความคุ้มครอง ของเจ้าหน้าที่ พม.ที่ กรุงเทพ ฯ แต่ตนเห็นว่าเรื่องที่ร้องเรียนไปยังเงียบ และไม่มีความคืบหน้า นอกจากนั้นเมื่อตนเดินทางมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน และได้เข้าพบ ข้าราชาการระดับสูงของจังหวัดหลายคน ซึ่งแต่ละคน ได้พยายามโน้มน้าวให้ตน เลิกร้องเรียน ซึ่งตนยังเคยได้ยินข่าวมาว่า ได้มีกลุ่มข้าราชการระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ระดับสูงที่ใช้บริการเด็ก หรือหน่วยงานอื่น ได้มีการลงขันกันไม่ต่ำกว่า 50 ล้าน เพื่อล้มคดีนี้ให้ได้ จึงทำให้ตนหมดความอดทนและเข้าร้องต่อสื่อมวลชน ดังกล่าว และอยากจะฝากคำถามไปถึง ผบ.ตร.ว่า เรื่องตำรวจค้ามนุษย์ ที่แม่ฮ่องสอน ที่มีการร้องเรียนไปถึง ปคม.และมีเอกสารควบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียงการสั่งการ ให้ไปค้าประเวณี หรือรูปที่แคปหน้าจอจากแอพพลิเคชั่นไลน์ รวมไปถึงการให้ปากคำของพยานที่เป็นเด็กสาวทั้ง 3 คน ท่านจะดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างไรบ้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน