สารภาพแล้วมือฆ่ายกครัว 3 ศพ พ่อ แม่ และลูกสาววัยขวบเศษ สยองกุยบุรีหลัง “สุวิระ ทรงเมตตา” เค้น สอบเอง อ้างมีศักดิ์เป็นหลานคนตาย แค้นทำงานแล้วได้เงินเดือนบ้างไม่ได้บ้าง เลยก่อเหตุโหด จ่อยิงหัวพ่อ 5 นัด แม่ 2 นัด ส่วนหนูน้อยก็ไม่เว้นยิงหัวเช่นเดียวกัน ตำรวจหิ้วตัวไปขอขมาศพ แต่ต้องรีบพาหนีเพราะญาติและชาวบ้านฮือจะรุมประชาทัณฑ์
จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 7 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบ คีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้พ่อ-แม่ และลูกสาววัยขวบเศษเสียชีวิตในกองเพลิง ขณะที่มีข้อสงสัยอาจเป็นการฆ่าแล้วเผาอำพรางศพ โดยมีคนงานตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเคยขู่อาฆาตคนในครอบครัวนี้ ต่อมาตำรวจตามจับตัวผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวได้พร้อมอาวุธปืนเถื่อนขนาด 11 ม.ม. 1 กระบอก แต่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วยตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 เม.ย. พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมคณะได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีสรุปความคืบหน้าอย่างเคร่งเครียด หลังจากที่เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ลงไปตรวจยังจุดเกิดเหตุแล้วครั้งหนึ่ง จนพบหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมทั้ง กองเลือด, ปลอกกระสุนปืน 11 ม.ม. และถังน้ำมันขนาด 5 ลิตร
พล.ต.อ.สุวิระสอบปากคำนายนิพนธ์ หรือใหญ่ ช้างแก้ว อายุ 38 ปี ฉายา ใหญ่ กุยบุรี ผู้ต้องสงสัยด้วยตนเอง โดยใช้เวลาสอบเครียดกว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งนายนิพนธ์รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือจ่อยิงยกครัว โดยระบุว่า มีศักดิ์เป็นหลานชายของผู้เสียชีวิต หลังเกิดความไม่พอใจและโกรธแค้นที่ทำงาน 3 เดือนแรก แต่ไม่ได้เงินเดือน และอีก 5 เดือนต่อมา ได้เงินเดือน เดือนละ 8 พันบาท แบบไม่ตรงเวลา ทำให้ต้องอยู่อย่างยากลำบาก อดๆ อยากๆ ทำให้โกรธแค้นจนลงมือก่อเหตุดังกล่าว พร้อมกล่าวขอโทษที่ก่อเหตุ อ้างลงมือไปเพราะบันดาลโทสะ
พล.ต.อ.สุวิระ เผยว่า ผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อออกมาแล้ว พบหัวกระสุนขนาด 11 ม.ม. ในร่างผู้เสียชีวิต ที่บริเวณศีรษะของทั้ง 3 ราย โดยที่ศพพ่อ 5 นัด แม่ 2 และลูกสาวขวบครึ่งอีก 1 นัด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจหัวกระสุน และปลอกกระสุนที่พบ เปรียบเทียบกับปืนขนาด 11 ม.ม. ของผู้ต้องหาที่ยึดได้ก่อนนี้ เพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่า โกรธแค้นเรื่องเงินเดือนเท่านั้น ส่วนจะมีประเด็นอื่นหรือมีผู้เกี่ยวข้องร่วมด้วยหรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมอีก
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่า เข้าไปก่อเหตุยิงทั้ง 3 คนเสียชีวิต ในเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่เกิดเหตุ ก่อนหลบหนีนำปืนไปทำความสะอาดแล้วเก็บซ่อนไว้ แต่ไม่ได้เป็นคนจุดไฟเผาบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าต้องมีการทำเป็นขบวนการ โดยผู้รู้เห็นย้อนกลับไปวางเพลิงเผาบ้านเพื่ออำพรางคดี อยู่ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนขยายผลเพื่อหาตัวผู้ร่วมก่อเหตุต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปจุดธูปขอขมาศพที่วัดดอนยายหนู อ.กุยบุรี ท่ามกลางความโกรธแค้นของญาติๆ กว่า 50 คน ที่พากันก่นด่าสาปแช่ง หลังขอขมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รีบพาตัวนายใหญ่ขึ้นรถกลับออกไปในทันที เพราะเกรงจะถูกประชาทัณฑ์ โดยได้พาตัวไปค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุที่นำไปแอบซ่อนไว้ด้วย
สำหรับนายนิพนธ์ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดียาเสพติด และไม่ได้ไปรายงานตัวในช่วงที่ถูกทำทัณฑ์บนจึงถูกศาลออกหมายจับเมื่อปี พ.ศ. 2557
