แม่โวย ตร.บังคับลูกสาวค้ากาม แฉตร.สภ.น้ำเพียงดินถ่ายคลิปเสพยาแบล็กเมล์ให้รับรองแขกผู้ใหญ่ มีทั้งข้าราชการระดับสูง ครู แถมเอารถตราโล่ไปขับรับส่ง ระบุไปร้องเรียนที่บช.ภาค 5 ศูนย์ดำรงธรรม เรื่องก็ไม่คืบจนต้องไปร้องปคม. หลังเป็นข่าวมีการเสนอเงิน 1 ล้านให้จบคดี ด้านผู้การ ปคม.ระบุส่งชุดสืบลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว แจงเป็นเหตุเกิดขึ้น 3 ปีก่อน ต้องใช้เวลา ส่วนตำรวจที่ถูกร้องเรียนก็ย้ายออกจากพื้นที่หมดแล้ว ส่วนเหตุแก๊งไอ้ไก่ข่มขืนเด็ก 14 ล่าสุดเสี่ยชาติที่ซื้อกามเด็กสาวโผล่มอบตัวกลางดึก ปฏิเสธทุกข้อหา ขอไปให้การชั้นศาล
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 เม.ย. จากกรณีที่นางน้ำเพชร (ขอสงวนนามสกุล) ร้องเรียนสื่อมวลชนกรณีลูกสาวถูกตำรวจสภ.น้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน บังคับให้ค้าประเวณีโดยมีลูกค้าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด ทั้งตำรวจ ครู ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตำรวจภูธรภาค 5 แต่เรื่องไม่คืบ จนเข้าร้องเรียนต่อปคม. แต่ผ่านไปกว่า 6 เดือนยังไม่มีความคืบหน้า และถูกข่มขู่จนหวาดกลัว ต้องหลบหนีไปอยู่ที่กทม.
นางน้ำเพชรเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ ทราบว่าลูกสาวขายบริการเนื่องจากมีตำรวจที่สนิทกันนำรูปเด็กไซด์ไลน์มาให้ดู ปรากฏว่าเป็นลูกของตน จึงตัดสินใจล่อซื้อ จนพบว่าลูกสาวมาขายบริการจริง จึงสอบถามสาเหตุ จนลูกสาวยอมรับว่าถูกบังคับค้ากาม เนื่องจากถูกแอบถ่ายคลิปขณะเสพยาเป็นเครื่องมือ ต่อรอง หากไม่ไปขายบริการให้ผู้หลักผู้ใหญ่ จะถูกดำเนินคดีข้อหายาเสพติด
นางน้ำเพชรกล่าวอีกว่า สำหรับกระบวน การบังคับเหยื่อ จะให้เด็กวัยรุ่นด้วยกันชักชวนไปเสพยาบ้า แล้วจัดฉากถ่ายคลิปวิดีโอ โดยมีแม่เล้าชื่อฟ้า ที่สนิทสนมกับตำรวจคน ดังกล่าว ก่อนบังคับค้าประเวณี หากไม่ยอมจะนำคลิปมาขู่ และซ้อมจนบาดเจ็บ ส่วนสถานที่ค้ากามก็จะวนเวียนไปหลายแห่ง ทั้งโรงแรมหรูสุดของจังหวัด เกสต์เฮาส์ต่างๆ รวมถึงบ้านพักข้าราชการหลายแห่ง
“เด็กที่ถูกบังคับค้าประเวณีมีทั้งหมดเกือบ 20 คน ส่วนใหญ่ถูกบังคับให้สักที่บริเวณหน้าอกเป็นรูปนกฮูกหรือนกเค้าแมว บางคนสักตัวเล็กบางคนสักตัวใหญ่ แต่เมื่อนำเรื่องไปร้องตร.สภ.เมือง แม่ฮ่องสอน ก็ไม่ยอมรับแจ้งความ จนต้องไปร้องศูนย์ดำรงธรรม และบช.ภาค 5 แต่ผลสอบสวนกลับบอกว่าเด็กเข้าใจผิดไปเอง จนต้องร้องเรียนปคม. แต่ก็ยังไม่คืบอีก” นางน้ำเพชรกล่าว
ความคืบหน้า นางน้ำเพชรเผยว่า หลังจากที่เป็นข่าวออกไป มีกลุ่มของตำรวจคนดังกล่าวติดต่อผ่านคนกลางเพื่อเสนอเงิน 1 ล้านบาทขอให้จบเรื่อง ไม่ให้เป็นคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แต่ให้เป็นเพียงคดีค้าประเวณี แต่ตนไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะตนมีศักดิ์ศรี นอกจากนี้ยังถูกข่มขู่เอาชีวิต ตอนแรกก็กลัว แต่เมื่อถูกขู่หนักขึ้นความกลัวก็กลายเป็นความโกรธ และคิดจะต่อสู้จนถึงที่สุด
นางน้ำเพชรกล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีกลุ่มแม่เล้าเด็กในพื้นที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 11 กลุ่ม โดยจะมีกลุ่มเจ้าหน้าที่เข้ามาตีสนิทหาผลประโยชน์ มอบของกำนัลพวกมือถือรุ่นใหม่ ราคาแพง สุดท้ายก็ชักชวนไปเสพยาและถ่ายคลิปแบล็กเมล์
นอกจากนี้ ในการนำเด็กสาวไปบำเรอกามข้าราชการระดับสูง จะใช้รถตราโล่ของสภ.น้ำเพียงดินไปส่งตามสถานที่ต่างๆ ทั้งที่แฟลตตร. หลังโรงพัก บ้านพักข้าราชการ และรีสอร์ตต่างๆ ทั้งนี้หลังจากเป็นข่าวมีการบีบบังคับเด็กสาวขึ้นรถตู้ไปเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง แล้วข่มขู่ไม่ให้เป็นพยาน แต่มีเด็กบันทึกเสียงกลุ่มตำรวจดังกล่าว ซึ่งมีหลักฐานในมือตนหมดแล้ว
ด้านพล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวรับไว้ในการดูแลแล้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ก็มีข้อจำกัดบ้าง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาประมาณ 3 ปี จึงมีปัญหาเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานอยู่บ้าง แต่ยืนยันว่าหากหลักฐานสาวไปถึงใครก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ไม่มีการช่วยเหลือกันเด็ดขาด นอกจากนี้ ทราบว่าหลังเป็นข่าวบช.ภาค 5 ก็สั่งย้ายตำรวจที่มีปัญหาออกนอกพื้นที่ ไม่ให้ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนา คงไม่สามารถไปจับใครได้ทันทีตามคำกล่าวอ้าง
วันเดียวกันมีความคืบหน้าคดีที่ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ถูกกระทำชำเราและรุมโทรมในร้านเกมที่ตลาดด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และถูกนำไปขายบริการให้กับชายสูงวัยที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ด่านช้าง
ล่าสุด ตำรวจปคม.สอบสวนหาพยานและหลักฐาน สามารถออกหมายจับและนำไปฝากขังที่ศาล รอการสืบสวนในขั้นตอนต่อไป 7 คน ล่าสุดศาลจังหวัดสุพรรณบุรีออกหมายศาลเลขที่ 120/2560 ขอจับกุมนายอนุชาติ หงส์ทอง อายุ 52 ปี หรือเสี่ยชาติ ชาวตำบลหนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี
ล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา นายอนุชาติติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.สุคุณ พรหมมายน ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ด่านช้าง ไปรับตัวนายอนุชาติ มาจากจ.อุทัยธานี มาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี
ต่อมาเมื่อเวลา 23.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ด่านช้าง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปคม.สุพรรณบุรี ได้นำตัวนายอนุชาติ มาที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ซึ่งนายอนุชาติมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอด เวลา พร้อมนำผ้าปิดหน้าตลอดเวลา โดยมี พ.ต.อ.เกรียงไกร วุฒิพานิช รองผู้บังคับ การตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี และพ.ต.อ. มานะ กลีบสัตบุศ รอง ผบก.ปคม. ชุดสืบสวน กก.5 บก.ปคม. และพนักงานสอบสวน บก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ร่วมสอบปากคำนายอนุชาตินานกว่า 2 ช.ม. เบื้องต้นนายอนุชาติให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันจะขอให้การในชั้นศาลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 22 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี นำตัวนายอนุชาติไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี โดยนายอนุชาติยังมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา พร้อมไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น โดยพูดเพียงสั้นๆ ว่า ขอไปให้การในชั้นศาลเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอคัดค้านการประกันตัว ล่าสุดศาลพิจารณาแล้ว ไม่ให้มีการประกันตัว และได้นำไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรีต่อไป
