ข่าวสดขึ้นแท่น ก้าวสู่เว็บไซต์อัน ดับ 1 เอเยนซี่ -ศิลปินดารา ร่วมงานคึกคักเผยยอดคนอ่านเฉลี่ยวันละล้าน ขณะที่ยอดคนดูไลฟ์จากเฟซบุ๊ก ก็สูงถึงวันละกว่า 2-3 ล้านคนเช่นกัน พร้อมขอบคุณประชาชนที่สนับสนุน ยันต้องพัฒนารูปแบบการนำเสนอข่าวให้ดีขึ้น ยึดหลักการถูกต้อง แม่นยำ และเป็นธรรม พร้อมเดินหน้าเปิดแนวทางใหม่ทั้งสร้างสรรค์รายการเพื่อให้ตรงความต้องการของประชาชน ฮือฮา เปิดตัวข่าวสดอิงลิช เปิดเผยเรื่องราวในไทยให้ต่างชาติได้รับรู้

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่อาคารหนังสือพิมพ์ข่าวสด นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานเครือมติชน จำกัด นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการเครือมติชน น.ส.ปานบัว บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการ สายการตลาด บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายสุริวงค์ เอื้อปฏิภาน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด และน.ส.ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวสด และผู้บริหารเครือมติชน-ข่าวสด ร่วมงานแถลงข่าว “Khaosod Number One ก้าวต่อไปบนโลกออนไลน์ อันดับ 1” เพื่อบอกกล่าวถึงการ ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มสื่อเว็บไซต์ข่าวสด โดยมีเอเยนซี่โฆษณาเข้าร่วมรับฟัง และดารานักแสดงที่มาร่วมแสดงความยินดี

นายฐากูรกล่าวว่า โลกยุคใหม่เปลี่ยน แปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ได้นับเป็นวันเป็นเดือน เป็นปีแล้ว แต่นับเป็นนาที เป็นวินาที เหมือนกับข่าวสด เมื่อเริ่มทำเว็บไซต์กว่าจะมีคนอ่านเยอะเหมือนทุกวันนี้ใช้เวลา เกือบ 3-4 ปี ซึ่งเกี่ยวโยงกับเติบโตของโซเชี่ยล มีเดียในประเทศไทย โดยเว็บไซต์ข่าวสด ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาจากเมื่อปี 2557 ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ในกลุ่มสื่อและข่าว จนกระทั่งปี 2558 ได้ขึ้นมาอยู่อันดับ 1 กลุ่มสื่อและข่าว และในปีนี้ข่าวสด ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของเว็บไซต์ทั้งหมดของประเทศไทย โดยตัวเลขล่าสุดในแต่ละวัน มีคนอ่านถึงวันละ 1,065,000 คน ซึ่งตัวเลขที่เกิดขึ้นนั้นเป็นตัวเลขที่ขยับขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ในส่วนของเว็บไซต์แล้ว การเข้ามาดูไลฟ์ทางเฟซบุ๊กยังมีตัวเลขสูงถึงกว่าวันละ 2-3 ล้านคนต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กรรมการผู้จัดการเครือมติชน กล่าวต่อว่า ในส่วนก้าวต่อไปของข่าวสด-มติชน และ สื่ออื่นๆ ในเครือจะทำต่อไปมี 3 เรื่องหลัก 1.คือการพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้น ให้สามารถตอบสนองผู้อ่านผู้ชมได้ตรงเป้า มากขึ้น ไม่ว่าด้านผลิตรายการต่างๆ หรือพัฒนาแนวทางการนำเสนอด้วยสื่อผสม โดยเฉพาะคลิปวิดีโอ ที่ในแต่ละวันมีคนชมสูงกว่าคนที่อ่านในเว็บ ในฐานะคนทำงานจึงต้องนำเสนอเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้รับสื่อให้ดี และมากที่สุด โดยเนื้อหาที่ผลิตขึ้นยังอยู่ในหลักการของคนทำสื่อคือ ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นธรรม

“2.คือการขยายตลาด และจำนวนผู้ชม และผู้อ่านให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะเมื่อพิจารณาจากผู้อ่านเว็บไซต์ 14 ล้านคน จากประชากร 68 ล้านคน และคนที่ลง ทะเบียนโซเชี่ยลมีเดีย 40 ล้านคน แปลว่า ตลาดยังขยายได้อีกเท่าตัว และถ้าโครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศไทยสามารถขยาย ตัวได้มากขึ้น คิดว่าเราน่าจะสามารถขยายตลาดได้มากกว่าเดิม และ 3.คือ พัฒนา บิ๊กดาต้า เพื่อรู้จักผู้อ่านและเสิร์ฟข่าวให้ถูกใจผู้อ่านมากขึ้น เช่นเดียวกับการมีข้อมูลอัน เป็นประโยชน์สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ” นายฐากูรกล่าว

ด้านน.ส.ชุมฉันท์ กล่าวว่า เว็บไซต์ข่าวสด เติบโตมาจากความแข็งแกร่งของกองบรรณาธิการข่าวสด ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นเว็บไซต์อันดับ 1 เพราะเราไม่กลัวความเปลี่ยนแปลง โดยการก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ถือเป็นความท้าทายที่เราต้องพยายามนำเสนอข่าวให้ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง และขยายฐานคนอ่านให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น สิ่งหนึ่งที่เราเปลี่ยนแปลงในการนำเสนอคือการนำคลิปเข้าไปใส่ในเนื้อข่าว ทำให้คนอ่านสามารถดูข่าวๆ หนึ่งได้อย่างครบถ้วน

“ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เราสร้างเนื้อหาด้วยการทำรายการข่าวผ่านเพจข่าวสด ถือเป็นช่องข่าวช่องหนึ่ง โดยมีรายการข่าวนำเสนอใน 2 ช่วงเวลา คือตอนเที่ยง และตอนค่ำ รวมทั้งยังเพิ่มรายการบันเทิงขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอสั้นจาก Feed คลิปอาหาร คลิปสร้างอาชีพ ที่มีคนดูเป็นจำนวนมากมานำเสนอผ่านเพจ และในเร็วๆ นี้ เราจะนำซีรีส์มานำเสนอผ่านเพจอีกด้วย” บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวสด กล่าว

นายทอดด์ รุยซ์ บรรณาธิการข่าวสด อิงลิช กล่าวว่า ข่าวสดอิงลิช มีผู้อ่านที่เป็น คนไทย 40% และชาวต่างชาติ 60% โดยเป็นแหล่งอ้างอิงของสื่อระดับโลก เช่น เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์, การ์เดี้ยน, เทเลกราฟ, ลอสแองเจลิส ไทมส์, รัสเซีย ทูเดย์, เจแปน ไทมส์, บีบีซี และซีเอ็นเอ็น โดยคนไทย นับเป็น 0.96% ของประชากรโลก สิ่งที่เรา นำเสนอนั้นคือเรากำลังอธิบายเรื่องราวจากประเทศไทยให้กับคนอีก 99.04% ของโลกฟัง นับเป็นความรับผิดชอบที่เรายึดถืออย่างจริงจัง พร้อมกันนี้เราจะพยายามนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายครบถ้วน และเสนอแนวคิดในการนำเสนอใหม่ๆ อยู่เสมอ และจะทำในสิ่งที่หาอ่านจากที่อื่นไม่ได้

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็มเอฟอีซี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “โลกเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอล” ว่า ยินดีกับข่าวสดที่ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 สื่อ สิ่งพิมพ์หรือสื่อทั้งหมด อยู่ในอุตสาหกรรมที่ยากเป็นอันดับต้นๆ ของช่วงนี้ ถ้าดูธุรกิจ ช่วงนี้ คนขายกระดาษก็ทรุด คนที่เป็นมีเดียสื่อต่างๆ ก็จะเห็นว่านิตยสารพิมพ์น้อยลงหรือไม่ก็ปิด การที่เราอยู่รอดไม่ได้หมายความถึงการลดต้นทุน แต่ปรับปรุงคอนเทนต์ที่ดีแล้วจะอยู่รอด ต่อให้คอนเทนต์ดีอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าไม่มีคนเดินไปที่แผงหนังสือแล้วซื้อนิตยสาร ยังไงก็ปิดอยู่ดี

“เด็กรุ่นใหม่ อายุต่ำกว่า 32 ปี ไม่มีใครเดินไปที่แผงหนังสือเพื่อซื้อหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร แต่สนใจไอแพด-ไอโฟน แปลว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ประสบความสำเร็จในการใช้สื่อต่างๆ เพื่อให้คนมีเวลาอยู่บนแอพฯให้ได้นานที่สุด แต่เดิมสื่อเป็นคนไปหาลูกค้า แต่เดี๋ยวนี้ลูกค้าเป็นคนไปหามีเดีย ชั่วโมงนี้ในธุรกิจสื่อยากหมด แต่ใครที่ปรับตัว เปลี่ยน แปลงได้เร็วที่สุดคนนั้นจะรอด ตอนนี้ที่กลุ่มมติชนทำได้และประสบความสำเร็จคือการสร้างแพลตฟอร์มให้ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 สิ่งที่จะตามมาคือดาต้าชุดที่ 2 เป็นการนำออฟไลน์มาสู่ออนไลน์ ทำให้เป้าหมายของสินค้าสู่ลูกค้าไปในทางที่เร็วขึ้น”นายศิริวัฒน์ กล่าว

ด้านดร.ปิยะ ตัณฑวิเชียร ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคนิค บริษัท ศูนย์วิจัยนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตไทย จำกัด หรือทรูฮิต กล่าวถึงภาพรวมการเติบโตในเว็บไซต์สื่อว่า ปี 2558 พบว่าส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสื่อ อยู่ที่ประมาณ 16.22% ซึ่งเว็บไซต์กลุ่มสื่อเป็นอันดับ 2 รองจากเว็บไซต์กลุ่มบันเทิง ซึ่งโตขึ้นเร็วมาก ถือว่าได้รับความนิยมจากคนไทยมาก เพราะข่าวแฝงมากับหลายหมวดรวมทั้งกระแสจากโลกโซเชี่ยลที่ช่วยหนุนให้เติบโตและใกล้ชิดให้คนสนใจมากขึ้นด้วย ทิศทางต่อไปคิดว่าเว็บไซต์กลุ่มข่าวจะไต่อันดับขึ้นไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ค่อนข้างเป็นกังวลคือลักษณะของโซเชี่ยลเข้ามาหนุนข่าวสื่อ มันเป็นลักษณะที่เขาเข้ามาอ่านและออกไป อยากให้สำนักข่าวหากลยุทธ์ที่ทำให้ผู้เยี่ยมชมอยู่ในเว็บข่าวนานมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน