จับแล้ว 1 รับสารภาพสิ้น ร่วมฆ่าฝังดินหนุ่มหล่อ ที่แท้เป็น 2 พี่น้อง ชาวชัยภูมิ ตร.เช็กภาพวงจรปิดจนรู้ตัว ก่อนจับตัวคนพี่ได้ สอบรับสิ้นน้องชายลงมือฆ่าก่อนเอารถไป พบประวัติเคยถูกจับคดีฆ่าชิงทรัพย์ในเมืองกรุงเมื่อพ.ค.ปี”59 อยู่ระหว่างหนีคดี ตร.นำตัวสอบเค้นหาปมเหตุ ระดมล่าที่เหลืออีก 1 พร้อมติดตามรถยนต์ของกลาง ด้านพ่อ-แม่เหยื่อ นำพระสงฆ์ทำพิธีเชิญวิญญาณด้วยความโศกเศร้า
จากกรณีนายนิรันดร์ หรือ รัน สร้อยสูงเนิน อายุ 25 ปี หนุ่มหล่อชัยภูมิหายตัวปริศนาไปนาน 18 วัน กระทั่งมีคนมาพบเป็นศพถูกฆ่าฝังดินบริเวณแปลงปลูกป่ายูคาลิปตัส ท้ายวัดโสกตลับ หลังหมู่บ้านโสกตลับ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ สอบญาติแจ้งว่าหายตัวไปพร้อมรถเก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีขาว ทะเบียน 3 กท-4210 กทม. ระหว่างเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อจะกลับ บ้านที่จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระหว่างเดินทางกลับมีการติดต่อโทรศัพท์มาทางญาติๆ ตลอดทาง ครั้งสุดท้ายนายนิรันดร์ยังโทรศัพท์มาบอกมารดาให้ช่วยทำอาหารไว้รอที่บ้าน แต่กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.ก็ยังไม่ถึงบ้านพักและไม่สามารถติดต่อได้อีก กระทั่งมาพบเป็นศพถูกฝังดิน ดังกล่าว โดยหลังเกิดเหตุตร.เช็กสัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายอยู่บริเวณ อ.จัตุรัส รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดของที่พักแห่งหนึ่ง พบว่ามีชายต้องสงสัยอีกคนที่เดินทางมากับผู้ตาย โดยอยู่ระหว่างตามตัวมาสอบสวนตามที่เป็นข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่บริเวณแปลงปลูกป่ายูคาลิปตัส จุดที่พบศพ ทางพ่อ-แม่และญาติๆ ของนายนิรันดร์ นำพระสงฆ์มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณของบุตรชายเพื่อให้กลับไปอยู่บ้านตามความเชื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งคู่ต่างร่ำไห้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา
ขณะที่ความคืบหน้าคดี พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ สั่งการให้พ.ต.อ.วิรัช เบ้าคำ รอง ผบก. เป็นหัวหน้าคุมทีมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว โดยทางด้านพ.ต.อ.วิรัชเปิดเผยในเบื้องต้นว่า ขณะนี้รู้ตัวเป็นผู้ต้องสงสัยที่เป็นเพื่อนชายที่เดินทางมาด้วยกันกับผู้ตายแล้ว ชื่อนายปรีชา เกี้ยวสันเทียะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 4 บ้านบุระไหว ต.บึงอ้อ อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ซึ่งขณะนี้ทาง จนท.ตำรวจออกหมายเรียกตัวมาสอบปากคำว่าจะมีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย
พ.ต.อ.วิรัชเผยต่อว่า ทาง ตร.ยังมีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่เข้าไปพักที่รีสอร์ต ด้วยกัน 2 แห่ง ทั้งในเขต อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา และที่รีสอร์ตอีกแห่งในเขต อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีภาพชายหนุ่มต้องสงสัยขับรถมาคนเดียว ไม่พบผู้ตายมาด้วย จากการสืบสวนล่าสุดคาดว่าฆาตกรน่าจะมีไม่น้อยกว่า 2 คน และน่าจะเป็นคนในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทีมสืบสวนสอบสวนได้สอบปากคำนายปรีชาแล้ว พบว่าแยกกับผู้ตายตั้งแต่ช่วงเย็น จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้อง จึงได้นำโทรศัพท์ผู้ตายมาตรวจสอบก่อนพบเบอร์โทรต้องสงสัย เบื้องต้นพบว่าเป็นของนายวัชระ หรือ น็อต สาแก้ว อายุ 22 ปี เป็นคนในพื้นที่ อ.เมืองชัยภูมิ
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดทีมสืบสวนได้ควบคุมตัวนายวัชระ ได้แล้ว โดยนำตัวไปสอบปากคำที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งเพื่อเค้นข้อมูลว่าไปพบนายนิรันดร์เหยื่อได้อย่างไร และล่าสุดนายวัชระให้การรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุร่วมกับนายสาทิตย์ สาแก้ว อายุ 18 ปี น้องชายลงมือก่อเหตุเพื่อชิงทรัพย์ โดยได้รับโทรศัพท์จากนายนิรันดร์ผู้ตาย ว่าจะมาหาที่ ผับดังในตัวเมืองชัยภูมิ ในวันที่ 8 เม.ย. เวลา 21.00 น. ทั้งสองได้ชวนกันไปดื่มกินเหล้าจนเมาได้ที่แล้วชักชวนกันมาที่หอพักแห่งหนึ่ง อยู่ด้านข้างศาลเจ้าพ่อพระยาแล ต.ในเมือง จ.ชัยภูมิ
ต่อมาทั้งสองได้วางแผนกันฆ่านายนิรันดร์เพื่อชิงทรัพย์เอาโทรศัพท์มือถือเงินสดและรถเก๋ง โดยนายวัชระจับนายนิรันดร์ไว้แล้วให้นายสาทิตย์ลงมือใช้มีดปลายแหลมจวงแทงจนขาดใจตายภายในหอพัก และได้นำผ้าห่มสีแดงมาห่อศพขึ้นรถนำไปฝัง จุดไฟเผาเพื่อทำลายหลักฐานและขุดดินกลบ แล้วพากันเดินทางกลับมานอนที่หอพัก
รุ่งเช้านายสาทิตย์ ขับรถเก๋งของนายนิรันดร์ไปตระเวนขายตามเต็นท์รถมือสองและตามบ้านเพื่อนฝูงในหมู่บ้านท่าหินโงม แต่ไม่มีใครซื้อหลังจากนั้นได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนีขึ้นไปในไร่บนเทือกเขาภูแลนคา ที่เป็นเขตติดต่อ 3 อำเภอคือ อ.เมือง อ.เกษตรสมบูรณ์ และอ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจัดกำลังออกไล่ล่าคาดว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังพบว่านายสาทิตย์ มีประวัติ ก่อคดีชิงทรัพย์ที่สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ในปี “55 เคยถูกจับคดีปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อพ.ค.ปี “59 ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และตามรถยนต์ของผู้ตายกลับคืนต่อไป
