หนุ่มเล่านาที กระบะถอยชน 3 ครั้งซ้อน เผยเมียยังระอา ลั่นจะเลิกหลายรอบ

จากกรณีเพจเฮียขับรถ โพสต์คลิปภาพและข้อความเล่าเหตุการณ์รถกระบะ 2 คัน โดยรถกระบะคันสีบรอนซ์ ไปชนท้ายรถกระบะสีดำ แทนที่จะจอดรถเพื่อเรียกประกันมาเคลียร์ (เพราะตัวเองขับรถท้ายคันอื่น) แต่กับลงมาพูดทำนองว่า กระบะสีดำ (ที่ถูกชนท้าย) เป็นฝ่ายผิด ทำให้ต้องชนท้าย และเรียกค่าเสียหาย 4,000 บาท อีกฝ่ายหนึ่งที่ถูกชน (กระบะสีดำ) ไม่ยอมบอกว่าจะเรียกตำรวจ ยิ่งทำให้คนขับกระสีบรอนซ์ โกรธหนัก เดินขึ้นรถขับถอยชนกระบะสีดำอีก 3 ครั้งนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. นายบีม ผู้เสียหาย ได้เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์” ถึงเรื่องราวดังกล่าว ว่า คืนวันที่ 23 ธ.ค. เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า ตนได้ขับรถไปบริเวณแยกวัชรพล ใต้ทางด่วน โดยขับมาจากทาง เสถียรธรรมสถาน แล้วจะเลี้ยวขวาขึ้นสะพาน เพื่อไปเส้นเลียบด่วนรามอินทรา ในขณะที่เลี้ยวขวา ตามรถคันหน้าไป ก็มีรถคันหลังขับชนท้าย ตนจึงได้จอดรถที่ข้างถนน เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อลงมาพูดคุยกับรถคันหลังที่ชนท้าย

“หลังจากจอดข้างหน้ารถที่ชนจอดต่อท้าย ผมก็พูดคุยดีๆ อย่างสุภาพกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคู่กรณี ชื่อ นายวสันต์ คล้ายมาลา ได้เป็นผู้ขับรถมาพร้อมภรรยา มีลูกเล็ก 1 คน และลูกน้อง 3 คน เขาพูดคุย ด้วยอาการที่ผมรู้สึกได้ว่าน่าจะมีอาการเมา ตนยังถามเขาว่าไปดื่มมาหรือเปล่า ทางคู่กรณีก็บอกว่าไปทานข้าวไม่ได้ดื่ม”

นายบีม กล่าวว่า ตอนนั้น นายวสันต์ บอกว่า ท้ายรถผมไม่เป็นอะไรเลย แต่กันชนรถเขาพัง ฉีกขาดเสียหายเยอะ จึงขอให้ตนรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 4,000 บาท ผมก็แจ้งเขาไปว่า เขามาชนท้ายเรา ยังไงก็ผิดนะ ผมไม่ควรจะต้องจ่ายอะไรเลยเราต้องชดใช้ตนด้วยซ้ำ ทางคู่กรณีก็บอกว่ามีพี่ชายเปิดอู่ซ่อมรถ เดี๋ยวจะส่งรูปไปให้ตีราคาว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ยืนยันว่าจะเอาเงิน 4,000 บาท ขาดเหลือยังไงเดี๋ยวจะจ่ายเอง เพราะรถผมไม่เป็นอะไรเลย แต่รถเขาเสียหาย

“จากนั้น ผมจึงแจ้งว่า จะเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดู นายวสันต์ จึงโมโห ต่อว่า ว่าจะเล่นแง่ทางกฎหมาย แถมยังข่มขู่ หลังจากนั้น นายวสันต์ ได้โทรศัพท์คุยกับพี่ชายแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ผม ซึ่งพี่ชายนายวสันต์ ก็พูดว่าให้ตนเองรับผิดชอบไม่ต้องไปสถานีตำรวจ จะได้ไม่ยุ่งยาก เพื่อกดดันให้ผมจ่ายเงิน ผมเลยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า นายวสันต์ มีอาการคล้ายคนเมา พี่ชายนายวสันต์ เข้าใจ แต่เมื่อคุยโทรศัพท์กับพี่ชายอีกครั้ง นายวสันต์ กลับโมโหอย่างรุนแรง บอกว่าเดี๋ยวดูกูบ้าง”

จากนั้น นายวสันต์ เดินไปที่รถขึ้นรถแล้วก็ตะโกนเรียกแฟน เรียกลูก ให้ขึ้นรถให้หมดแต่ไม่มีใครยอมขึ้นรถสักคน ตอนนั้นผมก็เดินไปที่รถกะว่าจะขึ้นรถแล้วขับออกไป แต่คิดว่าอย่าเพิ่งขึ้น เพราะคิดว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่างแน่ๆ แล้วเขาก็ขับรถออกรถอย่างเร็วไปจอดด้านหน้ารถผม ห่างจากรถผมประมาณ 5 เมตร แล้วก็ขับถอยรถ มาชนรถผมอย่างแรงครั้งที่ 1 แล้วก็ขับรถเลื่อนไปข้างหน้าอีก แล้วก็ถอยมาชนรถผมอย่างแรงครั้งที่ 2 และขับไปอีกถอยมาชนครั้งที่ 3 อย่างรุนแรงมากกทำให้รถผมที่จอดโดยใส่เบรคมือไว้ กระเด็นไถลไปไกลประมาณ 10 เมตรด้วยความแรงในการถอยชนของคู่กรณี

นายบีม กล่าวอีกว่า สภาพรถพังยับเยิน ด้านหน้าถึงแม้มีกันชนเหล็กแต่ก็กระโปรงหน้ารถพังฉีกขาดเละ หม้อน้ำแตก คู่กรณีขับรถหนีไป สักพักมันก็วนกลับมา จอดรถกลางถนนตะโกนเรียกเมีย เรียกลูกน้องว่า ให้ขึ้นรถมาให้หมด แต่เมียกับลูกน้องก็ไม่มีใครขึ้นสักคน ลูกน้อง ตะโกนบอก พี่จะไปไหนก็ไปผมไม่ยุ่งกับพี่แล้ว นายวสันต์ ก็เลยขับรถหนีไปเลยย ทิ้งเมีย ทิ้งลูก และลูกน้อง ไว้ที่เกิดเหตุ เมียและลูกน้อง ตอนที่เขาถอยหลังชนรถผม ทุกคนพยายามตะโกนห้ามกันอย่างดังว่า พอๆๆๆ อย่าทำแบบนี้ ใจเย็นๆมันก็ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เมียพยายามดึงลูกตัวเล็กๆ หลบ กลัวมีอันตราย

รถตนจอดพังอยู่กลางแยก โชคดีที่รถไม่ได้ไปชนกับรถคันใดตอนที่กระเด็นไปจากการชน มีคนเข้ามาหาตนหลายคนที่เห็นเหตุการณ์แล้วขับรถตามไปให้ เพื่อถ่ายทะเบียนรถให้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ พร้อมจะเป็นพยาน พร้อมกับมีคนมานำคลิปจากกล้องหน้ารถมาให้ดู ก็ยังตกใจว่า ทำไมจึงชนแรงขนาดนี้

“ภรรยาผู้ก่อเหตุเล่าว่า สามีเป็นคนโมโหร้าย จะเลิกหลายครั้งแล้ว พร้อมระบุว่าถ้าผมขับรถตามไปคงเละกันไปข้างหนึ่ง ส่วนพ่อแม่นายวสันต์ ก็มาดูพร้อมกับระบุว่าจะรับผิดชอบให้ ส่วนจะแจ้งความลูกเขาหรืออะไรยังไงก็ดำเนินการไปเลยเพราะลูกเขาทำตัวแย่มาก รถคันนี้ก็เป็นชื่อพ่อ”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน