ดราม่าจนได้! พ่อของ ด.ญ.ชั้น ป.5 ผูกคอในห้องน้ำโรงเรียน ถูกโจมตี “หากินกับเด็ก” หลังเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือลูกสาว ด้าน เพจดังชี้แจงทุกข้อสงสัย

จากกรณี ด.ญ.เอ (นามสมมติ) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ก่อเหตุผูกคอหวังฆ่าตัวตายภายในห้องน้ำ บริเวณด้านหลังอาคารเรียน ก่อนที่ภารโรงและครูจะเข้าไปช่วยซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติ และเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยอาการโคม่า ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า ด.ญ.เอถูกรุ่นพี่ที่ตนเองสนิทสนมไม่ยอมรับตุ๊กตาที่ตนเองซื้อให้และแสดงความไม่มีเยื่อใย ทำให้ด.ญ.เอเกิดอาการน้อยใจ ก่อเหตุเหตุดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 27 ธ.ค. นายสมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ชาวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยเกี่ยวกับอาการของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ว่า ขณะนี้ลูกสาวได้ออกจากห้องไอซียูมาฟักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยหนัก แต่อาการยังหนักอยู่ซึ่งแพทย์ได้เจาะลำคอเพื่อช่วยหายใจ ซึ่งตนมีฐานะยากจนต้องเช่าที่ดินปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ อาศัยอยู่ และทำงานเป็นพนักงานกวาดขยะของเทศบาลได้เงินเดือน 8,000 บาท

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จึงประกาศเปิดบัญชีขอรับผู้ใจบุญยื่นมือช่วยเหลือตนและลูกสาว เมื่อวันที่ 23-26 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 3 วัน โดยมีผู้ใจบุญโอนเงินเข้าบัญชีรวมแล้วประมาณ 102,000 บาท แต่ปรากฏว่าในช่วงเปิดรับบริจาค ถูกเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “ว” โพสต์ข้อความโจมตีว่า “ตนหากินกับเด็ก”

“ขอขอบคุณทุกท่านที่เมตตาลูกสาวของตน ทั้งที่ส่งกำลังใจมอบเงินและของใช้จำเป็นให้แก่ครอบครัวของ ซึ่งเราทุกคนซาบซึ้งใจอย่างมาก เพราะจากช่วงแรกที่ตีบตันมองไม่เห็นหนทาง ในวันนี้อาการของลูกดีขึ้น และหลังจากนี้จะเข้าสู่การทำกายภาพ ซึ่งครอบครัวจะนำเงินทุกบาทที่ได้มาดำเนินการในส่วนนี้ วันนี้ทางเราเปิดรับบริจาคครบ 3 วัน ตามที่ผู้ให้คำปรึกษาแนะนำแล้ว ผมจึงปิดรับบริจาค และจะลบโพสต์รับบริจาคทุกโพสต์ ขอกราบขอบคุณพระคุณทุกท่านอีกครั้งที่เห็นใจครอบครัวของเรา” นายสมศักดิ์ กล่าว

ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Namfar Takonkit โพสต์ข้อความระบุว่า “เรื่องการขอรับบริจาคแพมเพิสและเงินช่วยเหลือเคสน้อง ป.5 ที่ผูกคอในห้องน้ำโรงเรียน ขอบอกก่อนเลยว่าเริ่มต้นจากสมาชิกแฟนเพจ สมาคมคนเหนือ เป็นคนขอร้องให้แอดมินเปิดรับบริจาค ไม่ใช่ “ทางครอบครัวของน้อง ป.5” ขอให้ช่วยในการรับบริจาคแต่อย่างใด

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ผู้โพสต์ระบุต่อว่า เขาเป็นชาวบ้านซื่อ ๆ ทำงานเป็นพนักงานกวาดขยะ เฟซบุ๊กก็ไม่ได้เล่น พ่อน้องเล่าว่าเคยมีเหมือนกันแต่ไม่เล่นนานแล้ว อย่างที่ทราบกันว่าเฟซบุ๊ก Namfar Takonkit จะมีทั้งแฟนเพจ นักอ่าน นักเขียน เป็นเพื่อน และเป็นผู้ติดตาม เวลาคิดอะไร เราก็จะบ่นให้ฟังหน้าเฟซบุ๊ก หรือแชร์ข้อมูลลงในเพจซึ่งพอทุกคนทราบเรื่องน้อง ป.5 และมองเห็นปัญหาจึงมาสอบถามว่าจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง บางคนก็มาขอหมายเลขบัญชีโอนเงิน

“มากเข้า ๆ ทางแอดมินจึงคุยกับพ่อของน้องว่า รับบริจาคเถอะ แต่พ่อต้องเป็นคนโพสต์ก่อน เพื่อให้มีต้นขั้ว ไม่ใช่ทางเราเป็นคนโพสต์เองลอย ๆ และเราจะให้เปิดรับบริจาคเพียง 3 วัน จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2562 (พ่อเล่นเฟซไม่ค่อยเป็นเปิดสาธารณะยังต้องสอนเลย)”

ผู้โพสต์ระบุอีกว่า เหตุใดจึงรับบริจาค 1.เราเช็กประวัติและเรื่องราวจากครู ตำรวจ พระ เพื่อนนักเรียน และคนอำเภอพร้าว แล้วว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง พ่อน้องทำงานกวาดขยะ แม่น้องมีโรคประจำตัว ไม่ได้ทำงาน บ้านนี้ มีลูก 2 คน คนหนึ่งเรียน ม.3 อีกคนเรียน ป.5 ครอบครัวนี้เช่าที่โรงบ่มอยู่ มีฐานะยากจน สภาพบ้านไม่ได้มีความสุขสบายใดๆเลย (ภาพประกอบคือที่อยู่อาศัยจริง)

2.พวกเราช่วยคนมาแล้วนับไม่ถ้วน คนป่วยแบบนี้ ได้รับสิทธิ์รักษาจริง แต่ถ้าเป็นยาบางตัว ถ้าเป็นยานอกต้องจ่ายเพิ่ม (ขนาดเราเป็นข้าราชการเบิกจ่ายตรง บางอย่างต้องออกเองก็มี) แล้วไหนจะค่าเดินทางไป-มา ระหว่างพร้าว-แม่ริม 90 ก.ม. เพราะน้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนครพิงค์ ต่อไปน้องต้องทำกายภาพ

ตอนนี้หมอใกล้จะอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว ต้องใช้เตียงลม ดีที่โรงพยาบาลให้ยืม ไม่ต้องซื้อ ปัญหาคือ ต้องมีห้องปลอดเชื้อให้น้องอยู่ แต่สภาพบ้านไม่เป็นบ้าน แรก ๆ อาจจะต้องเช่า แล้วก่อสร้างห้องเล็ก ๆ ให้น้องอยู่ หรือแก้ปัญหาอย่างไร ยังอยู่ในช่วงหารือกันอยู่

3.ทางเราไม่เกี่ยง หากเงินเหลือจากข้อ 2 ทางครอบครัวจะนำไปเป็นทุนการศึกษาลูกทั้งสอง หรือนำไปดูแลครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น เช่น ซื้อที่นอน หมอน มุ้ง ใหม่ เราเห็นไม่มีฟูกนอน เงินก็ไม่ได้เยอะมากมายอะไร ถ้าสามารถทำให้ 4 ชีวิตได้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นเราถือว่า นี่คือกุศล

ปกติเราไม่เคยออกตัวตามสื่อว่าช่วยเหลือครอบครัวนี้ แม้จะมีหลายสื่อขอสัมภาษณ์ก็จะแนะนำให้ไปหาพ่อน้องแทน แต่ครั้งนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อเฟซบุ๊ก เข้ามาโจมตีว่าพ่อของน้องเอาลูกมาหากิน ทางเราจึงต้องออกมาชี้แจงว่า มีคนขอบริจาคมาเองจนทางเพจต้องสนองเจตนารมณ์ ไม่ได้มาจากทางครอบครัวใดๆ ทั้งสิ้น อย่าโจมตี อย่า bully เขาเลย เขาไม่ได้ชำนาญการเล่นเฟซบุ๊ก พอมีคนต่อว่าเขาก็ไม่สบายใจ

คลิกอ่านข้อความฉบับเต็ม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน