เมื่อวันที่ 3 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้องค์กรภาคเอกชน มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 102 ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร โดยวันนี้มีผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพจำนวน 34 คณะ คณะละ 50 คน แบ่งเป็น 4 รอบ ได้แก่ เวลา 10.00 น., 14.30 น., 17.00 น. และ 19.00 น.

 

สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 2 พ.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 25,728 คน รวม 181 วัน มี 6,684,274 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 1,816,063.75 บาท รวม 181 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 536,509,702.01 บาท

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 182 ที่มีพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศแต่งกายด้วยชุดสีดำไว้ทุกข์หลั่งไหลมากราบสักการะพระบรมศพไม่ขาดสาย ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ประชาชนยังคงไม่ย่อท้อและต่อแถวเข้าคิวรอกราบสักการะพระบรมศพด้วยความมุ่งมั่น

 

นางเคลลี่ สวินสัน อาจารย์จากวิทยาลัยซิมป์สัน รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยคณะนักเรียนอีก 11 คนในชุดสีดำสุภาพเดินทางมากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสที่เดินทางมาดูงานที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาทีจึงได้ขึ้นไปกราบพระบรมศพสมตามที่ตั้งใจไว้

 

นางเคลลี่ เปิดเผยว่า การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ เรามีกิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งการมากราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ของคนไทยเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่พวกเราตั้งใจไว้ ตอนที่ได้ขึ้นไปกราบพระบรมศพระองค์เบื้องหน้าพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท รู้สึกปลื้มใจจนน้ำตาคลอ แม้ว่าตัวเองจะไม่ใช่คนไทย แต่ก็รู้จักพระองค์ในฐานะที่ทรงรักคนไทย และทรงงานทุกอย่างเพื่อพสกนิกรของพระองค์มาตลอดพระชนม์ชีพ” นางเคลลี่ กล่าวด้วยความซาบซึ้ง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตบาห์เรน ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 พ.ค. สมเด็จพระราชาธิบดีอาหมัด บิน อิซา อัล เคาะลีฟะฮ์ แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรไทยเป็นการส่วนพระองค์ จากนั้นในวันที่ 5 พ.ค. สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน จะเสด็จฯ มาทรงวางพวงมาลา ถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นับเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 3 ถัดจากสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ แห่งประเทศญี่ปุ่น ที่เสด็จฯ มาถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน