มท.1 สั่งสอบต่อ ผวจ.อุตรดิตถ์ ในฐานะอดีต ผวจ.แม่ฮ่องสอน ยันไปถึงใครก็ต้องสอบขณะที่เจ้าตัวตั้งโต๊ะแถลงข่าวโต้ลั่นถูกเปิดภาพอ้างเป็นขรก.นัวเนียหญิงสาว ยันรู้ใครเป็นตัวการ เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกราวรูด ทั้งหมิ่นประมาท พ.ร.บ.คอมพ์ ก่อนยืนยันไม่เคยเกี่ยวข้องคดีค้ากาม ขณะที่ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอ ระบุมีการตัดตอนคำให้การเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกพาดพิง เตรียมร้องป.ป.ช.เอาผิดผู้ว่าฯ-อัยการ-พม.ที่อยู่ในกรรมการดังกล่าว ตร.ภาค 5 ยันทำคดีเต็มที่ เผยจับแล้วคนขายเต้าหู้ เตรียมนำไปให้เหยื่อชี้ตัว

เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกราวรูด ทั้งหมิ่นประมาท พ.ร.บ.คอมพ์ ก่อนยืนยันไม่เคยเกี่ยวข้องคดีค้ากาม ขณะที่ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอ ระบุมีการตัดตอนคำให้การเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกพาดพิง เตรียมร้องป.ป.ช.เอาผิดผู้ว่าฯ-อัยการ-พม. ที่อยู่ในกรรมการดังกล่าว ตร.ภาค 5 ยันทำคดีเต็มที่ เผยจับแล้วคนขายเต้าหู้ เตรียมนำไปให้เหยื่อชี้ตัว

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้าการสอบสวนนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอนเกี่ยวพันกับการซื้อบริการเยาวชนที่ จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างที่กระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยรองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน โดยจะใช้เวลา 30 วัน ทั้งนี้ ครั้งแรกจะเร่งรัดให้เสร็จใน 7 วัน แต่การให้ปากคำของผู้เสียหายหรือพยานบางปากยังไม่ครบถ้วน คณะกรรมการจึงขอเวลาครบ 30 วัน เพื่อออกไปสอบสวนให้ครบถ้วนกระบวนความ ยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยยังไม่สรุปว่าผลการสอบออกมาผิดหรือไม่ อยู่ในกระบวนการสอบทั้งหมด

เมื่อถามว่าปลัดอำเภอแม่สะเรียง เดินสายเรียกร้องให้ตรวจสอบ ผวจ.แม่ฮ่องสอน นายกฤษฎากล่าวว่า เรายังไม่ได้ข้อสรุป การตั้งคณะกรรมการก็ตั้งตามกฎหมาย ยืนยันทำให้ถูกต้องเรียบร้อย มีเหตุมีผล ขณะนี้ไม่อยากให้คาดเดา ไปตั้งประเด็นกันโดยที่มหาด ไทยยังไม่ทราบเรื่อง ทุกอย่างขอให้ทำตามกฎหมาย อะไรที่กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ ผลออกมาคนก็จะไม่ยอมรับ

นายกฤษฎากล่าวว่า กรณีภาพหลุดในโลกออนไลน์ที่ใบหน้าคล้ายอดีตผวจ.แม่ฮ่องสอน ก็ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ทางผวจ.อุตรดิตถ์สามารถพิสูจน์แล้วว่าภาพนั้นเป็นภาพของเหตุการณ์อื่น และที่บอกว่าเป็น ผวจ.อุตรดิตถ์ ไม่เป็นความจริง และขณะนี้ได้ดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่ภาพดังกล่าว

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวเร่งรัดให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสอบสวนนายสืบศักดิ์ พัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งคณะกรรมการนี้จะสอบสวนบุคคลที่ถูกอ้างถึงในทุกราย รวมถึงกรณีนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ อดีตผวจ.แม่ฮ่องสอน ที่ถูกกล่าวหาด้วย เพื่อหาข้อเท็จจริง ซึ่งหากผลการสอบสวนออกมาเป็นอย่างไรก็จะดำเนินการตามขั้นตอน

ที่ห้องรับรอง ชั้น 5 ศาลากลาง จ.อุตรดิตถ์ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ อดีตผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดแถลงข่าวกรณีมีการเผยแพร่ภาพชายสวมเสื้อ และกางเกงสีขาว นั่งอยู่บนเก้าอี้ และมีภาพหญิงสาวนั่งคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอด ซึ่งถูกวิจารณ์ว่ามีลักษณะคล้ายกับนายพิพัฒน์ ว่า ทราบตัวแล้ว มีกลุ่มหรือขบวนการทำลายชื่อเสียงของข้าราชการระดับสูง นำภาพของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งใส่สายสะพายเต็มยศ เสนอข่าวออกไปแล้วทั่วประเทศ ไม่ทราบว่ากระบวนการนี้มีจุดมุ่งหวังอะไร ที่จะทำลายชื่อเสียงให้ถูกดูหมิ่น ถูกเหยียดหยามถูกเกลียดชัง การกระทำดังกล่าวก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย

ส่วนตัวตรวจสอบแล้วพบว่าต้นตอมาจากไหน รู้คนทำแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งจะสาวไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังได้ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป กลุ่มที่ว่านั้นจะยังไม่เปิดเผยชื่อ เพราะเกรงจะเสียรูปคดี แต่จะขอให้เปิดเผยหลังเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว

“ส่วนกรณีที่ตกเป็นข่าวว่าซื้อบริการเด็กหญิงที่ จ.แม่ฮ่องสอน นั้น ผมได้โพสต์ไปบนเฟซบุ๊กส่วนตัวไปแล้ว ข้อความนั้นใช้ได้ เป็นไปตามที่โพสต์ และยืนยันว่า ไม่มีผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหนที่จะทำเรื่องแบบนี้ ผมให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบ และขอให้รอหน่อย ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้เกี่ยวข้องนั้นกำลังรวบรวมหลักฐานอยู่ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม จะใช้เวลา ไม่นาน เพราะรู้ข้อมูลแล้วว่าเป็นกลุ่มใดที่ทำเรื่องนี้ หลังเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ไม่ท้อหรอก เพราะทำงานให้กับรัฐบาล มาบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน ดูแลประชาชนมาตลอด แต่อยากให้ผู้ดำเนินการหันหน้าเข้ามาร่วมกันพัฒนาดูแลบ้านเมือง เพราะยังมีปัญหาอีกมากที่จะต้องดูแล” นายพิพัฒน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิพัฒน์ใช้เวลาแถลงข่าวไม่ถึง 5 นาที จากนั้นนำข้อความที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ยืนยันว่านายพิพัฒน์ไม่เกี่ยวข้องกับภาพดังกล่าว มาแสดงเพื่อให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพ จากนั้นก็ขอตัวรีบไปประชุมต่อ แม้สื่อมวลชนสอบถามว่า หากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่มาจากประเทศจีนนั้น ยังจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอยู่อีก หรือไม่ แต่นายพิพัฒน์ไม่ตอบ แต่ตอบสั้นๆ ว่า ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมไป จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นายพิพัฒน์ได้โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ตามที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนซื้อบริการเด็ก ผมขอยืนยันความบริสุทธิ์ว่า ผมไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน วันที่ผมไปรับตำแหน่งคือ 1 ตุลาคม 2558

คืนนั้นผมนอนที่วัดพระธาตุกองมู เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัว และผมก็มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ท่านผู้ว่าราชการ จ.แม่ฮ่องสอน คนปัจจุบันไม่มีวันทำเช่นนั้น ความจริงจะปรากฏในไม่ช้านี้ ถ้าทำผิดจริงไม่มีใครหนีพ้นหรอกครับ แต่ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงก็ถูกพิพากษาทางสังคมและกระแสที่สื่อเสนอไป ความดีงามชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหายไปในพริบตาครับ” นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ยังโพสต์ในตอนท้ายด้วยว่า ขอกำลังใจจากเพื่อนๆ และโปรดใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์ข่าวสารด้วย

นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการร้องเรียนของเหยื่อผู้เสียหายใน คดีค้ากามด.ญ.ที่จ.แม่ฮ่องสอน ที่ให้กับอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ตั้งมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2560 หลังมีเรื่องร้องเรียนการค้ากามด.ญ.พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาการร้องเรียน ที่พาดพิงถึงข้าราชการระดับสูงของจังหวัด ลบเทปบันทึกเสียง เชื่อว่ามีความพยายามช่วยเหลือปกปิดความผิด

ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162(3) จึงถือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จึงเตรียมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อป.ป.ช. ให้สอบสวนเอาผิดบุคคลประกอบด้วย 1.ผวจ.แม่ฮ่องสอน 2.พนักงานอัยการที่เป็นประธานคณะงาน 3.นักพัฒนาสังคม จากกระทรวงพม. ที่เป็นเลขานุการ

นายบุญญฤทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีคณะบุคคลมาต่อต้านตน จากการตรวจสอบเชิงลึกพบว่าเป็นขบวนการจัดตั้งเพื่อดิสเครดิตตน และต้องการช่วยเหลือผู้บริหารระดับสูงให้ พ้นผิด โดยมีท่อน้ำเลี้ยงจากอดีตสมาชิกพรรคการเมืองรายหนึ่ง และยืนยันว่าการออกมาให้สัมภาษณ์หรือต่อสู้เรื่องดังกล่าว ตนทำในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ จึงเตรียมร้องศาลปกครองให้ยกเลิกคำสั่งของนายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ รองผวจ.แม่ฮ่องสอน ที่ออกคำสั่งห้ามให้ข่าวสื่อมวลชน

วันเดียวกัน ว่าที่ร.อ.นิธิวรรธน์ โทวรรธนะ ปลัดเทศบาลเมืองยวมใต้ ในฐานะตัวแทน พี่น้องประชาชนชาวอ.แม่สะเรียง และชาวจ.แม่ฮ่องสอน นายสันติพงษ์ มูลฟอง ผอ.ศูนย์พัฒนาเด็กและชุมชน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ตลอดจนเยาวชนไร้สัญชาติในพื้นที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ข้าราชการองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น เดินทางมายื่นหนังสือผ่าน นาย พงษ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอแม่สะเรียง ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายบุญญฤทธิ์ และให้ความเป็นธรรมให้กับ นายสืบศักดิ์

โดยเรียกร้อง 2 ข้อคือ 1.หากผลการสอบสวนพบว่านายสืบศักดิ์ ไม่มีความผิด ขอให้ได้กลับมาดำรงตำแหน่ง ผวจ.แม่ฮ่องสอน 2.การปฏิบัติหน้าที่ของนายบุญญฤทธิ์ ดำเนินการถูกต้องตามธรรมเนียมข้าราชการหรือไม่ การอ้างถึงสมาพันธ์ที่ไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลตามกฎหมายทำให้เสียภาพลักษณ์องค์กร และข้าราชการภูมิภาค ปลัดอำเภอทั่วประเทศเสียหาย หากพบความผิดขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ อย่าให้คนแม่ฮ่องสอนบอบช้ำมากไปกว่านี้

ด้านพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก ชุดทำงานทั้งของภาค 5 ทำงานกันอย่างหนักทุกวัน เน้นเรื่องการขยายผลคดีค้าประเวณี ไม่มีปกป้องเด็ดขาด อยู่ที่หลักฐานจะสาวถึงใครจับหมดทุกคนไม่มียกเว้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนเร่งติดตามลงพื้นที่เพื่อหาตัวบุคคลที่ถูกซัดทอด และก็ได้ตัวมาส่วนหนึ่ง โดยนัดให้ผู้เสียหายหรือผู้ร้องเรียนมาชี้ตัวอีกครั้ง ที่บก.สส.ภูธรภาค 5 ในครั้งต่อไป สำหรับชุดสืบสวนภาค 5 นั้น รวบรวมรายละเอียดรูปภาพทั้งกลุ่มแม่เล้า นายหน้า ทั้งหมด 8 คน จำนวน 27 คดี และกลุ่มผู้ซื้อประเวณี ที่กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน หาตัว มี 13 คน 6 คดี

ประกอบด้วยข้าราชการ ทหาร และคนขายเต้าหู้ ซึ่งล่าสุดสามารถจับกุมคนขายเต้าหู้ได้แล้ว อยู่ระหว่างนำไปให้ผู้เสียหายชี้ตัว ส่วนกลุ่มผู้ซื้อประเวณี ซึ่งถูกดำเนินคดีแล้ว ทั้งหมด 13 คน 6 คดี ประกอบด้วย พ.ต.ท.มงคล ปันตี ร.ต.ท.อำนาจ ยะกาวิน ด.ต.บุญหลง วงศ์โท๊ะ นายวิทยา ภูติรักษ์ พ.ต.ท.พงษ์นรินทร์ พลนำ และส.ต.ท.จิราวัฒน์ นาเมืองพรหม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน