ในหลวงพระราชทาน ดอกไม้ เยี่ยม-ให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ เหตุบึ้มในร.พ.พระมงกุฎ เกล้า ศรีวราห์เผย มี จ.ม.เตือนก่อนก่อเหตุ 3 วันเร่งหาต้นตอ หลักฐานชัดประกอบระเบิดแบบเดียวกับที่ก่อเหตุเมื่อปี”50 ไปป์บอมบ์ในแจกัน ได้ภาพก่อนตูม 5 นาที ตั้งเวลาล่วงหน้า 2 ชั่วโมง ยังไม่ตัดทิ้งทั้งปมการเมือง-ภาคใต้ คสช.ดึงคดีปืน-ระเบิดขึ้นศาลทหาร นายกฯโต้กล่าวหารัฐบาลทำเอง

ในหลวงพระราชทานดอกไม้

จากเหตุลอบวางระเบิดห้องรับรอง พิเศษนายทหารสัญญาบัตร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้แทนพระองค์ เชิญแจกันดอกไม้พระราชทาน และกระเช้าพระราชทาน มอบให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ก่อนเดินทางกลับ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดให้นายติรวัฒน์ สุจริตกุล ที่ปรึกษากองราชเลขานุการในพระองค์ฯ ผู้แทนพระองค์นำแจกันดอกไม้พระราชทานมาให้ผู้ประสบเหตุและตรวจเยี่ยมอาการก่อนเดินทางกลับ

พระมงกุฎเผยยังมีคนเจ็บ14ราย

พ.อ.นพ.สุรศักดิ์ ถนัดศีลธรรม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่าขณะนี้มีผู้พักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ 21 ราย กลับบ้านแล้ว 14 ราย พักรักษาตัวที่ชั้น 5 จำนวน 7 รายคาดว่ากลับบ้านได้ในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนอีก 1 รายที่ได้รับบาดเจ็บกรามหักขณะนี้พักฟื้นอยู่ที่ห้องไอซียู คาดว่าประมาณ 1 อาทิตย์จึงสามารถกลับบ้านได้ ซึ่งทางโรงพยาบาลยังคงเปิดรับรักษาผู้ป่วย และวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ จึงอยากให้ประชาชนมีความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ส่วนในเรื่องกล้องวงจรปิดได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว และรับว่ามีบางจุดที่กล้องใช้งานไม่ได้จริง ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดซื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ครบ 6 รอบว่า ทางทหารได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย ทุกประตูทางเข้า-ออก มีจุดตรวจกระเป๋า โดยทางโรงพยาบาลยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนในพื้นที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ร.พ.ได้นำไม้กระดานมาปิดกั้นเฉพาะพื้นที่เกิดเหตุเท่านั้น และห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน

บิ๊กตู่หน้าเครียดเรียกถกคสช.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นได้เป็นประธานการประชุมคสช.

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวหลังประชุมคสช.ว่า ถ้าถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความยึดโยงครบรอบ 3 คสช.หรือไม่ ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ขึ้นกับการสอบสวนของตำรวจและเจ้าหน้าที่ อย่าถือเป็นการท้าทายลองของกันเลย ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในร.พ.พระมงกุฎเกล้า ได้สั่งการเพิ่มเติมกับฝ่ายความมั่นคงไปแล้วให้ตรวจสอบโดยเร็ว ปัญหาคือกล้องบางตัว บางพื้นที่ติดมาเป็นเวลานาน ซึ่งรัฐบาลได้พยายามปรับปรุงแก้ไขในเรื่องขีดความสามารถและสมรรถนะของกล้องให้ดีขึ้น แต่จำเป็นต้องใช้งบฯ จำนวนมาก

รับต้องวิเคราะห์บึ้มในรพ.ทหาร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในโลกใบนี้ไม่มีใครทำจริงๆ คนที่ทำ ตนถือว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นการกระทำในสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้ ซึ่งคงต้องเร่งรัดดำเนินการ ส่วนจะได้ตัวคนร้ายหรือไม่ ต้องใช้ทุกวิถีทางสืบสวนสอบสวน วันนี้พรุ่งนี้มะรืนนี้อาจจะยังไม่ได้ ก็ต้องเร่งดำเนินการให้ได้ บางอย่างมันเร่งรัดไม่ได้มาก “อย่าไปบิดเบือนว่ารัฐบาลเป็นคนทำเอง ไม่มีรัฐบาลบ้าที่ไหนทำเว้นแต่คนที่อยากเป็นรัฐบาลแล้วคิดจะทำ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเราประเมินอย่างต่อเนื่องบางอย่างเป็นการประเมินจากฝ่ายความมั่นคง ก็ไม่อยากให้ ไปโทษใคร การข่าวมีอยู่ว่ามีคนพร้อมจะเคลื่อนไหว ทั้งด้านการก่อเหตุร้าย ทั้งด้าน ผลประโยชน์ แต่ทุกคนไม่มีใครคิดว่าจะ เกิดในร.พ. แต่คนเลวคิดอะไรก็ได้ที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ตนไม่แน่ใจตรงนี้ ตนไม่ได้มุ่งประเด็นนี้แต่ก็เป็นประเด็นหนึ่งว่าทำไมมาเกิดในวันที่ 22 พ.ค. เกิดในร.พ. ที่เป็นร.พ.ทหารและทำร้ายประชาชน นั่นคือ สิ่งสำคัญที่ต้องนำมาวิเคราะห์ แต่ถึงแม้จะไม่ชอบทหาร อย่าลืมว่าทุกคนเป็นคนไทย ใครที่หวังผลการเมืองและทำแบบนี้คนเหล่านี้จะถูกลงโทษโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยประชาชนเองศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่จะให้ใครเข้ามา

ผบ.ทบ.ปัดสัมภาษณ์ปมบึ้มรพ.

ผู้สื่อข่าวถามถึงการก่อเหตุหน้าห้องรับรองวงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นนามสกุลของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นการส่งสัญญาณท้าทายรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่าถือเป็นการท้าทาย ท้าทายอย่างไรตนก็ไม่สู้เพราะตนต้องใช้กฎหมาย และทำงานให้ดีที่สุด

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงความเป็นห่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เร่งรัดให้คดีคืบหน้าโดยเร็ว ซึ่งหน่วยปฏิบัติทั้งคสช.ทหารและตำรวจ ได้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็วและถูกตัว ส่วนผบ.ทบ.ได้ประชุมเพื่อรวบรวมข้อคิดเห็นต่างๆ และสั่งการให้ดูแลพื้นที่เข้มงวดให้มีความปลอดภัย โดยให้เข้มงวดในการตรวจสอบพื้นที่ต่างๆและทำด้วยความรอบคอบ ทั้งนี้ยืนยันว่าเราต้องป้องกันเหตุให้ได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่ามีผู้ไม่ปรารถนาดีแอบแฝงอยู่ จึงต้องดูแลให้ดีที่สุด

ขณะที่พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคสช.ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

คสช.ยังไม่ประเมินใครก่อเหตุ

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. และโฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการประชุมคสช.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ประชุมโดยกำชับให้ดูเรื่องความปลอดภัย ให้ดำเนินมาตรการตามที่ผบ.ทบ.ได้ชี้แจงไว้ แต่คงต้องปรับมาตรการ โดยแต่ละพื้นที่ต้องพิจารณาปรับให้เหมาะสมตามพื้นที่และสถานการณ์ เนื่องจากเกิดเหตุในพื้นที่โรงพยาบาลซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นมาตรการรักษาความปลอดภัยแต่ละพื้นที่ต้องไปบูรณาการ ไม่ว่าทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองต้องไปกำหนดจุดในพื้นที่สำคัญๆ เช่น สถานที่ราชการหรือพื้นที่ชุมชน มาตรการใดเห็นว่าจำเป็นต้องปรับก็ต้องปรับ

พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เรื่องนี้สังคมโลก ไม่ยอมรับ ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับประชาชนให้ได้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ดูแลความปลอดภัยไม่ได้หย่อนไปกว่ามาตรฐาน แต่เป้าหมายเปลี่ยน สังคมจึงต้องช่วยกันพิจารณา หลังจากนี้จะเป็นกระบวนการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิด แต่ยังไม่ได้ประเมินว่ากลุ่มใดที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดก่อเหตุในครั้งนี้

ดึงคดีปืน-ระเบิดขึ้นศาลทหาร

รายงานข่าวจากคสช. แจ้งว่า จากกรณีมีเหตุการณ์ลอบวางระเบิด 3 ครั้งที่ผ่านมา ล่าสุดเกิดเหตุระเบิดที่ร.พ.พระมงกุฎเกล้า ทำให้หน่วยงานความมั่นคงเตรียมพิจารณานำคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 55/2559 เรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภทที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ที่เคยยกเลิกไปก่อนหน้านี้ กลับมาบังคับใช้ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ปกติ เพื่อให้อยู่ในอำนาจศาลทหารในคดีบางประเภท ในบรรดาคดีที่กระทำความผิด โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 หัวหน้าคสช.จะประกาศให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม และคดีความมั่นคงบางคดี โดยจะมีการประชุมสรุปอีกครั้งเพื่อประกาศใช้ตามมาตรา 44 ในเร็วๆนี้

เผยคนในรูปแจกันบาดเจ็บ2

รายงานข่าวจากบช.น.แจ้งว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน บก.สส. บช.น. ลงพื้นที่ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานจุดเกิดเหตุ พบว่ามีผู้ถ่ายภาพติดแจกันกระเบื้องสีเขียว ใส่ดอกไม้พลาสติกสีส้ม ที่คาดว่าใช้กาวสองหน้าแปะติดไว้กับฝาผนังจุดเกิดเหตุ โดยภายในแจกันคาดว่าคนร้ายได้บรรจุไปป์บอมบ์ไว้ ภาพดังกล่าวถูกบันทึกไว้ได้เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 22 พ.ค.ก่อนเกิดเหตุระเบิดเพียง 5 นาที

แหล่งข่าวจาก บช.น. เปิดเผยว่า ในภาพจะเห็นว่ามีผู้ชายอยู่ด้วยกัน 3 คน จากการตรวจสอบพบว่า ชายมีอายุที่สวมชุดสีดำนั่งด้านหน้าสุด และชายที่สวมชุดวอร์มคาดแดงนั่งอยู่แถวกลาง เป็นกลุ่มคนไข้ของโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ส่วนชายที่สวมเสื้อสีขาว สวมหมวกสีเขียวนั่งอยู่ด้านหลังสุด ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าใช่กลุ่มคนไข้หรือไม่ ทั้งนี้ทางตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายทำทีปะปนมากับผู้ใช้บริการโรงพยาบาลแห่งนี้ ก่อนจะนำแจกันดังกล่าวมาแปะติดไว้ โดยเสมือนแจกันดอกไม้ประดับตกแต่งสถานที่เพื่อความสวยงาม แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ระบุว่าไม่เคยเห็นแจกันใบดังกล่าวมาก่อน อย่างไรก็ตามทางตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

พบจ.ม.เตือนบึ้มก่อนก่อเหตุ

รายงานข่าวระบุอีกว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุทั้งหมด พบว่ามีกล้องวงปิดติดไว้ 13 ตัว พบว่า กล้องเสีย 9 ตัว ส่วนกล้องที่เหลือ 4 ตัว จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ได้เบาะแส ผู้ต้องสงสัยที่นำระเบิดแจกันเข้ามาในอาคาร ส่วนจุดเกิดเหตุระเบิดโดยเฉพาะบริเวณที่มือระเบิดนำแจกันใส่ระเบิดไปติดไว้ที่ผนังห้องนั้น ไม่มีกล้องวงจรปิดติดเอาไว้แต่อย่างใด เช่นเดียวกับทางเข้าด้านข้างของอาคาร

รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า ชุดสืบสวนบก.สส. จับกุมชายผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งมาสอบปากคำที่สน.พญาไท เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี กทม. ได้รับจดหมายแจ้งส่งมาที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับร.พ.พระมงกุฎฯ มีเนื้อหาระบุว่า ท่านผู้อำนวยการ โปรดฟัง ภายในปีนี้ขอให้ท่านระวัง จะมีก่อการร้ายภายในโรงพยาบาลของรัฐแถวนี้ 3 แห่งจากขบวนการ BRN IS เข้ามาแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อน จากมาเลย์ ให้ระวังผู้หญิงมุสลิม โพกผ้า สะพายเป้ และระวังให้ดี โดยลงชื่อท้ายจดหมาย “โจรกลับใจ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจดหมายดังกล่าวมีระบุ ผู้ฝากส่งจาก เขตปทุมวัน ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ นำจดหมายดังกล่าวนำไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.พญาไท กระทั่ง 3 วัน ต่อมาก็เกิดเหตุระเบิดที่ร.พ.พระมงกุฎฯ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับคดีระเบิดหรือไม่

ผบ.ตร.ขอเวลาสืบสวน

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอเวลาตำรวจทำงานก่อน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก่อเหตุ ตำรวจก็มีหน้าที่ ทำให้ประเทศชาติสงบ แต่ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ ตำรวจกำลังเดินไปตามพยานหลักฐาน ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงสาเหตุที่แท้จริงของการก่อเหตุได้ หากกล้องวงจรปิดใช้ได้ก็มีประโยชน์แน่นอนทุกคดี ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะบอกว่าได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุใช้ได้หรือไม่ ต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อน ไม่สามารถกล่าวหาใครโดยไม่มีหลักฐานชัดเจนได้ เดี๋ยวจะมาโจมตีตำรวจอีก

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวอีกว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ทำเป็นขบวนการอยู่แล้ว เป็นพวกกลุ่มนิยมความรุนแรง ไม่มีหรอกในโลกนี้ที่จะไปวางระเบิดในโรงพยาบาลแบบนี้ การที่คนร้ายใช้ตะปูทำสะเก็ดระเบิดนั้นพุ่งเป้าประสงค์ต่อชีวิตอยู่แล้ว หากไม่ถึงชีวิตก็ต้องบาดเจ็บแน่นอน ส่วนการเลือกจุดก่อเหตุจะเป็นการแสดงสัญลักษณ์อะไรหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่คนที่ทำแบบนี้มันไม่ไหว “หนักแผ่นดิน” การสืบสวนจนถึงขณะนี้คนร้ายที่ก่อเหตุทั้งที่กองสลากฯ โรงละครแห่งชาติ และร.พ.พระมงกุฎฯ เป็นกลุ่มเดียวกัน ผู้ชำนาญการด้านระเบิดชี้ว่าซิกเนเจอน์การทำระเบิดเป็นคนคนเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสืบสวน มีประเทศไหนบ้างล่ะ ที่ระเบิดโรงพยาบาล ในพื้นที่ภาคใต้ ศชต. ก็ยังไม่มีเลย ก็ให้คิดเอาเองว่าคนที่ทำคิดอย่างไร ให้ประชาชนช่วยกันคิดว่าคนที่ทำเป็นอย่างไร

ศรีวราห์เรียกทีมสืบถกคดี

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีโดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา(สบ10) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รองผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส. บช.น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 และชุดสืบสวน สอบสวนร่วมประชุม โดยมีการหารือ ด้านเทคนิคทางคดีการสอบสวนสืบสวนนิติวิทยาศาสตร์และการข่าว

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวก่อนการประชุม โดยยอมรับว่า พยานหลักฐานที่พบในจุดเกิดเหตุเป็นเศษแจกันสีเขียวซึ่งตรงกับแจกันสีเขียวที่ปรากฏในภาพที่สื่อมวลชนนำเสนอว่าเป็นภาพก่อนเกิดเหตุ ที่มีแจกันสีเขียวใส่ดอกไม้ วางติดไว้มุมห้องขณะที่มีชาย 3 คนนั่งที่เก้าอี้ โดยชายทั้งสามคนที่ปรากฏในภาพก็ต้องตรวจสอบเข้าสอบปากคำ แต่เชื่อว่าขณะนี้ทั้งสามบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ โดยชายที่สวมหมวกเบเรต์ก็เป็นหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย ส่วนกรณีที่มีการส่งต่อภาพชายผู้ต้องสงสัยในโซเชี่ยลมีเดียนั้นก็เป็นเรื่องของโซเชี่ยลมีเดียยังไม่เป็นเรื่องในสำนวน

ยังไม่พบภาพคนวางแจกันบึ้ม

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้แม้กล้องวงจรปิด ในที่เกิดเหตุจะใช้งานได้เพียงบางส่วน ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนสอบสวน เพราะการหาพยานหลักฐานสามารถประกอบได้จากหลายอย่าง ไม่จำเพาะแค่กล้องวงจรปิดเท่านั้น ขณะนี้ในเรื่องของสำนวนการสืบสวนสอบสวนยังไม่พบภาพผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุนำแจกันไปวางในจุดดังกล่าว ตามที่พล.ต.อ. จักรทิพย์ระบุว่า กลุ่มที่ก่อเหตุระเบิดทั้งสามจุด เป็นกลุ่มที่นิยมความรุนแรงก็เป็นข้อมูลที่นำไปสู่การสืบสวนสอบสวน ที่ต้องรับฟัง

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวภายหลังประชุมชุดสืบสวน ว่า การประชุมวันนี้แบ่งหน้าที่ให้ชุดสืบสวนสอบสวน และจะขอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ออกคำสั่งตั้งคณะทำงาน และให้รายงานความคืบหน้ามาที่ตนทุกวัน จากการสืบสวนสอบสวนชัดเจนว่าระเบิดอยู่ในแจกัน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจหาดีเอ็นเอแฝงในวัตถุพยาน แต่ความร้อนจากการระเบิดทำให้พบดีเอ็นเอน้อยมาก ขณะนี้ตรวจสอบการตั้งเวลาระเบิดด้วยไอซีไทเมอร์ พบว่าตั้งเวลาก่อนเกิดเหตุ 2-4 ชั่วโมง ทำให้ต้องหาพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบหาตัวบุคคลที่เข้าออกในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัว

ยังไม่ตัดทิ้งทั้งปมการเมือง-ใต้

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยืนยันจากซิกเนเจอร์การประกอบระเบิดทั้ง 3 จุด ตั้งแต่กองสลากฯเป็นต้นมาว่าเป็นฝีมือกลุ่มเดียวกัน กำลังตรวจสอบวงจรปิดทั้ง 3 จุดเพื่อหาความเชื่อมโยงถึงตัวคนทำ ตอนนี้บอกได้ว่าเดินหน้าเริ่มนับหนึ่งแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้ อยู่ในสำนวน มูลเหตุในการก่อเหตุยังไม่ตัดเรื่องใดทิ้ง ทั้งเรื่องการเมืองและภาคใต้

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า ลักษณะการประกอบระเบิด เหมือนกับกลุ่มที่ก่อเหตุระเบิด ก่อกวนทางการเมืองปี”50 ที่ หน้าห้างเมเจอร์รัชโยธิน หน้าบก.ทบ.และซอยราชวิถี 26 ซึ่งครั้งนั้นยังไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด แต่พยานหลักฐานเกี่ยวกับระเบิดวิธีการคล้ายกันมาก ส่วนครั้งนี้จะเป็นเรื่องการเมืองเหมือนปี 50 หรือไม่ตนยังไม่ยืนยัน จะพูดแต่ตามพยานหลักฐานในสำนวนเท่านั้น และในฐานะดูแลงานด้านความมั่นคง ตนแสวงจุดร่วม สงวนจุดแยก จะพูดให้แตกแยก โดยไม่มีหลักฐานไม่ได้ จึงจะชี้มูลเหตุก่อไม่ได้ จะพูดแต่ในสำนวนคดีอาญาเท่านั้น ตอนนี้ต้องพูดแต่เรื่องปรองดอง พูดให้แตกความสามัคคีไม่ได้ เอาเขาเล่าว่ามายันในสำนวนการสอบสวนไม่ได้

รับมีจม.เตือนล่วงหน้า 3 วัน

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวน ยอมรับว่ามีสัญญาณ เตือน ว่าจะเกิดเหตุในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในละแวกเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ระวัง แต่ไประวังโรงพยาบาลอื่น โดยมีสัญญาณเตือนก่อนเกิดเหตุ 3 วัน มีการลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ก็ไม่ให้น้ำหนัก ก็ได้สืบสวนตรวจสอบที่มา ไล่ไปว่าจดหมายนั้นมีที่มาอย่างไร เป็นหนึ่งแนวทางการสืบสวนที่ตั้งไว้ เมื่อมีพยานเอกสารเกิดขึ้นก็ต้องตรวจสอบ แต่เรื่องการทำคดีต้องยึดพยานหลักฐาน ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานก่อน

พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รองผบช.น. กล่าวว่า มีการส่งจดหมายมา เขียนด้วยลายมือเข้ามาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เป็นการเตือนจากผู้หวังดี ส่งไปถึงโรงพยาบาลในละแวกนั้น เจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบและมีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พญาไท

พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการงาน ตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี กล่าวว่า จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุที่ กองสลากฯ โรงละคร และร.พ.พระมงกุฎฯพบวัตถุพยานเหมือนกัน คือ ท่อพีวีซี ไอซีไทเมอร์ ตัวบรรจุเชื้อปะทุ ตัวเก็บประจุ แบตเตอรี่ สายไฟ ลักษณะวงจรระเบิดเหมือนกันทั้ง 3 จุด ลักษณะการประกอบเหมือนกันหมดเป็นระเบิดแสวงเครื่อง จุดระเบิดด้วยการตั้งเวลา แต่ที่ร.พ.พระมงกุฎฯ ใส่ตะปูเข้าไปด้วย ซึ่งในปี”50 ที่เกิดเหตุ 3 จุดก็พบ การจุดระเบิดด้วยไอซี ไทเมอร์เหมือนกัน ตัวพื้นฐานเหมือนกัน แต่วิธีการนั้นต่างกัน แต่เชื่อได้ว่าเชื่อมโยงกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน