ส่ง เบนซ์เรซซิ่ง นอนคุก “แพท”โฮ! อุ้มลูก-หน้าห้องขัง ไม่ให้ประกัน ปฏิเสธข้อหา

นางเอกสาว”แพท ณปภา”ปล่อยโฮ อุ้มลูกรอเยี่ยม แต่ไม่พบ หลัง “เบนซ์ เรซซิ่ง”สามีไม่ได้ประกันคดีสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยศาลพิเคราะห์เห็นเป็นคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนมาก เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม เจ้าหน้าที่คุมตัวฝากขังทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง คุมตัวแดนแรกรับ ไม่ให้พบกับเครือข่ายไซซะนะ ที่อยู่คนละแดนแน่นอน ขณะที่ทนายความเตรียมยื่นประกันใหม่ ส่วนเบนซ์ให้การปฏิเสธ ยืนยันในความบริสุทธิ์ พร้อมต่อสู้คดี

เมื่อเวลา 8.00 น. วันที่ 29 พ.ค. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถชื่อดัง อายุ 30 ปี จำเลยคดีร่วมสมคบฟอกเงินกับนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ เครือข่ายนักค้ายาเสพติดไซซะนะ เดินทางมาพร้อมกับมารดา และนายสิทธิโชค ตรีเนตร ทนายความ เพื่อรายงานตัวต่อศาลและสอบคำให้การในคดีที่อัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอัครกิตติ์ นายสรรเสริญ หรือเน็ต รสานนท์ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา จ.นนทบุรี และน.ส.อังสุพร หรืออุ้ม อินา อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา จ.น่าน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ และร่วมกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522, พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3, 4, 6, 10, 14 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 5, 9, 60

หลังให้การนานกว่า 3 ชั่วโมง นายสิทธิโชค ทนายความกล่าวว่า นายอัครกิตติ์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในชั้นสอบคำให้การ และขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นหลักทรัพย์ 3 ล้านบาท รวมกับของเก่าที่เคยยื่นไปแล้วเป็น 3.5 ล้านบาท เพื่อขอยื่นปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้เหตุผลต่อศาลว่า นายอัครกิตติ์มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีพฤติการณ์ไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน

ต่อมาเวลา 16.00 น. ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้วพิเคราะห์พฤติการณ์และความหนักเบาของคดีแล้ว เห็นว่า จำเลยกับพวกสมคบและสนับสนุนช่วยเหลือกันเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) จำนวน 140,000 เม็ด กับสมคบกันกระทำ ความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนมาก โดยกระทำเป็นเครือข่ายยาเสพติดเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว ไม่คำนึงถึงผลกระทบถึงบุคคลอื่น หรือต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม นับเป็นภัยร้ายแรงสมควรปราบปรามให้สิ้นซาก ทั้งคดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับอัยการโจทก์คัดค้านการประกัน เพราะเกรงว่าจำเลยที่ 1 จะหลบหนี ในชั้นนี้ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง

เมื่อเวลา 16.30 น. ทันทีที่ทราบข่าวว่าศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายอัครกิตติ์ น.ส.ณปภา หรือแพท ตันตระกูล ภรรยานายอัครกิตติ์ เดินทางมาศาลพร้อมกับบุตรชายและบุคคลใกล้ชิด เพื่อให้กำลังใจนายอัครกิตติ์ ซึ่งระหว่างอยู่ที่ศาล น.ส.ณปภาร่ำไห้น้ำตาอาบแก้ม สีหน้าเศร้าหมอง มองผ่านเข้าไปในห้องควบคุม โดยไม่มีโอกาสได้ทักทายให้กำลังใจนายอัครกิตติ์ และเดินทางกลับไปโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายอัครกิตติ์ ซึ่งเดินคู่ไปกับนายสรรเสริญ จำเลยที่ 2 ไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วนน.ส.อังสุพร จำเลยร่วมที่ 3 ถูกนำไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

นายสิทธิโชคกล่าวว่า ขณะนี้มี 2 แนวทาง คือการยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่ต่อศาลอาญา หรือการยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่จะยื่นคำร้องประกันตัวใหม่ต่อศาลอาญา ซึ่งจะยื่นก่อนวันนัดตรวจหลักฐานวันที่ 7 ส.ค.

นายสิทธิโชคกล่าวย้ำด้วยว่า การสอบคำให้การจำเลยที่ยังไม่มีน.ส.ณปภา เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนเดินทางมาศาล ตนชี้แจงกับนายอัครกิตติ์ถึงแนวทางว่าศาลอาจมีคำสั่งได้หลายแนวทาง หรืออาจไม่ให้ประกันตัว แต่นายอัครกิตติ์ก็ยืนยันจะมาศาล พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์และพิสูจน์ตัวเอง นายอัครกิตติ์ก็มีจิตใจที่เข้มแข็งมาก ไม่คิดที่จะหลบหนี แม้ศาลจะไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ก็เคารพดุลยพินิจของศาล แต่เราก็จะขอความเมตตาต่อศาลในการยื่นประกันตัวใหม่ โดยในวันที่ 30 พ.ค. ญาติและทนายความจะเข้าไปเยี่ยมนายอัครกิตติ์ด้วย ส่วนวันนี้ที่น.ส.ณปภา และลูกได้เดินทางมาศาลก็ยอมรับว่าคงจะเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกโศกเศร้าอยู่บ้าง

ล่าสุด “แพท ณปภา” ได้โพสต์ภาพลงใน ไอจี เป็นภาพเบนซ์กำลังอุ้มน้องเรซซิ่ง พร้อมระบุว่า “ไม่เป็นไรนะ @benzracing #racingfamily”

นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง กล่าวถึงการควบคุมตัวนายอัครกิตติ์ ว่า ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางได้รับตัวนายอัครกิตติ์ เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. โดยให้เจ้าหน้าที่พยาบาลตรวจสภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ และทำประวัติส่วนตัวของ ผู้ต้องขังในเบื้องต้นก่อน โดยจะคุมตัวยังแดน 3 ซึ่งเป็นแดนแรกรับผู้ต้องขังของทางทัณฑสถานบำบัดฯ พร้อมให้อยู่กับผู้ต้องขังชั้นดี เพื่อช่วยในการสอดส่องดูแล และไม่ให้นายอัครกิตติ์เกิดอาการเครียด ซึ่งจะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่เรือนจำเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

ส่วนกลุ่มเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้มพิมพา ชาวลาว ผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายใหญ่และลูกน้อง เจ้าหน้าที่กระจายกันคุมขังอยู่ในแดน 8, 9 และ 10 โดยไม่ได้มีการให้เครือข่ายยาเสพติดเจอกันเด็ดขาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน