พันธ์ยศ แจงยิบ! ปมหน้ากาก 200 ล้านชิ้น เจอ‘อ.อ๊อด’จับพิรุธ-ถามกลับ

หน้ากาก / จากกรณี “นายบอยไนท์มาร์เก็ต” หรือ “ศรสุวีร์” โพสต์คลิปโชว์ว่ามีหน้ากากอนามัยกักตุนเพื่อส่งออก 200 ล้านชิ้น หลายคนมุ่งไปที่ “คุณพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์” ประธานยุทธศาสตร์ พรรคภราดรภาพ ซึ่งเป็นนักธุรกิจ เพราะสถานที่ที่บอยไปถ่ายคลิปคือบ้านคุณพันธ์ยศ และอีกฝ่ายได้ทำธุรกิจกับจีน หลายคนพุ่งเป้าว่าเขาหรือเปล่าที่เอาหน้ากากอนามัยไปกักตุนไว้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

รายการโหนกระแสวันที่ 10 มี.ค. “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “คุณพันธ์ยศ” มาพร้อม “รศ.ดร. วีรชัย พุทธวงศ์” หรือ “อ.อ๊อด” ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ และ “ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร”

คุณพันธ์ยศ สรุปหน้ากากอนามัยที่บอยไนท์มาเก็ตเอาออกมาเปิดเผย และไปโพสต์คลิปในสถานที่แห่งหนึ่ง ยอมรับมั้ยว่าเป็นโรงเก็บของของคุณ?
พันธ์ยศ : “ใช่ครับ เป็นที่บ้านเลย”

คุณรู้จักบอยได้ไง?
พันธ์ยศ : “มีผู้ใหญ่ท่านนึงแนะนำ เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่รัฐมนตรี เนื่องจากท่านอายุมาก ก็ให้ผมช่วยดำเนินการประสานงานจัดหาหน้ากากอนามัย ช่วงตอนเริ่มต้น ตอนนั้นชาวจีนมาหาหน้ากากที่ไทย ตั้งแต่เดือน ม.ค ต่อเนื่องมาถึงก.พ. ช่วงอู่ฮั่นเลย”

ตอนนี้กฎหมายกำหนด หลัง 20 ก.พ. เขาควบคุม แต่คุณปล่อยตั้งแต่แรก?
พันธ์ยศ : “ใช่ครับ ตอนนั้นผมเหมือนตัวกลางมากกว่าระหว่างตัวแทนจากโรงงาน อีกส่วนช่วยจัดหาให้ โดยการสั่งซื้อต่างๆ ก็ผ่านออนลน์ซะเป็นส่วนหนึ่ง แต่บางที่แพ็กกิ้งไม่ดี ไม่ได้มาตรฐานตามที่จีนต้องการ ก็เอามาแพ็กใหม่ ใส่กล่องใหม่ให้ดูเรียบร้อย”

ยืนยันตั้งแต่ม.ค.?
พันธ์ยศ : “ใช่ครับ ตั้งแต่ม.ค. ต่อเนื่องถึงก.พ.”

คุณสั่งมาจากไหนเยอะขนาดนั้น?
พันธ์ยศ : “จริงๆ ไม่ได้เยอะมาก เท่าที่เห็นในคลิปบอยหลักหมื่นชิ้นเท่านั้นเองไม่ถึงแสนชิ้นด้วยซ้ำ”

คุณใช้คำว่าเท่าที่เห็น แต่คุณสั่งมาเองไม่ใช่เหรอ?
พันธ์ยศ : “ใช่ครับ บางทีสั่งมาก็แล้วแต่จำนวน คนต้องการเท่าไหร่ ผมก็ทำหน้าที่จัดหา บางทีแค่โทรไปเขาก็มาส่งแล้ว”

เอามาจากไหน?
พันธ์ยศ : “ทุกที่ครับ ส่วนใหญ่หามาจากออนไลน์ หลังๆ อยู่เฉยๆ ก็มีน้องๆ ที่เคยซื้อขายมาส่งที่บ้านเลย”

แผ่นเท่าไหร่?
พันธ์ยศ : “โห ทำตั้งแต่เริ่มต้น แผ่น 2 บาท 2.5 บาท จนถึง ณ ปัจจุบัน ราคา 15 บาท 15.5 บาท”

ส่งไปไหน?
พันธ์ยศ : “ส่วนใหญ่เป็นคนจีนที่จะมาหา ก่อนหน้านี้คนจีนทั้งนั้น ก็มีช่วงหลังๆ มีคนไทยที่ทราบว่าผมสามารถหาหน้ากากได้ ก็ติดต่อมาเป็นจำนวนมาก”

หนึ่งในนั้นคือบอย?
พันธ์ยศ : “หนึ่งในนั้นคือคุณบอย บอยนี่ติดต่อเป็นแค่ตัวแทน เป็นนายหน้า ติดต่อประสานงานจากชาวจีนเข้ามาให้มาซื้อกับผม”

คุณมีหน้าที่หาหน้ากากมาเก็บไว้?
พันธ์ยศ : “ไม่เรียกว่าเก็บ ไม่ได้กักตัน อาจเป็นเรื่องความเชื่อมันของคนจีนด้วย ในส่วนของผมทำธุรกิจไทยจีนมาโดยตลอด อาจเกิดความเชื่อมั่นตรงนี้ การที่มารับส่งสินค้าตรงนี้เขารู้สึกปลอดภัย”

บอยรับไปเท่าไหร่?
พันธ์ยศ : “คุณบอยเขาไม่ได้รับไป เขาอาจได้ในส่วนค่าคอมมิชชั่นจากจีน เรียกว่าเป็นค่าแรง ทั่วไปในวงการหน้ากากเขาเรียกว่าค่าคอมมิชชั่นกัน บางทีนายหน้าก็บวกราคาขึ้นไปเอง ถ้ามีนายหน้าหลายคน ราคาก็ถูกบวกทอดๆ กันไป”

บอยที่เราเห็นในคลิป เขาบอกมี 200 ล้านชิ้น อะไรทำให้เขาพูดแบบนั้น?
พันธ์ยศ : “ผมว่าน่าเป็นความเชื่อมั่นของเขา กรณีมีจำนวนมาก เขาคงมีทีมงานที่จะหาได้ เพียงแต่อาจพูดตัวเลขโอเวอร์ไปหน่อย ทำให้ทุกคนคิดว่ามีการกักตุนสินค้าเยอะขนาดนั้น แต่จริงๆ แล้วไม่มี ผมเชื่อว่าถ้ามีผมก็ต้องทราบ แต่นี่ไม่มี”

คุณยืนยันว่าบอยไม่ได้ขาย เป็นแค่นายหน้า?
พันธ์ยศ : “ใช่ครับ”

เขากินเปอร์เซ็นต์ยังไง จากแผ่นหรือเหมาเป็นลัง คุณจ่ายให้บอยด้วยมั้ย?
พันธ์ยศ : “คือด้วยครับ บางทีเรามีการทอนคืนกลับไปให้ ก็ไม่เท่าไหร่ บางทีก็ 10 20 25 สตางค์ แค่นี้เอง”

เขาไปหาพีท กับเล็ก ไอศูรย์ เขาประกาศใครมีหน้ากากให้ติดต่อมาขาย เป็นไปได้มั้ยส่งต่อให้คุณ?
พันธ์ยศ : “เป็นไปได้หมดทุกอย่าง ช่วงนั้นมีชาวจีนเข้ามาสอบถามเยอะมากมาย บางทีก็ให้เขาคุยเองไปเลย เราได้ค่าตอบแทนที่เป็นค่าแรงนิดหน่อย ส่วนใหญ่ให้เขาเจอกันโดยตรงมากกว่า”

หลังอู่ฮั่นทำอีกมั้ย?
พันธ์ยศ : “ม.ค. ทำอยู่ ส่วนก.พ. ก็ยังมีออเดอร์ที่ค้างอยู่ เรามีการทำสัญญาโดยการรับปากเอาไว้ ก็ดำเนินการให้ครบถ้วน”

รู้สึกยังไง ประชาชนมองว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้ากากในคนไทยเองที่ต้องใช้มันขาดแคลน เหมือนคุณได้กำไรบนคราบน้ำตาชาวไทย?
พันธ์ยศ : “ผมว่ามันเป็นเรื่องธุรกิจธรรมดา ตอนแรกเราไม่คิดว่าจะดราม่าขนาดนี้ เราทำธุรกิจโดยปกติใครๆ ก็ทำได้ แล้วปัจจุบันนี้ไม่ได้มีผมแค่คนเดียว ผมว่าทำกันหลักแสนหลักล้านคนด้วยซ้ำที่ทำธุรกิจหน้ากากอนามัย เพราะธุรกิจซบเซา ทุกอย่างขายไม่ได้เลย วันนี้คนหันมาขายหน้ากากอนามัยเพราะมันเป็นสินค้าที่ยังพอขายได้ ดังนั้นคนที่กระโดดเข้ามาสู่ธุรกิจนี้มีเป็นจำนวนมาก”

จะบอกว่าเศรษฐกิจตอนนี้ลำบาก มีแค่ธุรกิจหน้ากากกับเจลล้างมือ แอลกอฮอล์?
พันธ์ยศ : “ใช่ครับ”

แต่การส่งไปขายต่างประเทศ?
พันธ์ยศ : “ต้องบอกว่าก่อนหน้านั้น”

จะบอกว่าปัจจุบันนี้ไม่?
พันธ์ยศ : “ใช่ครับ เมื่อมีการระบาดในไทย ผมก็เตรียมตัวกับครอบครัวและทีมงาน ตอนไม่ระบาดในไทย ทุกคนมองตลาดต่างประเทศ แต่เราวางแผนว่าถ้ามีการระบาดในไทยเราต้องดูแลในไทยเราเป็นอันดับแรก เป็นเจตนารมณ์ตั้งแต่แรก”

บริษัทชื่ออะไร?
พันธ์ยศ : “เดิมทีก่อตั้งบริษัทไทยเฮลท์จำกัด ตอนนี้ปิดดำเนินการไปเป็นปีแล้ว”

มีเพจไทยแมสก์มั้ย?
พันธ์ยศ : “ไม่มีครับ เมื่อก่อนเคยมีเพจ แต่ไม่ได้ชื่อไทยแมสก์ ผมไม่เคยโฆษณาขายสินค้าใดๆ เนื่องจากสินค้าเป็นสินค้าที่ตอนแรกเราออกแบบแพ็กเกจจิ้งด้วยซ้ำ ตอนนี้เราไม่ได้ดำเนินการ หลังจากที่มีกฎหมายออกมา ซึ่งเราก็ต้องปฏิบัติตามเคร่งครัดอยู่แล้ว”

ส่งมากสุดกี่ชิ้น?
พันธ์ยศ : “ตอนนั้นก็คือหลักล้านชิ้น ส่งให้ตัวแทน เขาบอกเป็นตัวแทนเพื่อนำสินค้าตัวนี้ไปบริจาค แต่เราไม่รู้หรอกนำไปบริจาคจริงหรือไม่จริง หรือส่งออกต่างประเทศจริงหรือไม่ เพราะผมไม่ได้ติดตามต่อ เมื่อมีการรับสินค้า ดำเนินการชำระเงินเรียบร้อยก็ไม่ได้ติดตามต่อ”

เรื่องที่มาถึงตัวคุณ ทางการเขาต้องตรวจสอบ คุณยินดี?
พันธ์ยศ : “ยินดีให้ความร่วมมือในทุกข้อกล่าวหา”

ไม่ได้สนิทกับบอย?
พันธ์ยศ : “เขาก็พยายามเข้ามารู้จักในช่วงหลัง ไม่ถึง 1 เดือน ช่วงที่ผ่านมาเจอกันบ่อยหน่อย”

รู้สึกยังไง?
ทนายรณณรงค์ : “รู้สึกแย่ ทุกวันนี้หาซื้อหน้ากากไม่ได้ด้วย เรารู้อยู่แล้วว่ามีคนเอาไปทำกำไรที่ตปท. ถ้าเป็นไปได้ ธุรกิจตัวอื่นมีเยอะแยะไปหมด ไม่ต้องขายหน้ากาก ไม่งั้นต่อไปคนมีรายได้น้อยหาซื้อไม่ได้หรอก หมดปัญญาซื้อ โรคระบาดเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งกว่าอาหารอีกนะ เป็นวัฏจักรในการวนลูป ผมเห็นเพื่อนผมบางคนก็ทำธุรกิจขายหน้ากาก บอกว่ากำไรหลักหมื่นหลักแสน ขายบนความหวาดวิตกของประชาชน พอไปดูหน่วยงานที่ดูแลกำกับ มีความเกี่ยวข้อง ก็บกพร่อง เป็นเดือนแล้วไม่เคยแก้ปัญหาอะไรเลย ปล่อยให้คนเอาหน้ากากไปขายจีน ได้กำไรเยอะๆ ทำให้ประเทศขาดแคลน เป็นดราม่าอยู่กระทรวงโน้นกระทรวงนี้ จริงๆ ถ้าแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น พวกผมก็ไม่ต้องเดือดร้อน หมอก็ไม่ต้องเดือดร้อน โควิดแม้จะระบาดแต่เรามีอุปกรณ์ป้องกัน ทุกวันนี้มันหาอุปกรณ์ป้องกันไม่ได้”

บอยไนท์มาร์เก็ตบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์?
ทนายรณณรงค์ : “ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น ผมอยากเชื่อว่าสินค้าทุกตัวที่เอามาขาย ประกาศจะขาย คุณไปหามาจากไหน คนเอาสินค้ามาให้คุณไปได้มาจากไหน ในเมื่อกระทรวงพาณิชย์เขามีมาตรการป้องกันแล้ว มันหลุดรอดจากโรงงานได้ยังไง มีคนติดต่อขอซื้อขายจากคุณไปกี่คน ขายราคาเท่าไหร่ คุณขายเกินราคาหรือไม่ ตรงนี้ต้องมีคำตอบมา”

เขาโดนพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ไปก่อน?
ทนายรณณรงค์ : “ตอนนี้หลักฐานยังไปไม่ถึง แต่ผมเชื่อว่าถ้ามีการสืบสวนต่อ มีการขยายผล ใครแอบเอาไปขายคนอื่นหรือเปล่า”

จะบอกว่าภาครัฐไม่ได้ควบคุมตั้งแต่แรก?
ทนายรณณรงค์ : “ใช่ครับ ถ้าควบคุมผมก็ไม่เดือดร้อน หมอก็ไม่เดือดร้อน เขามีอุปกรณ์ป้องกันโควิดเต็มที่ ใครไปรักษาก็มีแจกด้วยซ้ำ พอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ผมเสียใจมาก”

รู้สึกยังไงที่คนไทยหาหน้ากากอนามัยไม่ได้ เราอาจเป็นส่วนหนึ่งในการส่งไปต่างประเทศ?
พันธ์ยศ : “จริงๆ เราก็มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว ผมก็รู้สึกเสียใจส่วนหนึ่ง อย่างที่บอกการนำส่งออกไปต่างประเทศ ตอนแรกเราคิดว่าทจะทำให้มีรายได้เข้าประเทศด้วยซ้ำ เป็นโอกาสของประเทศไทยด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีโรคระบาดและกฎหมายไม่เอื้ออำนวยให้ทำธุรกิจ หรือทำให้หน้ากากอนามัยมีมากพอกับประชาชน ก็รู้สึกเสียใจกับกฎหมายที่รัฐบาลออกมา”

เสียใจกับกฎหมายที่รัฐบาลออกมาควบคุมเหรอ ทำให้คุณไม่ได้ขายเหรอ?
พันธ์ยศ : “ไม่ใช่ หมายถึงสินค้าอยู่ที่อุปสงอุปทาน ดีมานต์ซัปพลายมากกว่า คือกฎหมายแค่เป็นการควบคุม ซึ่ง ณ ขณะนั้นราคามันไปไกลมากแล้ว แล้วสินค้ามันหายากมาก”

ตอนนี้มีเท่าไหร่?
พันธ์ยศ : “มีไม่ถึงหมื่นชิ้น”

จะรับผิดชอบด้วยการเอาไปแจก?
พันธ์ยศ : “แน่นอน ผมทำเป็นประจำอยู่แล้ว แค่ผมไม่ได้โพสต์บอก ผมเอาไปบริจาคอยู่แล้ว และมีบางหน่วยงานมารับที่บริษัท เพียงแต่ผมไม่จำเป็นต้องโพสต์บอกใคร”

อ.อ๊อด : “ต้นทุนคุณบอกว่าสองบาท แต่ที่ตามคลิปแหม่มโพธิ์ดำ คนนั้นเขาประกาศขาย 14 บาท ผมคิดว่าคุณไม่น่าได้ 2 บาทเพราะราคาที่เขาประกาศในคลิป 14.70 บาท ส่วนต่าง 12 บาทกว่าอยู่ที่เขาคนนั้นหรือเปล่า ที่สำคัญเฟซบุ๊กคนนั้นโชว์เครื่องจักร ผมไม่ทราบว่าถ่ายที่บ้านคุณที่กำลังผลิตแมสก์หรือเปล่า”

พันธ์ยศ : “ไม่ใช่ครับ บ้านผมไม่มีเครื่องจักร”

เรื่องเงินที่บอกว่าขาย 14.70 บาท?
พันธ์ยศ : “ผมเป็นแค่ตัวกลาง การซื้อมาขายไป ก็ดูตลาด ถ้าบวกเพิ่มได้อย่างมาก 10-20 สตางค์แค่นี้ มากสุดไม่เกิน 50 สตางค์เพราะเราไม่ใช่โรงงานโดยตรง ถ้าเป็นโรงงานโดยตรงแล้วนำไปขายราคานี้ก็จะได้กำไรมาก นี่คือประเด็นที่น่าจะมีความเข้าใจผิดกัน ไม่ได้กำไรมากขนาดนั้น”

อ.อ๊อดเอาอะไรมา?
อ.อ๊อด : “หน้ากากไม่รู้เอามาจากโรงงานไหน”

พันธ์ยศ : “อันนี้ถือว่าคุณภาพดี อีกอันมาจากเวียดนาม ส่วนใหญ่จะหนา และเห็นสี่ชั้นซะเยอะ ส่วนใหญ่จะเคลมว่ากันน้ำทั้งหมด”

เคยขายมั้ย?
พันธ์ยศ : “เคยมีครับ”

อ.อ๊อด : “หน้ากากอนาย มอก.ไทยต้องกันสารคัดหลั่ง ฉะนั้นต้องป้องกันน้ำได้ แต่ถ้าคนเอาแอลกอฮอล์ไปทำความสะอาด (ฉีดให้ดู) เทน้ำลงไปก็ทะลุเลย อยากจะฝากบอกประชาชนว่าตัวหน้ากากเขามีสารเคลือบ อย่าเอาแอลกอฮอล์ไปฉีด ไปล้าง ไวรัสจะมาจากสารคัดหลั่ง ไม่ใช่เดินไปดีๆ เราจะเป็นไข้หวัด มันต้องมีคนมาจามใส่ก่อน หรือจับอะไรมาป้ายจมูกตัวเอง ตัวกันที่หมอต้องการคือกันน้ำ เราเห็นหลายเพจบางเฉียบแล้วขาย 13 บาท หน่วยงานต้องไล่จับ แล้วคนบอกว่าแอลกอฮอลล์ 70 เปอร์เซ็นต์ฆ่าเชื้อ ฉีดมาปุ๊บหน้ากากคุณไปเลย โดนน้ำลายก็ซึมเข้าจมูก หรือคุณหมอโดนเลือดแล้วซึมเข้าไป มาตรฐานหน้ากากจะมี 3 อย่าง มีประเภททั่วไป กันความละเอียดสูง ตัวที่หมอใช้คือกันน้ำซึมผ่าน แต่ 3 อย่างต้องมีคือลวดโค้งงอ ที่เป็นดราม่านักการเมืองชื่อดัง ไม่มีตัวนี้ คุณพันธ์ยศมีครบมั้ย”

พันธ์ยศ : “ส่วนใหญ่ของผมจะซื้อที่มีลวดและสามชั้น เป็นลักษณะกันน้ำได้ เราดูก็รู้”

อ.อ๊อด : “ป้ายมูลนิธิไปไหน?

พันธ์ยศ : “ยังอยู่ แต่ขยับไปชั้น 2 เนื่องจากว่าคนเข้ามาแล้วป้ายล้มลงมา ก็ติดไว้ชั้น 2 แทน”

อ.อ๊อด : “ห้ามถ่ายภาพจริงมั้ย”

พันธ์ยศ : “ห้ามถ่ายภาพ เนื่องจากช่วงหลังมีคนนำภาพไปโพสต์และไปหลอกลวงคนอื่นก็มี มีมิจฉาชีพเข้ามา คือถ่ายได้ แต่แจ้งหน่อย ขออนุญาตหน่อย”

อ.อ๊อด : “ข้างบนมีเครื่องจักรมั้ย”

พันธ์ยศ : “ไม่มี ตร.เข้าไปแล้วเมื่อวาน นำหมายค้นตลิ่งชันเข้าไปตรวจพื้นที่ ก็อย่างที่บอกว่าเป็นบ้านพักอาศัย เพียงแต่ว่าช่วงดำเนินการเรื่องหน้ากากเป็นการชั่วคราว”

พี่รณณรงค์ยังไงต่อ?
ทนายรณณรงค์ : “ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องหน้ากากได้ อธิบดีกรมการค้าภายในต้องพิจารณาตัวเองนะ ผมเดือดร้อนเป็นเดือนแล้ว ยังไม่ทำอะไรเลย”

เขาบอกทำมาหลายวันแล้ว?
ทนายรณณงค์ : “มันเกิดมาเป็นเดือนแล้ว ถ้านับเป็นสัปดาห์ 40 จะ 50 แล้ว ดูสิ พ่อค้ายังเอาไปขายที่จีนได้อยู่เลย ทำไมไม่ป้องกันตั้งแต่ก.พ. ควรพิจารณาตัวเอง สงสารหมอมากไปรักษาเขาแต่ไม่มีหน้ากากใช้ ต้องมารับบริจาค เพราะคุณไม่ทำการ ถ้าคุณป้องกันได้เราจะต้องมานั่งตรงนี้มั้ย ไม่มีใครอยากว่า พิจารณาตัวเองก็ดี”

วันนี้ยืนยันว่าคุณไม่ได้ส่งออกอีกแล้ว?
พันธ์ยศ : “ไม่มีส่งออกไปนานแล้ว จริงๆ แล้วหน้ากากในประเทศไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ไปอยู่ที่ไหนสักที่”

คุณรู้มั้ยว่า 200 ล้านชิ้นอยู่ไหน?
พันธ์ยศ : “ผมไม่แน่ใจ แต่ไม่ได้อยู่ที่ผมแน่นอน เพราะผมไม่ได้กักตุนหน้ากาก โอเคผมเคยเป็นผู้ค้าหน้ากาก หรือเป็นนายหน้าโบรกเกอร์คอยประสานงาน แต่แม้แต่ผมเองก็หาไม่ได้ ผมยังคิดวิธีการว่าไปรวบรวมจากออนไลน์มาดีกว่า”

เขาว่าคุณเป็นตัวเอ้ให้ตัวเล็กตัวน้อยกระจายขาย?
พันธ์ยศ : “ไม่ใช่ มีแต่ผมเอาจากตัวเล็กตัวน้อยมาบริหารจัดการให้”

จะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดยังไงดี วันนี้หน้ากากเราขาดแคลน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณส่งไปขายต่างประเทศ?
พันธ์ยศ : “ก็ต้องกราบขออภัย ถ้าเดือดร้อนเรื่องการส่งออกของผมในตอนแรก ด้วยเจตนารมณ์ที่ดีว่าเราอยากให้สินค้าประเทศไทยไปสู่ต่างชาติ ขยายเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้อย่างที่บอกถ้าผมเป็นผู้มีอำนาจในรัฐ คงใช้วิธีสนับสนุนให้คนไทยทำหน้ากากดีกว่า หรือขยายให้เกิดเป็นสินค้าเศรษฐกิจไปเลย มากกว่าออกมาตรการแค่เพียงการควบคุม”

ทนายรณณรงค์ : “กำไรดีมั้ย”

พันธ์ยศ : “ช่วงต้นกำไรธรรมดา เพราะของผมมันวันต่อวัน มันผ่านมือเฉยๆ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน