“วศิน”ทีมฆ่า”แอ๋ม”จนมุมที่ลาว สารภาพซัด “เปรี้ยว”ฆ่าหั่นศพ ปมแค้นแจ้งตร.จับยาเสพติดลวงขึ้นรถเอาถุงพลาสติกคลุมหัวซ้อมบีบคอตายคามือ ใช้เลื่อยหั่นศพเองในห้องน้ำ รีสอร์ต แล้วนำศพไปทิ้งที่เขาสวนกวาง ขณะที่สาว “เบนซ์” แฟนวศินก็โดนรวบแล้วที่อุบลฯ ส่วนเปรี้ยว กับ “เอิ้น” คู่หูยังกบดานในพม่า ตร.ออกหมายจับเพิ่มอีกคนที่ 5 “สาวแจ้” พบร่วมวางแผนด้วย ด้านแม่เปรี้ยวรุดพบตร. วอนลูกมอบตัว หนักจะได้เป็นเบา ส่วนพี่สาวระบุน้องโทร.มารับสารภาพฆ่าเพื่อนชื่อแอ๋ม พร้อมเล่ารายละเอียดให้ฟังทั้งหมด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.ภาค 4 จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภาค 4 เรียกประชุม ชุดสืบสวนสอบสวนคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา หรือแอ๋ม กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี พนักงาน ร้านคาราโอเกะใน จ.ขอนแก่น ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี, น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ อายุ 21 ปี, น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี และ น.ส.กวิตา หรือเอิ้น ราชดา อายุ 22 ปี ในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ

พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์เปิดเผยว่ายังคงเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดย 2 คนหลบหนีไปประเทศเมียนมา คือ น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว และ น.ส.กวิตา หรือเอิ้น จากข้อมูลด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย จ.เชียงราย ทราบว่าข้ามแดนไปเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว

ผกก.สส.3 บก.สส.ภาค 4 กล่าวว่า จากการสืบสวนพบความเชื่อมโยงกัน โดยกลุ่ม ผู้ก่อเหตุพาผู้ตายมาทำงาน จนกระทั่งสนิทสนมกัน แต่ภายหลังผู้ตายไปแต่งงานจึงแยกตัวออกมา ก่อนที่ผู้ตายกลับมาทำงานกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนคือ นายวศิณ และน.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์อยู่ระหว่างสืบสวนว่ารู้จัก หรือเกี่ยวข้องกับ ผู้ตายอย่างไร ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังจับกุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไม่ได้ แต่ทราบเบาะแสว่า 1 ใน 4 ผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ประเทศกัมพูชา

ต่อมาเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ. เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 จ.ขอนแก่น ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์-วี สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นรถที่ตรวจยึดมาได้จากบริษัทเช่ารถแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น เมื่อคืนวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมี หลักฐานชัดเจนว่าเป็นรถที่ น.ส.วริศรา ผู้ตายขึ้นไปก่อนจะกลายเป็นศพถูกฆ่าหั่นใน อ.เขาสวนกวาง โดย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาลายนิ้วมือ คราบเลือด เส้นผม เส้นขนต่างๆ รวมไปถึงดีเอ็นเอในรถ

พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์กล่าวว่าภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถได้ขณะมารับผู้ตาย บริเวณถนนหน้าเมือง ตัดถนนเหล่านาดี ห่างจากหอพักผู้ตาย 100 เมตร จากข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 คน เป็นผู้ชายและ ผู้หญิงเช่ารถวันที่ 21-22 พ.ค. และขอเช่าต่อเพิ่มอีกในวันที่ 22-23 พ.ค. นำกลับมาส่งคืนวันที่ 23 พ.ค. จากการตรวจสอบพบเศษปูนซีเมนต์สำเร็จรูปที่ขอบประตูด้านหลัง และเส้นผมจำนวนมาก รอยนิ้วมือบริเวณที่ เปิดประตูท้ายรถ และเมื่อรื้อแผ่นกระดานรองพื้นปิดทับยางอะไหล่ พบเสื้อยืดสีแดงของ ผู้หญิง และเสื้อยืดโปโลของผู้ชายยัดอยู่ในยางอะไหล่ มีคราบสีน้ำตาลคล้ายคราบเลือด

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่ชุดสืบสวน บช.ภาค 4 ประสานไปยังเจ้าหน้าที่เมียนมาฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อติดตามจับกุมตัว น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว และ น.ส.กวิตา หรือเอิ้น ล่าสุดได้เบาะแสว่าตำรวจท่าขี้เหล็กได้รับคำสั่งให้ไปจับกุมตัว ผู้ต้องหาแล้ว แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าทั้งคู่ออกจากหอพักใกล้ร้านคาราโอเกะจุดซ่อนตัวไปก่อนหน้าเจ้าหน้าที่จะไปถึง สอบถามคนในร้านคาราโอเกะระบุว่ามีผู้ชายไทย 1 คน ขับรถรับทั้งคู่ออกไปโดยไม่ทราบจุดหมาย

ข่าวแจ้งด้วยว่า แต่จากการติดตามใน เฟซบุ๊กของน.ส.ปรียานุช หนึ่งในผู้ต้องหา พบว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดต่อกับญาติพี่น้องอยู่ตลอดเวลา ทางตำรวจจึงติดต่อกับญาติเพื่อยืนยันการเข้ามอบตัว โดยผู้ต้องหาสามารถเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ไทยตรงจุดใดก็ได้ ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีพร้อมจะเดินทางไปรับตัว

ส่วนการติดตามจับกุมตัวนายวศินหนึ่งใน ผู้ต้องหาที่พบเบาะแสหลบหนีไปประเทศลาวนั้น เมื่อเวลา 13.45 น. ชุดสืบสวนของ บก.สส.ภาค 4 ประสานและสนธิกำลังกับตำรวจลาวเข้าควบคุมตัวนายวศิน ได้ที่เกสต์เฮาส์แห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ จากนั้นควบคุมตัว กลับเข้าประเทศไทยผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย และคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.สส.ภาค 4 จ.ขอนแก่น

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวศินให้การรับสารภาพว่าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า น.ส.วริศรา ส่วนสาเหตุมาจาก น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว มีความแค้นส่วนตัวกับผู้ตาย โดยสงสัยว่าเป็นสายชี้เป้าให้ตำรวจจับกุมในคดียาเสพติด เมื่อมีโอกาสจึงคิดแก้แค้น โดยไปเช่ารถฮอนด้าซีอาร์-วีมาให้ตนเป็นคนขับ จากนั้นลักพาตัว น.ส.วริศรา โดยระหว่างทาง น.ส.ปรียานุชใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ตายแล้วซ้อม

นายวศินให้การต่อว่าขณะนั้นน.ส. วริศราพูดออกมาว่าซ้อมเลย แต่ถ้ารอดไปได้จะมาเอาคืน ปรากฏว่า น.ส.ปรียานุชซ้อม เหยื่อจนขาดใจตายบนรถ จากนั้น น.ส.ปรียานุชบอกว่าให้พาไปยังที่ดินของตนเองใน อ.เขาสวนกวาง เพื่อนำศพไปทิ้ง ระหว่างทางซื้ออุปกรณ์และเลื่อยจากร้านขายวัสดุก่อสร้าง และน.ส.ปรียานุชคือผู้ลงมือหั่นศพเอง ตนเองเพียงแค่ขับรถให้เท่านั้น

ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง เชิญนายอู๊ด โนนวังชัย อายุ 52 ปี และนางสาคร ภาษี อายุ 62 ปี พ่อแม่ของน.ส.ปรียานุชมาสอบปากคำ โดยนางสาครให้การว่ามีลูก 5 คน น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยวเป็นคนสุดท้อง พอทราบข่าวว่าลูก ถูกออกหมายจับก็เสียใจ ไม่คิดว่าลูกจะ โหดเหี้ยมเช่นนี้ เพราะตั้งแต่เด็กจนโต เลี้ยงลูกให้เป็นคนนิสัยอ่อนโยน แต่การที่ลูกมีนิสัยโหดร้าย อาจเป็นเพราะคบเพื่อนไม่ดี ทำให้ลูกเดินทางผิด แต่ที่ผ่านมาลูกส่งเงินให้สร้างบ้าน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอยากให้ลูกสาวเข้ามามอบตัวโดยเร็ว

“มอบตัวเถอะลูก หนักจะได้เป็นเบาพ่อกับแม่รักลูกเสมอ อภัยให้ลูก ลูกจะทำอะไรช่าง แม่อภัยให้ ขอให้มามอบตัวนะลูกนะ” แม่ น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว ร้องไห้กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

จากนั้นเจ้าหน้าที่เชิญ น.ส.ประภาศิริ สมศรี พี่สาวน.ส.ปรียานุช มาสอบปากคำ ได้ความว่าเมื่อวันที่ 29 พ.ค. เวลา 23.00 น. น้องสาวติดต่อมาคุยทางโปรแกรมบีทอล์ก และโทรศัพท์เข้ามือถือมาบอกว่าทำเรื่องผิดพลาด เพราะลงมือฆ่าเพื่อนชื่อแอ๋ม และยังบอกอีกว่าร่วมกับเพื่อนทั้งหมด 4 คน ล่อลวงแอ๋มออกมาจากร้านเหล้า รับขึ้นรถซีอาร์-วี เมื่อขึ้นรถแล้วก็ซ้อมแอ๋มทั้งตบตี และบีบคอจนแน่นิ่ง

พี่สาวน.ส.เปรี้ยวให้การต่อว่า แต่ช่วงที่ แอ๋มฟื้นขึ้นมา และด่าว่า “ถ้าจะทำขนาดนี้ก็ฆ่าให้ตาย ถ้าไม่ตาย มึงก็ตาย” ประกอบกับแค้นที่บอกตำรวจเรื่องยาเสพติด ทำให้สามีของน้องสาวถูกจับติดคุก จึงลงมือซ้อมหนักขึ้น บีบคอจนขาดใจตายคามือ จากนั้นเปรี้ยวกับเพื่อนๆ จึงขับรถวนในเมืองหลายรอบ ก่อนขับรถไปที่รีสอร์ตในพื้นที่บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น แล้วลงมือ มือหั่นศพแอ๋ม ด้วยตัวเองในรีสอร์ต

เวลา 18.00 น. พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต อามคำไพ ผบก.ขอนแก่น, พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.3 บก.สส.ภาค 4, พ.ต.อ. นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง นำกำลังตำรวจควบคุมตัวนายวศินไปชี้จุด ก่อเหตุทั้งหมด เริ่มจากจุดแรกภายในห้องพัก รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.เมืองขอนแก่น สถานที่หั่นศพเป็น 2 ท่อน โดยผู้ต้องหาระบุว่าหั่นศพในห้องน้ำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนใส่ถุงพลาสติกยัดใส่ถังดำและนำศพไปทิ้ง

จากนั้นไปชี้จุดที่ 2 ร้านสะดวกซื้อติดกับโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน จุดซื้อถุงพลาสติก ต่อด้วยจุดที่ 3 ซื้อเลื่อย ถังพลาสติก ปูนซีเมนต์ และเสียม จุดที่ 4 สามแยกริมถนนเหล่านาดีตัดถนนหน้าเมือง ใกล้โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง จุดรับผู้ตาย ต่อด้วยจุดที่ 5 ร้านอาหารที่ถนนรื่นรมย์ จุดกลุ่มผู้ต้องหานั่งรับประทานอาหารและร่วมกันวางแผน และพบว่ามีบุคคลร่วมทีมอีกคน คือ น.ส.แจ้ เป็นเพื่อนสนิทของ น.ส.เปรี้ยว

พล.ต.ต.ยรรยงกล่าวว่า ตำรวจจับกุม ผู้ต้องหาคดีนี้ได้แล้ว 2 คน คือนายวศิน และน.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ อายุ 21 ปี แฟนสาวของนายวศิน ถูกจับกุมได้ที่ จ.อุบลราชธานี

ขณะที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวว่า พนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลจังหวัดขอนแก่น ออกหมายจับ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/8 ม.16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาคนที่ 5 ที่ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม โดยน.ส.แจ้ เป็นเพื่อนสนิทกับน.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว พบว่า น.ส.แจ้มานั่งรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านถนนรื่นรมย์ ในคืนวันที่ 22 พ.ค. เพื่อวางแผนฆาตกรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน