ต้องรอถึง 3 วัน! เซียนมวยติด โควิด คาใจไปหา 2 รพ. โดนแซงคิวรักษา
โควิด / สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งลุกลามมากยิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 17 มี.ค. พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 30 ราย รวมมีผู้ป่วยทั่วประเทศ 177 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบรรดาคนในแวดวงมวยและเซียนมวยที่ติดเชื้อหลายสิบราย
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก สรายุทธ ร่างใหญ่ หรือเซียนยุทธ ซึ่งเป็นเซียนมวยที่เข้าไปในเวทีมวยลุมพินี ได้โพสต์ประกาศว่าตัวเองติดโควิด-19 โดยเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา และรู้ผลในวันที่ 14 มี.ค. แต่ได้รอเจ้าหน้าที่และโรงพยาบาลติดต่อมานานถึง 3 วันถึงจะได้รับการรักษา
โดยเซียนยุทธ เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ว่า เมื่อต้นเดือนมี.ค.ได้ไปที่เวทีมวยลุมพินี จากนั้นในวันที่ 13 มี.ค.เริ่มมีอาการป่วยและมีไข้ ประกอบกับเห็นคนในวงการมวยติดโควิด-19 หลายราย จึงตัดสินใจไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง พร้อมย้ายออกจากบ้านแล้วไปพักที่โรงแรม เพราะกลัวหากเป็นโควิดอาจทำให้ครอบครัวติดเชื้อไปด้วย เนื่องจากครอบครัวที่บ้านอยู่ด้วยกัน 7 คน โดยได้ซื้ออาหารและน้ำมาเก็บไว้
กระทั่งในวันที่ 14 มี.ค. โรงพยาบาลเอกชนที่ไปตรวจแจ้งมาว่าตนติดโรคโควิด-19 โดยโรงพยาบาลดังกล่าวแจ้งมาว่าให้กักตัวและจะมีเจ้าหน้าที่ไปรับตัวมารักษา ซึ่งตนก็ได้กักตัวอยู่ถึงวันที่ 15 มี.ค. และทราบข่าวว่า เพื่อนที่ไปตรวจพร้อมกันและคนที่ไปตรวจทีหลังมีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปรักษาแล้ว จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมตัวเองไม่มีเจ้าหน้าที่มารับตัวไป ทั้งที่ไปตรวจและเจอโรคก่อนคนที่ไปตรวจทีหลัง
ต่อมาได้เดินทางไปตรวจยังโรงพยาบาลรัฐอีกแห่ง โดยมอบผลการตรวจที่ยืนยันว่าติดโควิด-19 ให้หมอดู แต่ตามขั้นตอนโรงพยาบาลก็ต้องตรวจเช็กอีกครั้ง และให้ตนกลับมากักตัวเหมือนเดิม
จนถึงช่วงวันที่ 15 มี.ค. เริ่มมีอาการแน่นหน้าอกและยังไม่มีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปรักษา อีกทั้งเมื่อติดต่อไปยังโรงพยาบาลแรกก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมว่าให้รอเจ้าหน้าที่
กระทั่งวันที่ 16 มี.ค. ตนเริ่มรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว เพราะรอมานาน 3 วัน จึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวลงโลกออนไลน์ ไม่นานมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานติดต่อมาเข้ามา และรับตัวไปรักษาช่วง 3 ทุ่มวันที่ 16 มี.ค.
“เหตุการณ์ครั้งนี้อยากวอนขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างรวดเร็วกว่านี้ เพราะถ้าได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ก็อาจทำให้โรคนี้หายได้ไวเช่นกัน ประกอบกับเป็นการลดความเสี่ยงที่เชื้อจะกระจายไปยังคนใกล้ตัว”
