แม่-พ่อเลี้ยงรับสิ้น ฆ่า “น้องรุ้ง” ด.ญ.วัย 12 ปี โยนทิ้งคลองสำโรง หลังตำรวจตามรวบตัวถึงสระบุรี อ้างทุบตีทำโทษเพราะเด็กดื้อ กระทั่งพลั้งมือจนหมดลม เลยช่วยกันจับศพมัดถ่วงหินโยนทิ้งคลอง และพากันเผ่นตั้งหลัก ปู่-ย่าที่สองแควรู้ข่าวถึงช็อกเป็นลมล้มพับหลายรอบ เผยทั้งน้ำตาเลี้ยงมาตั้งแต่ 3 ขวบ ก่อนฝ่ายตา-ยายที่ร้อยเอ็ดจะขอไปดูแลต่อช่วงเรียนชั้นป.4 ไม่คิดว่าหลานสาวจะมาจบชีวิตด้วยมือแม่ตัวเอง ด้านตา-ยายก็เศร้าไม่คิดว่าลูกสาวกับผัวใหม่จะทำได้ลงคอ

(อ่านข่าวขนหัวลุก!! เพื่อนพ่อเลี้ยงผวา เห็น‘น้องรุ้ง’เดินที่ท่าน้ำ เชื่อวิญญาณยังอยู่ที่ห้อง-หลังตายทรมาน)

จากกรณีพบศพหญิงสาววัยรุ่น ถูกฆ่าห่อด้วยผ้านวมมัดเชือกไนลอนโยงกับกระสอบปุ๋ยใส่คอนกรีตถ่วงน้ำคลองสำโรง ช่วงตัดกับคลองผู้เฒ่า ถนนเทพารักษ์ ก.ม.22 ซอย ซับแดง ต.ศีรษะจระเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีน้าสาวมาให้การยืนยันว่าผู้ตายอาจเป็นด.ญ.พรทิพย์ หรือรุ้ง กุลนานันท์ อายุ 12 ปี หลานสาวที่แม่รับจาก จ.ร้อยเอ็ด มาอาศัยในย่านดังกล่าวร่วมอยู่กับสามีใหม่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ตำรวจ บก.ภ.จว.สมุทรปราการ สนธิกำลังตำรวจ บก.ภ.จว.สระบุรี จับกุมนายวจะรัน ทัดสวรรค์ อายุ 34 ปี พ่อเลี้ยงด.ญ.พรทิพย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลาย เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย โดยจับกุมบริเวณบ้านของมารดาผู้ต้องหา ในพื้นที่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง ท้องที่เกิดเหตุสอบปากคำ

สืบเนื่องจากหลังมีผู้พบศพด.ญ.พรทิพย์ ภายในคลองสำโรง นายวจะรันพร้อมน.ส.สุภาพร นนทรา อายุ 31 ปี ภรรยา และเป็นมารดาของผู้ตายรีบย้ายบ้านหนีทำให้เจ้าหน้าที่พบพิรุธ ประกอบกับพยานระบุว่าทั้งคู่มักดุด่าทำร้ายร่างกายด.ญ.พรทิพย์เป็นประจำ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกติดตามจับกุม กระทั่งจับน.ส.สุภาพรได้ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ก่อนนำไปสอบปากคำกระทั่งรับสารภาพ และพาเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายวจะรันในที่สุด

ต่อมา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช. ภาค 1 พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภาค 1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ รุดไปร่วมสอบปากคำนายวจะรันและน.ส.สุภาพรระหว่างถูกควบคุมตัวที่สภ.บางเสาธง ก่อนร่วมกันแถลงข่าวจับกุม

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเผยว่า หลังเจ้าหน้าที่พบศพเด็กหญิงวัยประมาณ 10-15 ปี ถูกถ่วงน้ำลอยขึ้นมาภายในคลองสำโรง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามและหาข้อมูลรวมถึงส่งศพชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จนทราบว่า ผู้ตายคือด.ญ.พรทิพย์ ซึ่งอาศัยอยู่กับน.ส. สุภาพรมารดาและนายวจะรันพ่อเลี้ยง ในห้องเช่าใกล้จุดพบศพ ประกอบกับมีญาติมาติดต่อขอดูภาพถ่ายผู้เสียชีวิตพร้อมยืนยันว่าคือด.ญ.พรทิพย์ พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ กระทั่งติดตามจับกุมและให้การรับสารภาพ

พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งคู่สารภาพว่า หลังรับด.ญ.พรทิพย์มาอยู่ได้ 3 เดือน ก็เริ่มลงโทษทุบตีเด็กเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา อ้างว่าเพราะเด็กดื้อและชอบโกหก โดยส่วนใหญ่น.ส.สุภาพรเป็นผู้กระทำบางครั้งนายวจะรันจะร่วมด้วย นอกจากนั้นเวลาที่ทั้งคู่ออกไปทำงานจะกักขังเด็กไว้ในห้องพร้อมกับบุตรสาวอายุ 3 ขวบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.สุภาพรได้ใช้ไม้ไผ่ตีเข้าไปที่หัวเด็กและตามร่างกาย จนเด็กมีอาการป่วยหน้าบวมจนกินข้าวไม่ได้หลายวัน กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งคู่กลับเข้าบ้านหลังเลิกงานพบว่าด.ญ. พรทิพย์เสียชีวิตแล้ว จึงนำผ้านวมห่อร่างแล้วช่วยกันอุ้มศพขึ้นรถจักรยานยนต์นำไปยังศาลาริมน้ำไม่ห่างบ้านพัก ใช้เชือกมัดมือและเท้า พร้อมนำก้อนหินในบริเวณดังกล่าวใส่ถุงข้าวสารเพื่อถ่วงศพ ก่อนช่วยกันอุ้มศพโยนทิ้งน้ำ จากนั้นกลับไปเก็บข้าวของหนี โดนนำลูกสาววัย 3 ขวบ ไปฝากญาตินายวจะรันไว้

หลังแถลงข่าวเสร็จเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่ก่อเหตุทุกจุด ท่ามกลางสายตาชาวบ้านจำนวนมากที่มามุงดู พร้อมตะโกนสาปแช่งต่างๆ นานา ก่อนควบคุมตัวทั้งคู่ส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางเสาธง ดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

วันเดียวกัน นายวัลลภ กุลนานันท์ และนางประมูล กุลนานันท์ อายุ 60 ปี ชาว อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปู่และย่าของ ด.ญ.พรทิพย์ เผยด้วยความเสียใจว่า เลี้ยงด.ญ.พรทิพย์มาตลอดตั้งแต่อายุ 3 ขวบ หลังนายไพโรจน์ กุลนานันท์ ลูกชายเลิกกับน.ส.สุภาพร แต่ต่อมาลูกชายได้เสียชีวิตลง กระทั่งเรียนหนังสือถึงชั้น ป.4 ทางฝั่งตายายของด.ญ.พรทิพย์ที่ จ.ร้อยเอ็ด ขอไปดูแลเอง ระยะแรกๆ ยังติดต่อกันได้ ก่อนจะเงียบหายไปนานหลายปีแล้ว

“กระทั่งช่วงตีห้าวันนี้ ลูกสาวที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ โทรศัพท์มาบอกว่าน้องรุ้งเสียชีวิต รู้สึกเสียใจมาก เมื่อทราบข่าวว่าหลานเสียชีวิต จากฝีมือแม่และพ่อเลี้ยง ภรรยาผมถึงกับเป็นลมหลายรอบ ตั้งใจว่าในวันพรุ่งนี้ คงเดินทางไปที่สมุทรปราการ เพราะลูกสาวบอกว่าต้องไปเดินเรื่องเซ็นเอกสารต่างๆ เพื่อนำศพน้องรุ้งออกจากโรงพยาบาลมาทำพิธีตามประเพณี” ปู่ผู้เสียชีวิตกล่าวทั้งน้ำตา

ส่วนที่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด นายสุบรรณ มนทรา อายุ 58 ปี และนางสายสมร จงสงชัย อายุ 50 ปี ตาและยายของด.ญ.พรทิพย์ที่ยังอยู่ในความโศกเศร้าเผยว่า น.ส.สุภาพรเป็นลูกสาวคนโต หลังเลิกกับบิดาด.ญ.พรทิพย์ก็มีสามีใหม่ได้ประมาณ 4 ปี และมีลูกด้วยกันอีกคน ต่อมาก็ไปรับด.ญ.พรทิพย์มาเลี้ยงดูโดยให้เรียนชั้นป.4 ที่จ.ร้อยเอ็ด และกำลังจะขึ้นชั้นป.5 ซึ่งลักษณะทั่วไปก็เบิกบานตามวัยมีดุหลานบ้าง แต่ไม่เคยตีเพราะรักมาก

นางสายสมรกล่าวว่า เมื่อช่วงสงกรานต์ลูกสาวมารับตัวน้องรุ้งไปอยู่ด้วย บอกว่าจะพาไปเที่ยวกรุงเทพฯ แล้วจะพากลับมาส่งก่อนเปิดเทอม แต่จนเปิดเทอมแล้วยังไม่เห็นกลับมาจึงพยายามโทรศัพท์ไปหา แต่ไม่ยอมรับสาย กระทั่งไม่กี่วันก่อนมีญาติที่พักอยู่ข้างห้องของลูกสาวที่กรุงเทพฯ โทร.มาถามว่า น้องรุ้งกลับมาแล้วหรือไม่ เพราะไม่เห็นหลายวันไปถามพ่อเลี้ยงกับแม่บอกว่าพามาส่งแล้ว จึงรู้สึกแปลกใจ กระทั่งมีข่าวพบศพถ่วงน้ำใกล้ละแวกบ้านของลูกสาว จึงเริ่มใจไม่ดีให้ลูกสาวไปดูศพกระทั่งพบว่าเป็นน้องรุ้ง

“ทราบข่าวฉันและสามีก็รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าพ่อใหม่และแม่ของน้องรุ้งจะทำกับหลานสาวได้ขนาดนี้ หากวันนั้นไม่ให้น้องรุ้งไปกับแม่ก็คงไม่มาพบจุดจบแบบนี้ ตอนนี้ฉันและสามีได้แต่นั่งมองดูชุดนักเรียนเก่าๆ ของน้องที่เหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า อยากจะนำร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ร้อยเอ็ดมาก แต่เป็นคนหาเช้ากินค่ำคงไม่มีเงินค่าจ้างรถนำศพกลับมา อาจจะให้ลูกสาวคนเล็กและญาติที่อยู่กรุงเทพฯ เผาศพน้องรุ้ง แล้วค่อยนำกระดูกกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน” ยายน้องรุ้งกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน