จับแล้ว ผัวโหดฆ่าฝังเมียวัย 61 เหตุเกิดที่บ้านย่านสมุทรปราการ “บิ๊กอวบ”นำแถลง เผยหลังพบศพ ตร.ตามสืบจนรู้ว่าหนีไปทำงานที่อยุธยา จึงติดตามไปจับกุม ผัวโหดสารภาพ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. อ้างเมียติดเหล้าหนัก เลยให้หักดิบ จนไม่มีแรง ก่อนเกิดเหตุป้อนข้าวให้กิน คนตายสำลักออกมา เลยโมโหลงมือทำร้าย แต่เป็นนักมวยเก่า มือเท้าหนักจนเสียชีวิต ชี้ศพถูกฝังเกือบ 2 สัปดาห์ จึงมีคนมาพบ ตร.คุมทำแผนฯท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้าน

จากกรณีพบศพนางสุรัก อุ้มญาติ วัย 61 ปี ถูกฆ่าฝังดินบริเวณซอกกำแพงข้างบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยอยู่สุข 13 ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทร ปราการ เมื่อเย็นวันที่ 13 มิ.ย. โดยตร.สงสัยนายวิจิตร พันธุ์ภู่ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นสามีใหม่ เป็นคนลงมือฆ่า เนื่องจากชาวบ้านพบเห็นนายวิจิตรทุบตีผู้ตายอยู่บ่อยครั้ง แถมยังเคย ต้มน้ำร้อนลวกจนได้รับบาดเจ็บ กระทั่ง เจ้าหน้าที่ขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการอนุมัติออกหมายจับ ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น และซ่อนเร้นอำพรางศพ” ตามที่เสนอข่าว ไปแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่สภ.เมืองสมุทรปราการ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล พ.ต.อ.สมชัย อินตาพวง พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก. พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.ท.ธงรบ แจ้งจิต รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.สุรเชษฐ์ ปั้นมณี สว.สส. ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายวิจิตร พันธุ์ภู่ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/291 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น ซ้อนเร้นหรือย้ายทำลายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย” โดยจับกุม ได้ที่ ริมคลองชลประทานสายท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า ภายหลังพบศพ และทราบว่าผู้ตายคือนางสุรัก อุ้มญาติ เจ้าหน้าที่สอบสวนพยานแวดล้อมจนเชื่อว่าฆาตกรที่ลงมือฆ่าน่าจะเป็นนายวิจิตร ซึ่งเป็นสามีใหม่ คบหามาได้ 1 ปีกว่า เนื่องจากหายตัวออกจากบ้านไปอย่างมีเงื่อนงำ และชาวบ้านยังบอกว่าชอบทำร้ายนางสุรัก โดยการทุบตีและต้มน้ำร้อนลวกจนได้รับบาดเจ็บมาหลายครั้ง จากแนวทางการสืบสวนแกะรอยตามเส้นทางการหลบหนี จนทราบว่าหนีไปทำงานอยู่ที่จ.พระนครศรีอยุธยา จึงติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้

พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าวเสริมว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายติดเหล้าจนเรื้อรัง จึงพยายามให้เลิกอยู่หลายครั้ง แต่ผู้ตายก็ยังแอบกิน จนกระทั่งต้องใช้วิธีหักดิบ ทำให้ผู้ตายไม่มีเรี่ยวแรง กระทั่งวันที่ 29 พ.ค. เวลาประมาณ 19.00 น. นายวิจิตรได้ไปซื้อข้าวต้มมาป้อนผู้ตาย แต่สภาพร่างกายไม่สามารถทานได้ทำให้สำลักข้าวออกมานายวิจิตรโมโหลงมือทำร้ายโดยการเตะต่อยจนเสียชีวิต ซึ่งผลชันสูตรฯออกมาว่า ผู้ตายกระดูกโหนกแก้มหัก กรามหัก และ ซีโครงหัก

จากนั้น นายวิจิตรใช้เสียมขุดดินฝังร่างผู้ตายไว้ข้างรั้วบ้าน และออกไปทำงานก่อสร้างตามปกติ จนศพเริ่มส่งกลิ่นและชาวบ้านสอบถาม นายวิจิตรได้ตอบว่า เป็นกลิ่นของสุนัขที่ตนฝังไว้ข้างบ้าน จนช่วงเช้าวันที่ 13 มิ.ย. ระหว่างออกไปทำงาน ทราบข่าวว่ามีคนพบศพนางสุรักแล้ว จึงได้หลบหนีไปทำงานรับจ้างเลี้ยงเป็ดอยู่ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ นายวิจิตรยังอ้างอีกว่า สาเหตุที่ทำให้มือเท้าหนัก เนื่องจากเคยเป็นนักมวยมาก่อน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายวิจิตรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก พอเห็นหน้านายวิจิตร ต่างตะโกนด่าทอสาปแช่ง เนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะคุมตัวนายวิจิตรกลับมาสอบสวนดำเนินคดีที่สภ.เมืองสมุทรปราการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน