โต้ไม่คิดวางระเบิดศิริราชด้วย ลุงวิศวกรมือบึ้มร.พ.พระมงกุฎฯ ยันพุ่งเป้าเฉพาะทหารเท่านั้น จ่อส่งตรวจจิตให้ชัดว่า สติยังปกติ ทหารยังคุมตัวที่ม.พัน 4 รอ. ไม่เชื่อ ก่อเหตุต่อเนื่องนาน 10 ปี ทำเพียงลำพัง เค้นสอบเพิ่มเติมโยงหาคนสนับสนุน สอบเพื่อนร่วมงานยืนยันตรงกันไม่ใช่เสื้อแดง แต่ไม่ชอบ ทหารที่ทำร้ายประชาชน และชื่นชมแนวคิด “แม้ว” เรื่องปฏิรูปพลังงานไฟฟ้า “โกตี๋” ชี้ปมพิรุธ-โวยถูกโยงทุกเรื่อง

จากกรณีเจ้าหน้าที่จับกุมนายวัฒนา ภุมเรศ อดีตวิศวกร กฟผ. เกษียณอายุราชการ อายุ 62 ปี ผู้ลงมือวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน ก่อนตรวจค้นบ้านพักย่านบางเขน พบไปป์บอมบ์ อุปกรณ์ประกอบระเบิด รวมถึงสายคล้องบัตรและนาฬิกาติดผนังรูปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้ต้องหาสารภาพว่าก่อเหตุวางระเบิดเมืองกรุงรวมแล้ว 6 ครั้ง เพราะไม่พอใจทหารใช้กำลังสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 53 และทำรัฐประหาร ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับคดีวางระเบิดรวม 5 หมายจับ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ยังควบคุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้า เกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดภายในห้องวงษ์สุวรรณ ร.พ.พระ มงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ไว้ที่กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน4รอ.) โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ตั้งแต่ปี 2550 เพียงคนเดียว เนื่องจากมีความรู้ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้า และมาเรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนของการประกอบระเบิด พร้อมระบุว่า แม้การประกอบระเบิดด้วยไอซีไทเมอร์เป็นวิธีที่ยาก แต่ตนมีความชำนาญใช้ระยะเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ยังต้องควบคุม ตัวผู้ต้องหาไว้สอบปากคำอีกอย่างน้อย 3-4 วัน ในประเด็นที่ยังไม่มีความกระจ่าง รวมถึงความเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นที่อาจจะมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย เนื่อง จากระยะเวลา 10 ปี ที่ก่อเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะมีผู้ที่รู้เห็น และให้การสนับสนุน เมื่อครบกำหนดแล้วจะส่งตัวให้กับพนักงานสอบ สวนกองปราบปรามดำเนินคดีต่อไป

ส่วนกรณีมีข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหา พบว่านายวัฒนา จะเดินทางไปสำรวจพื้นที่ต่างๆ เพื่อเตรียม จะวางระเบิดไปป์บอมบ์อีก ไปสำรวจลู่ทางก่อเหตุที่ร.พ.รามาธิบดีและร.พ.ศิริราชด้วยนั้น นายวัฒนายืนยันว่า ตั้งใจก่อเหตุที่ร.พ.พระมงกุฎฯ เพียงแห่งเดียว เพราะเป็นโรงพยาบาลทหาร ด้วยความไม่พอใจที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมที่วัดปทุมวนารามจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ไม่เคยคิดก่อเหตุที่ร.พ.ศิริราช เนื่องจากไม่ใช่คู่ขัดแย้ง

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดีให้แน่นหนา โดยส่งดีเอ็นเอของนายวัฒนาเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจสอบเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่พบในเหตุระเบิดตามที่นายวัฒนารับสารภาพ ยกเว้น เหตุระเบิดบริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติที่ไม่สามารถเก็บดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยในที่เกิดเหตุไว้ได้ คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ จะรู้ผลการตรวจสอบว่าตรงกันกับนายวัฒนาหรือไม่

นายวัฒนายังให้ข้อมูลการประกอบระเบิดไปป์บอมบ์ด้วยว่า ใช้ความรู้พื้นฐานมาจากวิศวกรไฟฟ้าต่อวงจรระเบิด ประกอบระเบิดและเคยทดลองระเบิดที่บ้านย่านบางเขน โดยเริ่มประกอบระเบิดขนาดเล็กก่อน หลังทดสอบ แล้วได้ผลก็ขยายอานุภาพระเบิดให้แรงขึ้นเรื่อยๆ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนไปสอบสวน ปากคำพยานบริเวณใกล้เคียงบ้านของนายวัฒนา ว่าเคยได้ยินเสียงคล้ายระเบิดบ้างหรือไม่ เพื่อตรวจสอบคำให้การและรวบรวมหลักฐานประกอบคดี

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนยังสอบปากคำอดีตเพื่อนร่วมงานนายวัฒนา ให้รายละเอียดว่า นายวัฒนาเคยไปร่วมชุมนุม แต่เคยบอกว่าชื่นชอบความคิดปฏิรูปพลังงานไฟฟ้าของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และไม่ชอบที่ทหารทำร้ายประชาชน โดยเฉพาะกรณีที่วัดปทุมฯ

ส่วนกรณีผู้ต้องหาให้การว่า ลงมือก่อเหตุเพียงลำพังเพราะไม่ชอบทหารจากกรณี 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม ย่านราชประสงค์ แต่ไม่ เคยไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น เจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวนยังไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มฮาร์ดคอร์ช่วงเหตุการณ์ชุมนุมที่ชุดสืบสวนรวบรวมประวัติข้อมูลเอาไว้ จากการสอบถามนายวัฒนาไม่เคยมีคนใกล้ชิดหรือญาติ สูญเสียหรือบาดเจ็บจากเหตุชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่เตรียม นำตัวนายวัฒนาส่งให้แพทย์นิติจิตเวช ตรวจสอบยืนยันว่าผู้ต้องหาก่อเหตุไม่มีอาการทางจิตประสาท

วันเดียวกัน นายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋ กชธรรมคุณ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการยูทูบ Thais Voice ที่มีนายจอม เพชรประดับ เป็นพิธีกรว่า ไม่รู้จักกับนายวัฒนาที่ก่อเหตุระเบิดร.พ.พระมงกุฎฯ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมีข้อที่น่าสงสัย อันดับแรกนายวัฒนาเป็นพนักงาน กฟผ. ที่ส่วนมากเป็นเสื้อเหลืองจึงไม่เชื่อว่าจะเป็นเสื้อแดงได้ การที่พนักงานกฟผ.จะเป็นคนวางระเบิดนั้นดูทะแม่งๆ

ส่วนที่บอกว่านายวัฒนาสารภาพทำมา 6 คดีนั้น ตั้งแต่ปี 2550 ผ่านมา 10 ปีแล้ว ยืนยันได้อย่างไรว่าเป็นคนทำ แล้วหลักฐานอยู่ตรงไหน ที่เขาสารภาพต้องเชื่อที่เขาพูดไหม หรือว่าเจ้าหน้าที่บังคับให้เขาพูด ส่วนอีก 3 คดี ที่บอกว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทั้งกองสลาก สนามหลวง และร.พ.พระมงกุฎฯด้วยนั้น ไม่มีใครจะสารภาพอย่างนั้นแน่นอน ที่สำคัญคือเมื่อจับตัวเขาได้แล้วทำไมทหารถึงจับไปกักไว้ที่ค่ายทหาร ถ้าบริสุทธิ์ใจทำไมไม่นำตัวไปให้ตำรวจเป็นผู้สอบสวน เพราะที่ออกมาตามข่าวนั้นมีแต่การให้ข่าวของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งฟังดูแล้วไม่ปกติ

นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่านายวัฒนาเป็นคนทำคนเดียว หรือไม่ได้ทำเลย เพราะตั้งแต่ข่าวออกมานายวัฒนาไม่เคยได้พูดเลย ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ให้ข่าวว่าไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิด แต่เมื่อจับตัวได้กลับมีภาพจากกล้องวงจรปิดออกมา แล้วเป็นภาพปิดหูปิดตา ใช่นายวัฒนาหรือไม่ยังไม่มีใครยืนยัน เป็นการออกข่าวฝ่ายเดียวของเจ้าหน้าที่รัฐ มองว่าพยานหลักฐานที่พบนั้นเป็นการปาหี่ ถึงขนาดมีนาฬิกาทักษิณ มีผ้าแดงอยู่ด้วย ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงทำไมเมื่อ จับตัวได้แล้วทำไมไม่เอาให้ตำรวจแถลงข่าว แต่นี่กลับนำตัวไปสอบที่ค่ายทหาร เพื่อให้เขาพูดตามที่ต้องการหรือไม่

“นายวัฒนาไม่ได้เป็นผู้วางระเบิดร.พ.พระมงกุฎฯ แต่เขาเป็นผู้ถูกกระทำ เพราะทุกวันนี้มีแต่ข่าวที่ออกมาจากค่ายทหาร อีกทั้งเชื่อว่าระดับวิศวกร ทำงานกฟผ.ไม่น่าจะเป็นคนทำลักษณะอย่างนั้น ไม่เชื่อว่าคนความรู้ระดับนี้ไม่มีใครบ้าที่จะเอาระเบิดไปวางที่โรงพยาบาล อย่างนี้หรอก ส่วนที่มีความพยายามโยงการระเบิดครั้งนี้มาถึงผมนั้น ผมจะไม่รับมือจะมีแต่รุกกลับเท่านั้น ตอนนี้รุกทุกวัน เหตุระเบิดที่ผ่านมาในยุคที่คสช.มีอำนาจนั้นไม่เกี่ยวข้องกับผมเลยสักครั้ง ผมไม่ก่อเหตุในที่สาธารณะ สิ่งปลูกสร้าง และชีวิตบริสุทธิ์ของประชาชน ที่มีคนโยนข้อหาเข้ามาผมไม่สนใจ เพราะผมไม่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องอาวุธสงครามที่ถูกจับได้นั้น ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผมแต่อย่างใด” นายวุฒิพงศ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน